เปแอสเช แชมป์ยุโรปในที่สุด

เปแอสเช แชมป์ยุโรปในที่สุด
การคว้าแชมป์ยุโรปของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทำให้ทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

ในสายตาของแฟนบอลทั่วไป เปแอสเช จะอยู่ในภาพเดียวกับ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือโชคชะตาที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยการเทกโอเวอร์

เชลซี เปลี่ยนจาก เคน เบตส์ ไปสู่ยุค โรมัน อบราโมวิช เมื่อปี 2003

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยนจาก ทักษิณ ชินวัตร ไปสู่ยุคกลุ่มทุนอาบูดาบี เมื่อเดือนกันยายน ปี 2008

เปแอสเช เข้าสู่ยุคของ QSI (Qatar Sport Investment) กลุ่มทุนมหึมาจากกาตาร์เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2011

การเทกโอเวอร์และเม็ดเงินลงทุนมหาศาลในขุมกำลังที่เกิดขึ้นตามมานั้นคงมองถึงเป้าหมายได้ไม่ยากว่าพวกเขาต้องการเป็นเลิศ ไปให้ถึงจุดสูงสุดในทุกทาง

ความสำเร็จในสนามก็ต้องเป็นที่สุด เป็นมหาอำนาจ เป็นเบอร์หนึ่ง ไม่เพียงแค่ฟุตบอลในประเทศเท่านั้นแต่ยังต้องอยู่เหนือหมู่มวลคู่แข่งทุกทีมในวงการ

ทั้ง 3 ทีมยกระดับการแข่งขันแบบพรวดพราดในประเทศ อบราโมวิชได้แชมป์พรีเมียร์ลีกแทบจะในทันที รอแค่ปีเดียวเท่านั้นหลังการซื้อสโมสร โชเซ่ มูรินโญ่ ก็เสกแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 50 ปีให้.....

ซิตี้รอนานกว่าหน่อยใช้เวลา 4 ปีจึงโค่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ลงได้ แฟนซิตี้ไม่มีวันลืมตัวเลข 93.20 ประตูประวัติศาสตร์จาก เซร์คิโอ อเกวโร่

ขณะที่การเทกโอเวอร์ของ เปแอสเช ใช้เวลาตั้งหลัก 1 ฤดูกาล หลังจากนั้นคือมหกรรมไล่กวาดทุกอย่างที่ขวางหน้า

ดับเบิลแชมป์ฟุตบอลในประเทศ 4 ครั้ง ทริปเปิลแชมป์ฟุตบอลในประเทศอีก 4 หน ถ้ารายการ เฟร้นช์ ลีก คัพ ไม่ยกเลิกไปเมื่อปี 2020 ทีมดังแห่งปารีสน่าจะตบ ดับเบิล หรือ ทริปเปิล ได้อีกหลายครา

เพียงแต่ความยิ่งใหญ่ในประเทศนั้น.. มันไม่พอ

แชมป์ยุโรปถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่างหากที่จะเป็นเครื่องหมายยืนยันว่าข้าคือเบอร์หนึ่ง

ตราบใดที่ยังไปไม่ถึงจุดนั้น คงยังไม่อาจพูดได้ว่าสโมสรก้าวไปสู่ความเป็นเลิศอย่างจริงจัง

แล้วเราก็ได้เห็นความพยายามของพวกเขา ได้เห็นการอกหักตกรอบของพวกเขา ได้เห็นการสะดุดหกล้มครั้งแล้วครั้งเล่าของพวกเขา

พยายามเท่าไหร่ก็ยังทำไม่ได้ ดิ้นรนเพียงใดก็ยังไปไม่ถึง ด้วยเวทีนี้ยังมีอะไรอื่นอีกมากมายรายล้อมนอกเหนือไปจากบรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดที่ครอบครองพื้นที่อยู่เดิม

เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค, เอซี มิลาน, ลิเวอร์พูล, อินเตอร์ มิลาน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ยูเวนตุส.. ทีมเหล่านี้ล้วนมีดีกรีติดตัวและเปี่ยมล้นไปด้วยประวัติศาสตร์ทั้งสิ้นในถ้วยนี้

