ซามพ์โดเรีย อดีตแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ตกชั้นสู่ลีกระดับ 3 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เจาะลึกเบื้องหลังความล่มสลายจากทีมที่เคยยิ่งใหญ่ สู่จุดตกต่ำสุดของสโมสรในรอบเกือบศตวรรษ
จากสคูเดตโต้ สู่เซเรีย ซี: จุดต่ำสุดของ “ลา ซามพ์” ที่โลกไม่อยากเชื่อ
“แชมป์เซเรีย อา ทีมนี้เคยได้แชมป์จริงเหรอ?”
นั่นคือคำถามที่แฟนบอลทั่วโลกอาจสงสัย เมื่อเห็นชื่อ ซามพ์โดเรีย ร่วงตกชั้นสู่ เซเรีย ซี ฤดูกาล 2024-25
จากทีมแกร่งในยุค มันชินี่–วิอัลลี่ สู่การดิ้นรนหนีตกชั้นในลีกรอง และสุดท้ายต้องยอมรับชะตากรรมกับการตกสู่ลีกระดับ 3 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
เกิดอะไรขึ้นกับ ซามพ์โดเรีย? สโมสรที่เคยเป็นตำนานของอิตาลี ทำไมถึงพังพินาศได้ถึงเพียงนี้?
จุดเริ่มต้น: ทีมเล็กในเมืองใหญ่
ซามพ์โดเรีย ก่อตั้งในปี 1946 จากการรวมทีมท้องถิ่น ซามเพียร์ดาเรเนเซ่ และ อันเดรีย โดเรีย
เสื้อแข่งสีฟ้าคาดลายขาว-แดง-ดำ กลายเป็นสัญลักษณ์ของต้นกำเนิดสองสายเลือด
ช่วงแรกทีมยังไม่มีความสำเร็จระดับสูง จนกระทั่งเข้าสู่ ยุคทองในทศวรรษ 1980
ยุคทอง: คู่หูทำประตูและแชมป์ลีก
การเข้ามาของประธานสโมสร เปาโล มันโตวานี่ คือจุดเปลี่ยนสำคัญ
เขาดึงตัวดาวรุ่งอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ และ จานลูก้า วิอัลลี่ มาสร้าง “คู่หูทำประตู” ในตำนาน
พวกเขานำทีมคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย 4 สมัย, เซเรีย อา ฤดูกาล 1990-91
และ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1990
อีกทั้งยังได้เข้าชิง ยูโรเปียน คัพ กับ บาร์เซโลนา ในปี 1992
จุดเปลี่ยน: การล่มสลายหลังการจากไปของผู้นำ
ปี 1993 มันโตวานี่ เสียชีวิต
ทีมเสียศูนย์ทันที เมื่อสตาร์หลักย้ายออก
วิอัลลี่ ไปยูเวนตุส, ปายูก้า ไปอินเตอร์, มันชินี่ ไปลาซิโอ
ลูกชายของมันโตวานี่พยายามสานต่อ แต่ไม่สามารถรักษาความแข็งแกร่งไว้ได้
ทีมค่อย ๆ ถดถอย และ ตกชั้นครั้งแรกในปี 1999
ระเบิดเวลายุค มัสซิโม่ แฟร์เรโร่
การกลับสู่เซเรีย อา ในช่วงต้นยุค 2000 ภายใต้ ริคคาร์โด การโรเน่ ดูเหมือนจะเป็นการฟื้นตัว
แต่เมื่อเปลี่ยนเจ้าของทีมเป็น มัสซิโม่ แฟร์เรโร่ ทุกอย่างเริ่มกลับหัว
เขาบริหารสโมสรด้วยสไตล์ฉาว ขายผู้เล่นดีแต่ไม่เสริมทดแทน
ท้ายที่สุด ปี 2021 แฟร์เรโร่ถูกจับใน คดีอาญานอกวงการฟุตบอล
พร้อมทิ้งหนี้สินมหาศาล และทำให้ทีมใกล้ล้มละลาย
ความหวังใหม่ที่ยังไม่ตื่น
ปี 2023 กลุ่มทุน เจสติโอ แคปิตอล นำโดย มาเตโอ มานเฟรดี้ และ อัดเมียร์ มูฮาเมดเบโกวิช เข้ามาช่วยกู้วิกฤติ
แต่ทีมก็ยังอยู่ในสภาพ “เสียระบบเกินเยียวยา”
การแต่งตั้ง อันเดรีย ปิร์โล เป็นโค้ชฤดูกาล 2023-24 ไม่เป็นไปตามหวัง
เขาถูกปลด และทีมใช้โค้ชถึง 4 คนในฤดูกาลเดียว
แม้จะมี อัตติลิโอ ลอมบาร์โด้ และ มานเฟรดินี่ มาช่วย
แต่ก็ไม่เพียงพอจะพาทีมรอด
ฤดูกาลแห่งหายนะ: จากเพลย์ออฟลุ้นเลื่อนชั้น สู่ตกชั้นสู่เซเรีย ซี
ฤดูกาลก่อน ซามพ์โดเรีย ยังได้เล่นรอบเพลย์ออฟลุ้นเลื่อนชั้นจากเซเรีย บี
แต่ฤดูกาลล่าสุด พวกเขาต้องดิ้นรนหนีตกชั้นเต็มรูปแบบ
ในนัดสุดท้าย ทีมต้องการชัยชนะเหนือ ยูเว่ สตาเบีย เพื่อความอยู่รอด
แต่กลับทำได้แค่เสมอ 0-0
จบฤดูกาลด้วยอันดับ 18 มีเพียง 41 คะแนนจาก 38 นัด
ซามพ์โดเรีย ตกชั้นสู่เซเรีย ซี เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
บทสรุป: เจ้าหญิงนิทราแห่งวงการฟุตบอลอิตาลี
นิมา ตาวัลลาเอย์ นักข่าวอิตาลีชื่อดังกล่าวว่า
“พวกเขาคือเจ้าหญิงนิทราแห่งวงการฟุตบอลอิตาลี… ได้เวลาแล้วที่จะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการตกชั้น
แต่คือ บทเรียนของสโมสรที่เคยยิ่งใหญ่
และพลาดในจุดที่สำคัญที่สุด — โครงสร้าง, ความมั่นคง และวิสัยทัศน์ระยะยาว
หากไม่มีการ “สร้างใหม่” อย่างยั่งยืน
คำว่า “ทีมใหญ่ในอดีต” อาจกลายเป็นเพียงนิทานที่ไม่มีตอนจบอีกครั้ง