ผู้เจ็บมาก่อน อังเก้! จุ๊ปป์ ไฮย์เกส โดนปลดหลังพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ชปล.

ผู้เจ็บมาก่อน อังเก้! จุ๊ปป์ ไฮย์เกส โดนปลดหลังพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ชปล.
จนถึงตอนนี้เรื่องที่ อังเก้ ปอสเตโคกลู โดนปลดจากการเป็นผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ยังเป็นที่ถูกพูดถึงในระดับหนึ่ง เพราะมันมีทั้งคนที่มองว่าเขาควรได้โอกาสทำทีมต่อ รวมถึงกลุ่มที่คิดว่า สเปอร์ส ทำถูกแล้วที่แยกทางกับเขา

แน่นอน เราคงไม่สามารถพูดได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ แต่ที่แน่นอนก็คือนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กุนซือซึ่งพาสโมสรได้แชมป์ระดับถ้วยยุโรปโดนไล่ออกหลังจากเพิ่งพาทีมประสบความสำเร็จมาหมาดๆ โดยตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือชายที่ชื่อว่า จุ๊ปป์ ไฮย์เกส

ในช่วงซัมเมอร์ ปี 1997 เรอัล มาดริด ตัดสินใจดึง ไฮย์เกส มาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของทีม โดยคนที่อยู่ในตำแหน่งก่อนหน้าเขาคือ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ซึ่งที่จริง คาเปลโล่ เพิ่งพา มาดริด ได้แชมป์ ลา ลีกา ในฤดูกาล 1996-97 เพียงแต่เขามีปัญหากับ ลอเรนโซ่ ซานซ์ ประธานสโมสรในตอนนั้น รวมถึงไม่เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มกองเชียร์ มาดริด อีกต่างหาก โทษฐานที่มักจะจับ ราอูล กอนซาเลซ ไปยืนเป็นเหมือนปีกซ้าย จนทำให้ คาเปลโล่ อยู่ในตำแหน่งได้แค่ฤดูกาลเดียว

สำหรับ ไฮย์เกส ตอนนั้นเขาได้รับคำชมพอตัวจากผลงานกับ เตเนริเฟ่ ไม่ว่าจะเป็นการพาทีมได้อันดับ 5 ในศึก ลา ลีกา ซีซั่น 1995-96 จนทำให้ทีมได้โควตาเล่น ยูฟ่า คัพ ฤดูกาลถัดไป ก่อนที่ในซีซั่น 1996-97 เขาจะนำทีมทะลุถึงรอบรองชนะเลิศของ ยูฟ่า คัพ แล้วไปแพ้ ชาลเก้ 04 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ส่วนในลีกนั้นทีมได้อันดับ 8

ในช่วงซัมเมอร์ของปี 1997 มาดริด เสริมทัพไม่มากนัก โดยหากไม่นับพวกที่หมดสัญญายืมตัวแล้วกลับมาอยู่กับทีม พวกเขาก็ได้เพียง เฟร์นานโด มอริเอ็นเตส ที่ทำไป 15 ลูกกับ เรอัล ซาราโกซ่า ในช่วง 1 ซีซั่นก่อน และ ไอตอร์ การันก้า กองหลังของ เรอัล ซาราโกซ่า มาร่วมทัพ

ขณะที่ขุมกำลังเดิมของทีมมีนักเตะอย่าง ราอูล, โรแบร์โต้ คาร์ลอส, เฟร์นานโด เอียร์โร่, ดาวอร์ ซูเคอร์, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, คริสเตียน ปานุชชี่, เปรแดร็ก มิยาโตวิช, กูตี, ซานติอาโก้ กายิซาเรซ และ เซ โรแบร์โต้ ให้ทาง ไฮย์เกส เลือกใช้งาน

พอถึงตลาดช่วงหน้าหนาว มาดริด ก็เอาทั้ง คริสติย็อง การ็อมเบอ และ ซาวิโอ มาช่วยเสริมขุมกำลังให้กับ ไฮย์เกส ขณะที่ เซ โรแบร์โต้ โดนปล่อยไปเล่นกับ ฟลาเมงโก้ ด้วยสัญญายืมตัว หลังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงภายในทีมได้

ผลงานใน ลา ลีกา ของ มาดริด ถือว่าน่าผิดหวัง พวกเขาจบด้วยการเป็นอันดับ 4 เท่านั้นทั้งที่มีดีกรีเป็นแชมป์เก่า ซ้ำร้าย "ราชันชุดขาว" ยังแพ้ บาร์เซโลน่า คู่อริตลอดกาลในเกมลีกแบบไปกลับ ไม่ว่าจะเป็นเกมที่แพ้ 2-3 คารัง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว และนัดที่ออกไปแพ้ 0-3 ถึงสนาม คัมป์ นู

