ด้วยความที่เพิ่งมีโอกาสไปเยือนประเทศแถบสแกนดิเนเวียมาสด ๆ ร้อน ๆ พอเห็นผลการจับสลากประกบคู่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกรอบสามเมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน ผมก็ได้อมยิ้มเล็ก ๆ
เพราะมันมีอยู่คู่หนึ่งครับที่น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มดีเหลือเกิน
มัลโม พบ เอฟซี โคเปนเฮเก้น
สองทีมจากสแกนดิเนเวีย มัลโมจากสวีเดน.. เอฟซี โคเปนเฮเก้นจากเดนมาร์ก
สองทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟุตบอลลีกของตัวเอง มัลโมเก่งที่สุดในสวีเดน.. เอฟซี โคเปนเฮเก้นแกร่งที่สุดในเดนมาร์ก
สองทีมที่เป็นแชมป์ลีกของประเทศมากที่สุด สองทีมที่เป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วยของประเทศเยอะที่สุด
สองทีมที่คว้าแชมป์ลีกได้ถึง 6 สมัยในรอบ 10 ปีหลังสุดเหมือนกัน
มัลโมเคยไปไกลถึงตำแหน่งรองแชมป์ยุโรปด้วยซ้ำ พวกเขาคือคู่ชิงยูโรเปี้ยน คัพ ของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อปี 1979
แม้จะไม่เคยสัมผัสโทรฟี่แชมป์สโมสรยุโรปอย่าง ไอเอฟเค โกเตเบิร์ก คู่แข่งร่วมชาติที่ไปถึงแชมป์ยูฟ่า คัพ 2 สมัย และเข้าถึงรอบตัดเชือกยูโรเปี้ยน คัพ อีก 2 ครั้ง แต่การเข้าชิงบิ๊กเอียร์ที่มิวนิคในครั้งนั้นก็เพียงพอสำหรับมัลโมในการเป็นดาวค้างฟ้าแห่งวงการลูกหนังไวกิ้ง
ขณะที่ เอฟซี โคเปนเฮเก้น เกิดทีหลังเพื่อนแต่มาแรงแซงทางโค้งเขี่ยคู่ปรับร่วมชาติตกข้างทางเกลี้ยง
เพิ่งจะก่อตั้งเมื่อปี 1992 นับอายุได้แค่ 33 ปีเท่านั้น แต่สิงโตร้ายแห่งโคเปนเฮเก้นกวาดแชมป์ลีกเดนมาร์กได้ถึง 16 สมัยจนก้าวขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งชนิดไม่ไว้หน้าคู่ปรับทั้งหลายที่ล้วนอายุมากกว่าไม่ว่าจะเป็น บรอนด์บี้ (อายุ 60 ปี แชมป์ 11 สมัย) AB (อายุ 136 ปี แชมป์ 9 สมัย) B93 (อายุ 132 ปี แชมป์ 9 สมัย) เฟรม (อายุ 139 ปี แชมป์ 6 สมัย) หรือ AGF (อายุ 145 ปี แชมป์ 5 สมัย)
สโมสรในเดนมาร์กอายุเก่าแก่เกินร้อยปีแทบทั้งนั้นครับ ถ้าไม่นับสโมสรจากเกาะอังกฤษ พวกเขาคือชาติที่มีทีมฟุตบอลเก่าแก่ที่สุดในยุโรป (KB - Kjobenhavns Boldklub ก่อตั้งเมื่อปี 1876 หรือเมื่อ 149 ปีที่แล้ว เป็นสโมสรฟุตบอลแห่งแรกในภาคพื้นทวีปยุโรป)
แต่ไม่ใช่ว่า เอฟซี โคเปนเฮเก้น จะไม่มีรากเหง้า อันที่จริงพวกเขาก็เกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง KB กับ B1903 อีกหนึ่งสโมสรในเมืองหลวงที่ก่อตั้งเมื่อปี 1903 นั่นแหละ ช่วงทศวรรษ 1980 ต่อเนื่อง 1990 คือช่วงที่หลายสโมสรในเดนมาร์กประสบปัญหาด้านการเงิน บางทีมล้มละลาย บางทีมใช้การรวมตัวกันเป็นสโมสรใหม่
มิดทิลลันด์ ทีมชั้นนำของเดนมาร์กในเวลานี้ก็เช่นกัน เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 1999 นี้เองจากการรวมตัวกันของ อีคาสต์ เอฟเอส กับ เฮอร์นิ่ง เฟรมาด อายุแค่ 26 ปี น้อยกว่า เอฟซี โคเปนเฮเก้น เสียอีก
แล้วการประกบคู่ระหว่าง มัลโม กับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มอย่างไร ?
สองเมืองนี้อยู่กันคนละประเทศแถมยังมีทะเลช่องแคบโอเรซุนด์ขวางกั้นก็จริง แต่วัดระยะทางแล้วอยู่ใกล้กันมากครับ ถ้าตีเส้นตรงจากเมืองหนึ่งถึงอีกเมืองหนึ่งจะพบว่าห่างกันเพียง 24 กิโลเมตรเท่านั้น
มีเที่ยวบินตรงระหว่างทั้ง 2 เมืองเช่นกัน แต่คนส่วนใหญ่จะโดยสารรถไฟสำหรับการไปมาหาสู่กันมากกว่า ใช้เวลาพอ ๆ กันแต่สะดวกกว่ามากแถมยังประหยัดกว่า
ให้นึกภาพแผนที่ของทั้ง 2 ประเทศก่อนครับ สวีเดนอยู่ทางตอนเหนือสุดของยุโรป เป็นคาบสมุทรยาวลงมาในแนวเหนือ-ใต้
เกือบใต้สุดของสวีเดน นั่นคือเมืองมัลโม
จากมัลโมมองไปทางทิศตะวันตกจะเป็นช่องแคบโอเรซุนด์ ผ่านช่องแคบโอเรซุนด์ไปขึ้นฝั่งก็จะเป็นประเทศเดนมาร์กแล้ว
กรุงโคเปนเฮเก้นอยู่ทางตะวันออกของเดนมาร์ก ข้ามฝั่งไปก็เจอเลย
นั่นล่ะครับ 2 เมืองนี้ถ้าบินตรงด้วยนกเหล็กก็จะห่างกันเพียงแค่ 24 กิโลเมตร ขณะที่รถไฟและรถยนต์ที่จะเดินทางไปมาระหว่าง 2 เมืองต้องอ้อมลงไปด้านล่างเล็กน้อยเพื่อข้ามสะพานโอเรซุนด์ที่เชื่อมระหว่างแผ่นดิน 2 ฟากฝั่ง เปิดใช้เมื่อปี 2000
เป็นสะพานที่น่าทึ่งมากในเชิงวิศวกรรม คือเป็นสะพานข้ามทะเลยาวมาแล้วก็มุดลงอุโมงค์ใต้ทะเลดื้อ ๆ
ลองเปิดกูเกิ้ลแล้วพิมพ์คำว่า Oresund Bridge ดูก็ได้ครับ คุณจะเห็นว่ามันมหัศจรรย์และล้ำยุคจริง ๆ มุดใต้น้ำกันเห็น ๆ จากเกาะเทียมที่ถูกถมขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ตอนที่นั่งรถไฟจากมัลโมไปโคเปนเฮเก้น ผมตื่นเต้นตั้งแต่ได้เห็นภาพของสะพานโอเรซุนด์ และยิ่งตื่นเต้นเมื่อรู้ว่ารถไฟกำลังลดระดับลงเพื่อเตรียมลอดอุโมงค์บนเกาะกลางทะเลเพื่อไปโผล่อีกทีก็แผ่นดินเดนมาร์ก
การประกบคู่กันระหว่าง มัลโม กับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น กลายเป็นเกมที่แฟนบอลเดินทางใกล้ที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบคัดเลือก
นับเฉพาะรอบคัดเลือกนะครับ ไม่เคยมีเกมที่ใกล้กันขนาดนี้มาก่อนในรอบคัดเลือกยูซีแอล ส่วนรอบลึกกว่านั้นย่อมมีเกมที่ใกล้กว่าโดยเฉพาะเกมระหว่าง 2 ทีมจากเมืองเดียวกัน อย่าง อาร์เซน่อล กับ เชลซี ก็ห่างกันแค่ 15 กิโลเมตร หรือ มิลาน กับ อินเตอร์ นี่ระยะทางคือ 0 กิโลเมตรนู่นเลย
การเดินทางทำให้เราได้เห็นและได้รู้อะไรมากขึ้น ตอนที่ไปมัลโมผมทำคลิปเรื่องทีมมัลโม ก็ได้รู้เรื่องประวัติศาสตร์ของพวกเขาและฟุตบอลสวีเดนมากกว่าเดิม ได้รู้ว่า เอเลด้า สตาดิโอน สนามปัจจุบันที่พวกเขาใช้อยู่นั้นสร้างขึ้นใหม่ข้าง ๆ สนามเก่าที่ใช้มาตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 1958 นั่นเลย เดินแค่ 20-30 ก้าวก็ถึง
หรือตอนที่ไปโคเปนเฮเก้นก็แวะไปทำคลิปเรื่อง ปาร์คเค่น สเตเดี้ยม สนามเหย้าของ เอฟซี โคเปนเฮเก้น และทีมชาติเดนมาร์ก ได้เห็นถนนสายที่พา คริสเตียน อีริคเซ่น ออกจากสนามเพื่อไปโรงพยาบาล Rigshospitalet จากเหตุการณ์ล้มฟุบคาสนาม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปี 2021
แล้วผมก็เพิ่งจะได้รู้ว่า มัลโม กับ โคเปนเฮเก้น อยู่ใกล้กันขนาดนี้ และเดินทางด้วยรถไฟบนเส้นทางน่าทึ่งมุดอุโมงค์จากเกาะกลางทะเลอย่างนี้
ในด้านทั่ว ๆ ไปแล้ว มัลโม กับ โคเปนเฮเก้น มีความเป็นมิตรกัน เป็นเมืองบ้านใกล้เรือนเคียง ผู้คนเดินทางไปมาหาสู่กัน
แต่กับเกมฟุตบอล.. มัลโม กับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น ถือเป็นคู่อริ ด้วยความที่ต่างฝ่ายต่างก็กุมอำนาจสูงสุดในวงการลูกหนังของประเทศตัวเอง
ยกแรกเพิ่งจะจบลงไปเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ผลเสมอกัน 0-0 ที่ เอเลด้า สตาดิโอน บ้านของมัลโม (เกมสโมสรยุโรปจะใช้ชื่อ มัลโม นิว สเตเดี้ยม)
เกมสองที่จะตัดสินว่าใครเข้ารอบ จะมีขึ้นในวันพุธหน้าที่ ปาร์คเค่น สเตเดี้ยม
นักบอลเหนื่อยแค่ไหนไม่รู้ แต่แฟนบอลเดินทางสบาย ๆ ไม่เหนื่อยเลย
2 เกมเหย้าเยือนนี้รวมกัน ทางรถไฟแค่ 88 กิโลเมตร..
ทางตัดตรงยิ่งจุ๊บจิ๊บ.. 48 กิโลเมตรเท่านั้น
ใกล้กว่ากรุงเทพฯ ไปอยุธยาเที่ยวเดียวเสียอีก
ตังกุย