ลิเวอร์พูลติดด้วย! 4 แมตช์รอบรองฯ UCL สุดดราม่าตลอดกาล
ยูฟ่าเปิดโหวต 4 เกมรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่มันส์สุดตลอดกาล รวมแมตช์ปาฏิหาริย์ของ ลิเวอร์พูล, ดราม่า ลูกัส มูร่า, คัมแบ็ก เรอัล มาดริด และนัดคลาสสิก อินเตอร์-บาร์ซ่า ปี 2025
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขึ้นชื่อว่าเป็นเวทีที่รวมดราม่าไว้มากที่สุดในวงการลูกหนัง โดยเฉพาะรอบรองชนะเลิศ ที่มักจะมีเหตุการณ์เหลือเชื่อเกิดขึ้นทุกปี
ล่าสุดทาง ยูฟ่า ได้เปิดโหวต “แมตช์รอบรองฯ UCL ที่ดีที่สุดตลอดกาล” และนี่คือ 4 เกมสุดเดือดที่เข้าชิงหัวใจแฟนบอลทั่วโลก — หนึ่งในนั้นคือ “ค่ำคืนมหัศจรรย์ของลิเวอร์พูล” ที่แอนฟิลด์
- บาร์เซโลน่า 3-4 ลิเวอร์พูล (2019) – ปาฏิหาริย์แอนฟิลด์ของแทร่
รอบรองฯ ซีซั่น 2018/19 ลิเวอร์พูล ของเจอร์เก้น คล็อปป์ แพ้เลกแรก 0-3 ที่คัมป์นูจาก ลิโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ แต่ในเลกสองที่แอนฟิลด์ “หงส์แดง” สร้าง 1 ในคัมแบ็กที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์แชมเปี้ยนส์ ลีก
แม้ไม่มีทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แต่ ดิว็อก โอริกี้ และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ก็ผลัดกันยิงจนตีเสมอรวม 3-3 ก่อน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะฉวยจังหวะเตะมุมเร็วให้โอริกี้ยิงประตูชัย 4-0
เสียงเชียร์แอนฟิลด์สะเทือนยุโรป และพา ลิเวอร์พูล ทะลุเข้าชิงฯ ก่อนคว้าแชมป์ในปีนั้น
- สเปอร์ส 3-3 อาแจ็กซ์ (2019) – ดราม่าท้ายเกมของ ลูกัส มูร่า
อาแจ็กซ์ สร้างเซอร์ไพรส์รอบก่อนด้วยการเขี่ย ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ก่อนจะชนะ สเปอร์ส 1-0 ในเลกแรกที่ลอนดอน
ในอัมสเตอร์ดัม เลกสอง อาแจ็กซ์นำ 2-0 ก่อนจบครึ่งแรก (รวมแล้ว 3-0) แต่ ลูกัส มูร่า ยิงแฮตทริกในครึ่งหลัง โดยประตูสุดท้ายมาในนาที 95 ส่ง “ไก่เดือยทอง” เข้าชิงกับลิเวอร์พูลแบบสุดเหลือเชื่อ
- แมนฯ ซิตี้ 5-6 เรอัล มาดริด (2022) – พลิกนรกเบร์นาเบว
เลกแรกที่เอติฮัด แมนฯ ซิตี้ เปิดเกมบุกสู้สุดมันส์ และเอาชนะได้ 4-3 ทำให้คาดกันว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะไปได้สวย
ในเลกสองที่มาดริด ริยาด มาห์เรซ ยิงให้เรือใบหนี 5-3 รวมสองนัด ทว่า โรดรีโก้ ตัวสำรอง ยิง 2 ประตูในช่วงทดเจ็บพาเกมเข้าสู่ต่อเวลา และเป็น คาริม เบนเซม่า ที่ซัดจุดโทษพา “ราชันชุดขาว” คัมแบ็กแบบเหนือจริง ทะลุเข้าชิงและคว้าแชมป์ในที่สุด
- อินเตอร์ มิลาน 7-6 บาร์เซโลน่า (2025) – บ้าเลือดสุดในยุคนี้
แมตช์ล่าสุดที่เข้าสู่ลิสต์คือรอบรองฯ ปีนี้ที่เพิ่งจบลง อินเตอร์ มิลาน เปิดบ้านชนะ บาร์เซโลน่า 4-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังเลกแรกจบเสมอ 3-3 เช่นกัน
รวมสองนัดชนะไป 7-6 ด้วยฟอร์มโหดของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ และ นิโคโล บาเรลล่า ซึ่งทำให้บาร์ซ่าต้องตกรอบไปอย่างเจ็บปวด ทั้งที่อุตส่าห์รัว 3 เม็ดรวดแซงนำ 3-2
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