กว่าจะปีนข้ามกำแพงกันได้ แต่ละทีมต้องก้าวผ่านอุปสรรคและความผิดหวังล้มเหลวจนชวนให้ท้อและเกิดความสงสัยมากมาย

เชลซี เจ็บหนักที่สุดในปีที่ 5 (2008) แพ้จุดโทษแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่มอสโก กว่าจะสมหวังในที่สุดต้องรอถึงปีที่ 9 (2012) ที่แก้ตัวดวลจุดโทษพิชิต บาเยิร์น ที่มิวนิค

แมนฯ ซิตี้ ก็จอดป้ายที่ตีนกำแพงสูงใหญ่แห่งเจ้ายุโรปมาตลอด ปีที่ 13 (2021) ไปถึงวันสุดท้ายได้แล้วก็ยังพ่ายแพ้ กระทั่งอีกสองปีให้หลังนั่นแหละ (2023) เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึงทำได้สำเร็จ

15 ปีคือเวลาที่ แมนฯ ซิตี้ รอคอย กว่าจะปลดล็อกแชมป์ยุโรปจนได้

เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้แล้ว ลอยตัวไปแล้ว ข้ามไปสู่ดินแดนของแชมเปี้ยนแห่งยุโรปได้แล้ว ในบรรดาทีมกลุ่มเดียวกันจึงเหลือเพียง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ยังทำไม่สำเร็จสักที

เปแอสเชล้มเหลวในแชมเปี้ยนส์ ลีกมาตลอด หลายครั้งจับสลากไม่เป็นใจเจอของแข็งตั้งแต่ด่านแรกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฝ่าไปได้ก็ยังจับชนตอขนาดใหญ่อีกดอก เป็นภาพที่เกิดขึ้นแทบทุกปี

คิดจะเป็นแชมป์ต้องไม่กลัวใครก็จริง แต่เจอทีมอย่าง บาเลนเซีย, ไลป์ซิก หรือ ลาซิโอ ย่อมมีโอกาสเข้ารอบมากกว่าชนกับกระดูกขัดมันเจ้าวงการทั้งหลาย

ใน 12 ฤดูกาลนับจากซีซั่น 2012/13 ถึง 2023/24 ที่เปแอสเชยุคเทกโอเวอร์ลงเตะในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาจับสลากรอบ 16 ทีมสุดท้ายเจอบาร์เซโลน่า 2 ครั้ง เจอเรอัล มาดริด 2 ครั้ง เจอเชลซี 2 ครั้ง เจอบาเยิร์น มิวนิค 1 ครั้ง เจอแมนฯ ยูไนเต็ด 1 ครั้ง

บางปีก็จอดป้ายที่ตรงนั้น บางปีฝ่าฟันเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้ แต่เมื่อจับติ้วกันอีกทีก็ดวลของหนักอีก รอบควอเตอร์ไฟนั่ลของพวกเขาเจอ บาร์เซโลน่า อีก 3 ครั้ง บาเยิร์น แมนฯ ซิตี้ เชลซี อีกทีมละหน

ย้อนกลับไปดูเส้นทางของ เปแอสเช ในแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง น่าจะมีเพียงฤดูกาล 2019/20 ที่การจับสลากพอจะถือว่าเป็นใจ และซีซั่นนั้นพวกเขาทะลุไปถึงนัดชิงก่อนจะแพ้ บาเยิร์น มิวนิค ที่ลิสบอน

รอบ 16 ทีมสุดท้ายเจอ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

รอบ 8 ทีมสุดท้าย เจอ อตาลันต้า

รองรองชนะเลิศ เจอ แอร์เบ ไลป์ซิก

ความพยายามของ เปแอสเช ไม่ได้อยู่ในสายตาของแฟนบอลเท่าใดนัก ทุกคนรู้ว่าพวกเขาเป็นทีมเงินถัง ทุ่มเงินซื้อนักเตะชั้นนำมากมายเสริมทัพ ดึงตัวโค้ชเก่ง ๆ อีกหลายคนเข้ามาคุมทีม

แต่ก็ไม่เคยทำได้ ต้องตกม้าตายในเวทียุโรปเรื่อยมา

คาร์โล อันเชลอตติ, โลร็องต์ บล็องก์, อูไน เอเมรี่, โธมัส ทูเคิ่ล, เมาริซิโอ โปเชตติโน่..