ในส่วนของ โกปา เดล เรย์ ทีมของ ไฮย์เกส เริ่มเล่นตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่พวกเขาก็จอดป้ายมันที่รอบนี้เลย หลังจากแพ้ เดปอร์ติโบ อลาเบส ด้วยกฎประตูทีมเยือน จากการที่นัดแรก อลาเบส เปิดบ้านชนะไปก่อน 1-0 ส่วนนัดสองที่ เบร์นาเบว นั้น มาดริด ชนะไป 2-1 และถึงแม้ทีมจะได้แชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปัณญ่า จากการชนะ บาร์เซโลน่า แต่มันก็ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อะไรมากนัก

ถึงกระนั้น ทีมของกุนซือชาวเยอรมันกลับทำผลงานได้โดดเด่นกับการเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาเป็นแชมป์กลุ่มในกลุ่มที่มี โรเซนบอร์ก (นอร์เวย์), โอลิมเปียกอส (กรีซ) และ เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส) เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม ก่อนที่จะไปชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ กับรอบรองชนะเลิศ ตามลำดับ

ในนัดชิงดำ มาดริด ต้องเจอกับ ยูเวนตุส ที่มี มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เป็นกุนซือ และนำมาโดยนักเตะอย่าง ซีเนดีน ซีดาน, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์, เอ็ดการ์ ดาวิดส์ และ ฟิลิปโป้ อินซากี้ โดยทัพ "เบียงโคเนรี่" ก็มาในสภาพคึกสุดขีดอีกต่างหาก จากการที่พวกเขาได้แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ไปครอง

ท้ายที่สุดแล้วนัดชิงชนะเลิศก็จบลงด้วยชัยชนะ 1-0 ของทาง มาดริด จากประตูของ มิยาโตวิช ในนาทีที่ 66 ส่งผลให้ มาดริด ได้ถ้วยบิ๊กเอียร์เป็นสมัยที่ 7 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร และเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1966 ที่พวกเขาได้แชมป์รายการนี้ด้วย

อนิจจา ต่อให้ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 1997-98 แต่มันก็ไม่สามารถช่วยรักษาเก้าอี้ของ ไฮย์เกส เอาไว้ได้ โดยเขาโดนปลดอออกจากตำแหน่งในไม่นานหลังจากนั้นทั้งที่เพิ่งได้คุมทีมแค่ฤดูกาลเดียว ซึ่ง ซานซ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเด้ง ไฮย์เกส ในตอนนั้นว่า "ถ้าเกิดเราไม่ได้แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ แล้วล่ะก็ นี่ก็จะเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายปีมานี้ของเราเลย"

คนที่ได้คุม มาดริด ต่อจาก ไฮย์เกส คือ โฆเซ่ อันโตนิโอ กามาโช่ แต่เขาก็ลาออกอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมของปี 1998 หรือก็คือหลังจากได้รับการแต่งตั้งแค่ราว 22 วัน โดยให้เหตุผลว่า "มันไม่มีความเชื่อมั่นในโปรเจ็กต์ของผมเลย และผมก็มองว่าตัวเองคงจะไม่ได้ทำงานแบบมีความสุขแน่ๆ"

หลังจากนั้น กุส ฮิดดิ้งค์ ก็ถูกแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ และสุดท้ายแล้วในฤดูกาล 1998-99 มาดริด ก็ได้แค่แชมป์ อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ ซึ่งเป็นรายการที่เตะกันแบบนัดเดียวจบ โดยพวกเขาเอาชนะ วาสโก ดา กาม่า ของ บราซิล ไปได้ 2-1

สำหรับ ไฮย์เกส เขาเคยให้สัมภาษณ์ถึงการโดน มาดริด ปลด ในครั้งหนึ่งก่อนที่เตรียมเผชิญหน้ากับ มาดริด ในฐานะคู่แข่งเอาไว้ว่า "เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่ทำงานด้วยในระยะยาวได้ยาก คุณจำเป็นต้องพาทีมชนะโดยที่เน้นเกมบุกไปด้วยอยู่ตลอด, ต้องคุมพวกสื่อท้องถิ่นให้ได้เสมอ และต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานสโมสรด้วย"

"มันมีการพูดถึงประเด็นแบบ -ถ้าเป็นแบบนั้นนะ- และ -แต่ว่า- อยู่บ่อยๆ ซึ่งเมื่อเราจบด้วยการเป็นอันดับ 4 ในลีก ผมก็ต้องชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมไม่ได้คิดจะใช้เกมนี้เป็นการล้างแค้นเลยนะ ผมเคยได้รับเกียรติให้เป็นกุนซือของ เรอัล ในฤดูกาล 1997-98 และผมก็โชคดีพอที่ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก"

"แน่นอนว่าผมรู้สึกผิดหวังเป็นธรรมดาที่นัดชิงชนะเลิศกับ ยูเวนตุส มันกลายเป็นนัดสุดท้ายของผมกับที่นั่น แต่ฟุตบอลมันก็เป็นแบบนั้นแหละ การทำงานกับ เรอัล มันเป็นแบบนั้น"


- เด็กเกร็ดบอล -



ที่มาของภาพ : REUTERS / Gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport