แม้ โจนาธาน เดวิด กองหน้าทีมชาติแคนาดา จะกำลังย้ายซบยูเวนตุสแบบไม่มีค่าตัว พร้อมดีกรีดาวยิงตัวท็อปทั้งในลีกยุโรปและระดับทีมชาติ แต่กลับไม่มีทีมใหญ่รายใดแสดงความสนใจอย่างจริงจัง เหตุผลสำคัญอาจไม่ใช่เรื่องฝีเท้า แต่เป็น "ต้นทุนแฝง" ของดีลเซ็นฟรีที่ไม่ฟรีอย่างที่คิด
โจนาธาน เดวิด กองหน้าทีมชาติแคนาดา กำลังจะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของยูเวนตุสแบบไม่มีค่าตัวหลังหมดสัญญากับลีลล์ สโมสรในลีกเอิง ฝรั่งเศส แม้จะมีดีกรีไม่ธรรมดา ทั้งเป็นดาวซัลโวร่วมของลีกเบลเยียมฤดูกาล 2019/20 ยิงรวม 109 ประตูจาก 232 นัดให้ลีลล์ และครองตำแหน่งดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติแคนาดา แต่การย้ายทีมครั้งนี้กลับไม่ปรากฏชื่อทีมใหญ่รายอื่นเข้ามาแย่งตัวอย่างที่หลายคนคาดหวัง
คำอธิบายเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดย ซาช่า ตาโวลิเอรี่ ผู้สื่อข่าวชาวเบลเยียมซึ่งติดตาม เดวิด มาตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับเกนท์ โดยรายงานว่า แม้จะไม่มีค่าตัวในการย้ายทีม แต่ข้อเรียกร้องทางการเงินของนักเตะและตัวแทนกลับสูงในระดับที่หลายสโมสรต้องถอย
จากรายงานระบุว่า หัวหอกแคนาเดี้ยนวัย 25 ปี ต้องการค่าเหนื่อย 9 ล้านยูโรต่อปี (ก่อนหักภาษี) หรือคิดเป็นประมาณ 173,000 ยูโรต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีการเรียกค่าเซ็นสัญญาจำนวน 15 ล้านยูโร และค่าคอมมิชชันสำหรับเอเยนต์อีก 10 ล้านยูโร หากสโมสรใดเซ็นสัญญาระยะยาว 5 ปี ค่าใช้จ่ายรวมจะอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านยูโร แม้จะไม่มีค่าตัวในการซื้อตัวจากลีลล์ก็ตาม
ด้วยตัวเลขระดับนี้ ทำให้หลายสโมสรที่แม้จะชื่นชมฝีเท้าของ เดวิด ต้องชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบในแง่ความคุ้มค่า โดยเฉพาะในยุคที่กฎการเงินของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ถูกบังคับใช้อย่างเข้มงวด สโมสรส่วนใหญ่จึงเลือกจะไม่เสี่ยงทุ่มงบประมาณระดับสูงให้กับนักเตะที่เรียกได้ว่า "ฟรีแต่ไม่ฟรี"
ขณะเดียวกัน ยูเวนตุส ถือเป็นสโมสรที่ได้เปรียบในการเจรจา ทั้งจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างสโมสรกับตัวแทนนักเตะ และแผนงานของทีมที่พร้อมเปิดโอกาสให้เดวิดเป็นตัวหลักในแดนหน้า ทำให้สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านกีฬาและการเงินได้อย่างเหมาะสม
กรณีของ เดวิด จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวที่สะท้อนให้เห็นว่า ในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน "ของฟรี" ไม่ได้แปลว่า "ไม่มีต้นทุน" เสมอไป และการตัดสินใจของแต่ละสโมสรล้วนต้องผ่านการวิเคราะห์อย่างละเอียดรอบด้าน