ฮาคาน ชัลฮาโนกลู มิดฟิลด์ อินเตอร์ ออกมาประกาศกร้าวว่าไม่เคยหักหลังทีมแม้แต่ครั้งเดียว หลังจาก เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ กองหน้าเพื่อนร่วมทีมเพิ่งออกมาพูดเชิงขับไล่คนที่ไม่อยากอยู่กับทีมต่อไป
ฮาคาน ชัลฮาโนกลู กองกลางชาวตุรกีของ อินเตอร์ มิลาน กล่าวว่าตนไม่เคยคิดที่จะทรยศต้นสังกัดแม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงช่วยทีมอย่างเต็มที่อยู่เสมอ ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่บอกว่าเขากำลังหาทางทำให้ตัวเองได้ย้ายไปอยู่กับ กาลาตาซาราย
ไม่นานมานี้ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ กองหน้ากัปตันทีม อินเตอร์ ให้สัมภาษณ์แบบดุเดือดว่าใครที่ไม่อยากอยู่กับทีมต่อไปก็ควรจะรีบย้ายออกจากทีมไปซะ โดยถึงแม้ มาร์ตีเนซ จะไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่ว่า จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า ประธานของทีมก็เปิดเผยหลังจากนั้นว่าเขาเชื่อว่าคำพูดของ มาร์ตีเนซ เป็นการสื่อถึง ชัลฮาโนกลู นั่นเอง
ชัลฮาโนกลู ซึ่งไม่ได้ลงช่วย อินเตอร์ ในรายการนี้แม้แต่นัดเดียว เพราะอยู่ระหว่างการรักษาอาการบาดเจ็บตรงน่องนั้น เผยว่า "เมื่อวานนี้เราแพ้ และมันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดมากๆ ผมเสียใจสุดๆ ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นในฐานะนักเตะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในฐานะคนๆ หนึ่งที่รํกสโมสรจากใจจริงด้วย แม้ว่าตอนนี้ผมจะพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บอยู่ แต่ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีหลังจากจบการแข่งขันและติดต่อไปหาเพื่อนร่วมทีมบางคนเพื่อให้กำลังใจพวกเขา เพราะนั่นเป็นสิ่งที่คุณจะทำเมื่อคุณรักทีมของคุณ"
"สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจก็คือคำพูดของคนบางคนหลังจากนั้น มันเป็นคำพูดที่ทำให้ผมจุกไปเลย มันเป็นคำพูดที่ทำให้เกิดความแตกแยก ไม่ได้ทำให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแม้แต่นิดเดียว ตลอดอาชีพการค้าแข้งของผมน่ะผมไม่เคยหาข้ออ้างแม้แต่ครั้งเดียว ผมทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มที่อยู่เสมอ ผมถึงขนาดเคยกัดฟันลงเล่นทั้งที่มีอาการบาดเจ็บด้วยซ้ำ ผมช่วยทีมด้วยการกระทำ ไม่ใช่ด้วยคำพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก"
"ผมเคารพความเห็นของทุกคน แม้กระทั่งจากเพื่อนร่วมทีมของผมหรือจากประโานสโมสร แต่ความเคารพมันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำอยู่ฝั่งเดียว ผมเองให้ความเคารพอยู่เสมอทั้งในสนามและนอกสนาม ผมเชื่อว่าทั้งในกีฬาฟุตบอลและในชีวิตคนเราน่ะ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงมันอยู่ที่การแสดงความเคารพต่อกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่กำลังโดนอารมณ์ครอบงำ"
"ผมไม่เคยทรยศสโมสรนี้เลย ผมไม่เคยพูดสักครั้งว่าผมไม่มีความสุขกับที่ อินเตอร์ จะบอกให้ว่าก่อนหน้านี้เคยมีทีมที่ยื่นข้อเสนอให้ผมหลายครั้ง แถมเป็นข้อเสนอที่น่าเย้ายวนใจมากๆ ด้วย แต่ผมก็ยังเลือกอยู่กับทีมต่อเพราะในใจของผมน่ะผมรู้ดีว่าเสื้อตัวนี้มันมีความหมายยังไงต่อผม และผมเชื่อว่าการกระทำต่างๆ ของผมก็บ่งบอกถึงเรื่องนั้นได้อย่างชัดเจน"
"ผมเองได้รับเกียรติให้เป็นกัปตันทีมของประเทศของตัวเอง และผมก็ได้เรียนรู้ว่าความเป็นผู้นำมันหมายความว่าคุณต้องยืนเคียงข้างทีมของคุณ ไม่ใช่ชี้นิ้วโทษคนอื่นในตอนที่ทำแบบนั้นได้ง่ายที่สุด"