ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025/26 ได้ 3 สโมสรหน้าใหม่สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบหลักครั้งแรก ได้แก่ ไครัต อัลมาตี, แพฟอส และ โบโด/กลิ้มท์ หลังโค่น เซลติก, เร้ด สตาร์ และ สตวร์ม กราซ ตกรอบเพลย์ออฟ
เมื่อวันอังคารที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ นัดสอง ลงเล่น 3 คู่ โดยที่ เซลติก ทีมจากสกอตแลนด์, เร้ด สตาร์ เบลเกรด สโมสรระดับประวัติศาสตร์ของ เซอร์เบีย และ สตวร์ม กราซ ทีมดังจากออสเตรีย ต่างก็ลงสนามในแต่ละคู่
ทั้ง 3 ทีมต่างก็เป็นทีมดังที่เคยผ่านเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว รวมถึงเป็นทีมที่ชื่อคุ้นหูแฟนบอลบ้านเรามากพอตัว แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมากลายเป็นว่าทั้ง 3 รุ่นใหญ่ต่างก็กอดคอตกรอบกันพร้อมหน้าจนทำให้อดเข้าไปเล่นรอบลีก
เซลติก แพ้ให้ ไครัต อัลมาตี้ ทีมจากคาซัคสถานในช่วงดวลจุดโทษ หลังจากตอนแรกสกอร์รวม 2 นัดเสมอกัน 0-0, เร้ด สตาร์ เบลเกรด ทำได้แค่ออกไปเสมอกับ แพฟอส ทีมจากไซปรัส 1-1 ส่งผลให้สกอร์รวม แพฟอส ชนะไป 3-2 ขณะที่ สตวร์ม กราซ ในนัดแรกพวกเขาแพ้ โบโด/กลิ้มท์ ทีมจากนอร์เวย์มาก่อน 0-5 ทำให้ถึงแม้นัดสอง สตวร์ม กราซ จะเปิดบ้านชนะอีกฝ่ายได้ 2-1 โบโด/กลิ้มท์ ก็ยังชนะด้วยสกอร์รวม 6-2 อยู่ดี
นอกจาก 3 รุ่นใหญ่จะกอดคอกันชอกช้ำแล้วนั้น ผลการแข่งขันทั้ง 3 คู่ในรอบเพลย์ออฟนัดสอง เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทำให้เท่ากับว่าทั้ง ไครัต, แพฟอส และ โบโด/กลิ้มท์ จะได้ลงเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบหลัก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทั้ง 3 สโมสรด้วย
สำหรับ ไครัต พวกเขาก่อตั้งทีมเมื่อปี 1954 และเคยได้แชมป์ คาซัคสถาน พรีเมียร์ลีก หรือลีกสูงสุดของคาซัคสถาน 4 ครั้ง หนึ่งในนั้นคือแชมป์ประจำฤดูกาล 2024 ที่ทำให้พวกเขาได้มาเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกในครั้งนี้ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จครั้งใหญ่
ขุมกำลังของ ไครัต ไม่ได้มีนักเตะที่โด่งดังมากนักอย่างเช่น เอ็ดมิลซอน กองหน้าชาวบราซิเลี่ยนวัย 28 ปีที่เพิ่งคว้ามาร่วมทัพในปีนี้ และ จอร์จินโญ่ แนวนุกชาวโปรตุกีส ส่วนกุนซือของทีมคือ ราฟาเอล อูราซบาคห์ติน ซึ่งมีดีกรีเป็นอดีตกองหน้าทีมชาติคาซัคสถาน
ที่จริง ไครัต เคยลงเล่นรอบคัดเลือกของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2005-06 กับ 2021-22 มาแล้ว แต่ก็อกหักในทั้ง 2 ครั้งที่ว่าจากการตกรอบคัดเลือกรอบแรก และรอบสอง ตามลำดับ ก่อนที่จะสมหวังในครั้งที่ 3
ขณะที่ แพฟอส พวกเขาเพิ่งก่อตั้งทีมเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ปี 2014 หรือก็คือราว 11 ปีก่อนเอง และเมื่อฤดูกาล 2024-25 ก็ได้แชมป์ลีกสูงสุดของไซปรัสไปครองจนทำให้ได้สิทธิ์มาเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก
เดิมทีขุมกำลังของ แพฟอส ไม่ได้มีนักเตะที่น่าสนใจมากนัก แต่เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาพวกเขาเพิ่งสร้างความฮือฮาด้วยการเอา ดาวิด ลุยซ์ กองหลังชาวบราซิเลี่ยนที่เคยเล่นให้ เชลซี, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ อาร์เซน่อล มาร่วมทัพ โดยถึงแม้ ลุยซ์ จะยังไม่ได้ลงเล่นให้ทีมเลย แต่เชื่อว่าเขาน่าจะได้ลงเล่นให้กับทีมเมื่อถึงรอบลีกของศึกชิงถ้วยบิ๊กเอียร์
ในส่วนกุนซือของ แพฟอส นั้น ได้แก่ ฮวน การ์ลอส การ์เซโด้ โดยเขาเคยเป็นผู้ช่วยกุนซือให้กับทีมดังหลายทีมในทวีปยุโรป ไม่ว่าจะเป็น บาเลนเซีย, เซบีย่า, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ อาร์เซน่อล โดยเขาเคยคุม อิบิซ่า กับ เรอัล ซาราโกซ่า 2 สโมสรใน สเปน ด้วย
ปิดท้ายกันที่ โบโด/กลิ้มท์ ทีมที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1916 โดยทีมนี้อาจจะพอเป็นที่รู้จักสำหรับบางคนเพราะที่ผ่านมาพวกเขาเคยเล่นในรายการ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก กับ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก มาบ้าง แถมในฤดูกาล 2024-25 ก็เพิ่งไปถึงรอบรองชนะเลิศของ ยูโรปา ลีก ได้ ก่อนจะโดน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เขี่ยตกรอบ
ขุมกำลังชุดปัจจุบันของ โบโด/กลิ้มท์ เป็นนักเตะ นอร์เวย์ เกือบทั้งหมด มีเพียง 7 คนที่เป็นแข้งต่างแดน ประกอบด้วย วิลลัดส์ นีลเซ่น, อันเดอร์ส คลินเก้อ, แคสเปอร์ โฮจห์, มาติยาส ยอร์เกนเซ่น และ มิคเคล โบร แฮนเซ่น ที่มาจาก เดนมาร์ก, นิกิต้า ไฮกิน ผู้รักษาประตูชาวรัสเซียน และ ซามูเอล บาราคอฟสกี้ นักเตะเชื้อสายสวีดิช ส่วนกุนซือคือ เคทิล คนุตเซ่น
การได้เข้ารอบหลักของ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นสิ่งที่ โบโด/กลิ้มท์ โหยหามานาน เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาได้เล่นรอบคัดเลือกทั้งหมด 3 ครั้ง ประกอบด้วยซีซั่น 2021-22, 2022-23 กับ 2024-25 แต่ก็อกหักทั้งหมด โดยของฤดูกาล 2022-23 กับ 2024-25 เป็นการจอดป้ายที่รอบเพลย์ออฟ หรือก็คือรอบสุดท้ายก่อนเข้ารอบหลักพอดีด้วย
แน่นอน ทั้ง 3 ทีมไม่ใช่ทีมแรกจากชาติของตัวเองที่ได้เล่นรอบหลักของ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่สำหรับสโมสรของตัวเองแล้วนั้น นี่นับเป็นวันที่น่าจดจำสำหรับพวกเขาอย่างแท้จริง
- เด็กเกร็ดบอล -