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เอดินสัน คาวานี่, ติอาโก้ ซิลวา, อังเคล ดิ มาเรีย, ดานี่ อัลเวส

จานลุยจิ บุฟฟ่อน, เมาโร อิการ์ดี้, เซร์คิโอ รามอส

เนย์มาร์ จูเนียร์, คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

ลิโอเนล เมสซี่..

ลองผิด ลองถูก.. คลำถูก คลำผิด

กว่าจะมาถึงวันนี้ วันที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง พบว่าการจะไปถึงฝั่งฝันได้นั้น คุณต้องทำมันให้ถูกต้องในทุก ๆ เรื่อง

การเข้ามาของ หลุยส์ เอนริเก้ และไอเดียของเขาที่พร้อมจะเดินหน้าด้วยกองทัพที่ถูกต้องที่สุด ไม่ใช่ถูกใจที่สุด

นักเตะระดับจักรวาลอย่าง เมสซี่ เนย์มาร์ และ เอ็มบั๊ปเป้ ไม่ได้ผิดอะไรหรอก เพียงแต่พวกเขาอาจจะเข้ามาอยู่กับทีมในช่วงเวลาที่ไม่ลงตัว เปแอสเชยังไม่ได้ต้องการโมเดลนั้นเพื่อพาทีมไปสู่เป้าหมาย

เปแอสเชพบว่าการซื้อที่ถูกต้องและถูกตัวนั้นให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่ามาก นักเตะ 10 คนจาก 11 ตัวจริงชุดถล่ม อินเตอร์ มิลาน 5-0 เมื่อวันเสาร์คือกลุ่มที่ทยอยเข้าสู่ทีมในการลงตลาด 4 ฤดูกาลหลังสุดนี้เอง

4 คนในนั้นเพิ่งเข้ามาเมื่อฤดูกาลนี้ ควิชา ควารัตสเคเลีย คือคนล่าสุดเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว..

จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ปี 2021

อาคราฟ ฮาคิมี่ ปี 2021

วิลเลียน ปาโช่ ปี 2024

นูโน่ เมนเดส ปี 2021

วิตินญ่า ปี 2022

ฟาเบียน รูอิซ ปี 2022

ชูเอา เนเวส ปี 2024

เดซิเร่ ดูเอ้ ปี 2024

อุสมาน เดมเบเล่ ปี 2023

ควารัตสเคเลีย ปี 2024

ไม่เพียงเท่านั้น ตัวสำรองหลัก ๆ อย่าง แบร๊ดลี่ย์ บาร์กโกล่า, อี คัง-อิน และ กอนซาโล่ รามอส ยังถูกดึงมาร่วมทีมเมื่อปี 2023 ในซีซั่นแรกของ เอนริเก้

แล้วการรอคอยของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็จบลงในที่สุด พวกเขาทำได้เหมือนกับที่ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านมันมาแล้ว

14 ปีแห่งความพยายาม.. 14 ปีแห่งการล้มแล้วลุก ลุกแล้วล้ม ลุก ๆ ล้ม ๆ ไปมาอยู่อย่างนั้น กว่าจะคลำหาทางที่ถูกต้องได้เจอ

เนย์มาร์ กับ เมสซี่ จากไปเมื่อปี 2023 เอ็มบั๊ปเป้ย้ายออกไปในปี 2024

ภาพลักษณ์ของทีมแห่งจักรวาลที่ไล่ตามความฝันไม่เคยเจอหายไป กลายมาเป็นทีมแห่งอนาคตด้วยฟุตบอลที่แพรวพราว เปี่ยมด้วยชั้นเชิง เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

ชนะใจผู้คนด้วยฟุตบอล ไม่ใช่นักฟุตบอล..

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทำได้ในที่สุด ยินดีด้วยจริง ๆ ครับ

ตังกุย



ที่มาของภาพ : reuters
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport