สองทีมสกอตแลนด์บนถ้วยใหญ่ยุโรป

สองทีมสกอตแลนด์บนถ้วยใหญ่ยุโรป
ตัวแทนจากสกอตแลนด์ในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มีผลงานที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ในสองนัดที่ผ่านไป ทั้ง กลาสโกว์ เรนเจอร์ส และ กลาสโกว์ เซลติก

เซลติกนั้นดีกว่าคู่ปรับร่วมเมืองอยู่หน่อยตรงที่มีคะแนนติดมือในเกมล่าสุดที่บุกไปเสมอ ชัคตาร์ โดเน็ตสค์ แต่เรนเจอร์สนั้นกู่ไม่กลับสองเกมโดนยิงไปเจ็ดลูกโดยที่แก้คืนไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว

กระนั้นในเรื่องของเกมทั้งสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งกลาสโกว์ก็ทำได้ดีนะครับ บางช่วงของเกมสามารถโหมบุกกดดันคู่แข่งได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นในบ้านของตัวเองไม่ว่าจะที่ ไอบร็อกซ์ สเตเดี้ยม หรือ พาร์ค เฮด เสียงเชียร์จากแฟนบอลครึ่งแสนนั้นช่วยเพิ่มพลังพิเศษให้กับพวกเขาได้จริงๆ

เพียงแต่ทั้งสองทีมยังมีสิ่งที่ขาดหายไปสำหรับเวทีนี้อย่างกระดูกที่ยังนับว่าอ่อนกว่าคู่แข่งทีมอื่นๆ

ดีกรีของเรนเจอร์สกับเซลติกยังไม่สูงพอที่จะต่อสู้กับใครในรายการนี้ ณ เวลานี้ มันคือเรื่องที่ต้องบ่มต้องสร้างต้องสะสมมันกลับขึ้นมาใหม่ วิธีการที่ดีที่สุดก็คือต้องมาเตะในเวทีนี้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อการสัมผัสกับมาตรฐานฟุตบอลในระดับสูงแบบนี้ทุกๆ ปีแทนที่จะยิ่งใหญ่แต่ในลีกของประเทศตัวเองและตกรอบคัดเลือกแชมเปี้ยนส์ ลีกอยู่ร่ำไป

อย่างน้อยฤดูกาลนี้ก็เป็นทิศทางที่ดีมากสำหรับตัวแทนจากลีกสกอตต์ ผมจำไม่ได้เลยว่าครั้งล่าสุดที่เราได้เห็น เรนเจอร์ส กับ เซลติก อยู่ในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมๆ กันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ลองไปเปิดข้อมูลดูก็พบว่ามันต้องย้อนไปไกลถึงปี 2007 นู่นเลย

15 ปีเข้าไปแล้วนะครับที่เราไม่ได้เห็นยักษ์ใหญ่ลีกวิสกี้เล่นด้วยกันในรอบแบ่งกลุ่มรายการนี้ ยิ่งไปกว่านั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาอย่าว่าแต่เข้ามาทั้งสองทีมเลย กระทั่งมีแค่ทีมใดทีมหนึ่งในรอบแบ่งกลุ่มก็ยังทำไม่ได้ เพราะจอดป้ายตั้งแต่รอบคัดเลือกเป็นประจำ

การมาเตะในเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วไม่ได้เล่นในรอบแบ่งกลุ่ม อารมณ์มันไม่ชวนให้รู้สึกว่าได้เข้าร่วมในรายการนี้เลย

แต่อย่างน้อยมันก็เป็นทิศทางที่ดีอย่างที่บอก ส่วนเรื่องของเกมยังเหลืออีก 4 นัดให้ทั้ง อันเก้ ปอสเตโคกลู และ โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ ผู้จัดการทีมได้ปรับแก้จุดที่จำเป็นเพื่อเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด

เชื่อว่ายังไม่มีใครยอมแพ้หรอกครับ เป้าหมายของทั้งคู่คงจะยังเป็นการพลิกสถานการณ์ตีตั๋วเข้ารอบน็อกเอ๊าต์ให้ได้ ยังไม่ต้องคิดถึงการจบอันดับสามของกลุ่มเพื่อสิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า ยูโรปา ลีก หรอก

สิ่งแรกเลยที่ทั้งสองทีมต้องแก้ให้ได้ก็คือทำอย่างไรที่จะรักษาโมเมนตัมดีๆ ของเกมให้ได้นานกว่านี้

ใน 4 เกมที่ได้เห็นทั้งสองทีมเล่น มันจะมีช่วงเวลาที่ทั้งเรนเจอร์สและเซลติกเล่นได้น่าประทับใจ กดดันฝ่ายตรงข้ามได้อย่างหนักหน่วงดุดัน เพียงแต่พวกเขาทำมันได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง

เกมที่เซลติกเจอกับ เรอัล มาดริด ในแมตช์แรก และเกมที่เรนเจอร์สพบกับ นาโปลี ในเกมที่สองนั้นเห็นภาพตรงนี้ชัดเจน มันคือเกมที่ทั้งคู่ได้เล่นในบ้าน เสียงเชียร์พร้อมสรรพเต็มกำลัง บรรยากาศในสนามเข้มข้นบีบคั้นผู้มาเยือน ปลุกเร้าอารมณ์ร่วมให้พุ่งกระฉูด

นักเตะของทีมวิ่งกันลืมตาย ช่วยกัน มัดใจรวมกัน มีเสียงเชียร์กึกก้องเป็นพลังหนุนอยู่ข้างหลัง ทีมสร้างโอกาสทำประตูได้ บดขยี้กดดันอาคันตุกะได้ในหลายช่วงเวลา

รูปเกมมีความหวัง แฟนบอลมองเห็นได้ถึงสามคะแนนแห่งความภาคภูมิที่กระชากมาครอง และจะได้กระโดดโลดเต้นฉลองปฏิบัติการล้มยักษ์ร่วมกันไปกับนักเตะหลังจบเกม

แต่ชีวิตจริงที่ต้องเจอมันกลับโหดร้าย สุดท้ายพวกเขาแพ้ 0-3..

สกอร์ที่ออกมาไม่ได้สอดคล้องกับรูปเกมเลย แต่นั่นแหละความเป็นจริงของฟุตบอลในระดับนี้

สิ่งที่ทั้งสองทีมขาดหายไปคือความเฉียบขาด ทั้ง เรนเจอร์ส และ เซลติก มีโอกาสลงโทษคู่แข่งหลายครั้งแต่ทำไม่ได้เองหรือทำไม่ดีพอ นั่นคือความแตกต่างระหว่างพวกเขากับทีมคู่แข่งที่มีดีกรีสูงกว่า ยิ่งเกมเซลติกกับ เรอัล มาดริด นั้นยิ่งเห็นถีงคลาสแชมเปี้ยนของทีมราชันชุดขาวจริงๆ ไม่มีประหม่า ไม่มีตกใจ หากนิ่ง เยือกเย็น ควบคุมสมาธิ แล้วรอจังหวะเช็กบิล

ถึงกระนั้นผมคิดว่ามันก็ยังน่าพอใจ สกอร์ 0-4 กับ 0-3 ของเรนเจอร์ส และ 0-3 กับ 1-1 ของเซลติกนั้นไม่ได้สะท้อนความน่าประทับใจในการเล่นที่แฟนบอลได้เห็น พูดง่ายๆ ว่ารูปเกมไม่ได้หมดสภาพเหมือนผลที่ออกมา

ถ้าจะมองให้แย่มันก็แย่ มาตรฐานของทีมยังสู้พวกขาประจำเขี้ยวลากดินไม่ได้ แต่มองในอีกด้านอย่างน้อยมันยังเป็นมุมดีๆ ที่เราสามารถรอดูต่อไปได้ว่าพวกเขาจะปรับแก้ปัญหานี้ได้ไหม และจะทำได้ดีเพียงใด

อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นครับ ขนาด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เคยออกตัวด้วยการแพ้รวด 3 เกมแรกยังกระเด้งกลับมาเข้ารอบน็อกเอ๊าต์ได้เลย เพราะฉะนั้นจะให้ยอมแพ้ง่ายๆ หลังเตะไปแค่สองเกมก็กระไรอยู่

สองนัดสี่เกมผ่านไปมีคะแนนรวมกันแค่แต้มเดียวก็จริง แต่ผมกลับรู้สึกว่า เรนเจอร์ส และ เซลติก จะมีอะไรมานำเสนอให้เราได้เห็นมากกว่านี้ โดยเฉพาะเกมเหย้าที่ได้เล่นในไอบร็อกซ์และพาร์ค เฮด

ผมหลงใหลในเสน่ห์รุนแรงยามที่ทั้ง เดอะไลท์บลูส์ และ ม้าลายเขียวขาว ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง เคยมีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศทั้งสองสนามมาแล้วจริงๆ ก็ยังจำมันได้ดีจนถึงวันนี้ และจะรอดูพวกเขาในอีกสี่เกมที่เหลือของรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก

แน่นอนครับ เกมในไอบร็อกซ์ที่เรนเจอร์สจะรับมือ ลิเวอร์พูล ผมคงไม่เชียร์พวกเขาหรอก แต่กับเกมอื่นๆ ถึงไหนถึงกัน อยากเห็นพวกเขาทำได้

กับสถานการณ์ในเวลานี้ถ้าบทสรุปจะออกมาด้วยการกอดคอกันเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่มก็คงไม่ได้น่าแปลกใจอะไร เรนเจอร์สอยู่กลุ่มเดียวกับ ลิเวอร์พูล อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ นาโปลี เซลติกอยู่กลุ่มเดียวกับ เรอัล มาดริด แอร์เบ ไลป์ซิก และ ชัคตาร์ โดเน็ตสค์ มันก็มหาหินด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว

แต่ถ้าสุดท้ายกลับมีทีมใดทีมหนึ่งเล็ดลอดผ่านเข้ารอบต่อไปได้หรือยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถทำมันได้ทั้งคู่ไม่ว่าจะได้ไปเตะในรอบน็อกเอ๊าต์ถ้วยเล็กหรือถ้วยใหญ่ มันก็ยิ่งเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชมสุดยอดเลยล่ะครับ

"ตังกุย"


ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X