มิลาน รอปะทะ ฟิออ ลุ้นคั่วรองฝูงเดี่ยว,ยูเวนตุส เปิดศึกฉะ ลาซิโอ ชิงสามแต้มสำคัญ

"ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน มีโอกาสขึ้นรองฝูงหากเก็บชัยนัดนี้ เปิดถิ่นเจอ "วิโอล่า" ฟิออเรนติน่า ขณะที่คู่เอกก่อนเบรกหลบบอลโลก "ม้าลาย" ยูเวนตุส คาดหวังสามแต้มแต่ไม่งาน "อินทรีฟ้าขาว" ลาซิโอ พร้อมประจันหน้าล่าชัย ในการแข่งขันฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 15 คืนวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565

ปรีวิวกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 15

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565 

เอซี มิลาน (3) - ฟิออเรนติน่า (10)    

เวลา 00.00 น. ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (607)

สนาม : ซาน ซิโร่

เอซี มิลาน

    ทีม "รอสโซเนรี่" เกมล่าสุดในลีกน่าผิดหวัง ทำได้แค่บุกเสมอ เครโมเนเซ่ 0-0

    สภาพทีมในเกมนี้ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ เทรนเนอร์ของมิลาน จะยังไม่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ผ่าเข่าต้องพักยาว เช่นเดียวกับ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, ดาวิเด้ คาลาเบรีย และ ไมค์ เมนญอง ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่จะได้ เตโอ แอร์กน็องเดซ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ 2 ตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมา

    ทั้งนี้คาดว่า มิลาน จะมาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูจะใช้ ซิเปรียน ตาตารูซานู แนวรับ ฟิกาโย่ โทโมริ จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ มัตเตโอ กับเบีย

    ซานโดร โตนาลี่ เป็นมิดฟิลด์คู่กลางกับ อิสมาแอล เบนนาเซอร์ โดยวาง ชาร์ลส์ เดอ เคทลาร์, บราฮิม ดิอาซ และ ราฟาเอล เลเอา ทำเกมรุกอยู่ข้างหลัง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ฟิออเรนติน่า

    ทีม "วิโอล่า" ผลงานเยี่ยมมาก เกมล่าสุดชนะ ซาแลร์นิตาน่า 2-1 ทำให้เฮมา 5 เกมรวดทุกรายการ

    สภาพทีมในเกมนี้ วินเซนโซ่ อิตาเลียโน่ กุนซือ ฟิออเรนติน่า จะไม่มี ริคคาร์โด้ ซ็อตติล และ กอนซาโล่ คาสโตรวิลลี่ ที่ยังบาดเจ็บ แต่จะได้ ซอฟยาน อัมราบัต พ้นโทษแบนกลับมา

    ทั้งนี้คาดว่าทีมเยือนจะมาในระบบ 4-3-3 แนวรับ นิโกล่า มิเลนโควิช ประจำการร่วมกับ อิกอร์ ขนาบข้างด้วย ลอเรนโซ่ เวนูติ และ คริสเตียโน่ บิรากี

    แดนกลางใช้ ซอฟยาน อัมราบัต ประสานงานกับ จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า และ อันโตนิน บารัค แนวรุกนำมาโดย โจนาธาน อิโคเน่ และ ลูก้า โยวิช

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

มิลาน (4-2-3-1) : ซิเปรียน ตาตารูซานู - ปิแอร์ คาลูลู, ฟิกาโย่ โทโมริ, มัตเตโอ กับเบีย, เตโอ แอร์กน็องเดซ - ซานโดร โตนาลี่, อิสมาแอล เบนนาเซอร์ - ชาร์ลส์ เดอ เคทลาร์, บราฮิม ดิอาซ, ราฟาเอล เลเอา - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ฟิออเรนติน่า (4-3-3) : ปิเอโตร แตร์รัชเชียโน่ - ลอเรนโซ่ เวนูติ, นิโกล่า มิเลนโควิช, อิกอร์, คริสเตียโน่ บิรากี - ซอฟยาน อัมราบัต, จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า, อันโตนิน บารัค - โจนาธาน อิโคเน่ , ลูก้า โยวิช, คริสเตียน คูเอาเม่

----------------------------------------------------------------------

ยูเวนตุส (4) - ลาซิโอ (2)    

เวลา 02.45 น. ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (607)

สนาม : อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม

ยูเวนตุส

    ทีม "ม้าลาย" ผลงานดีต่อเนื่อง เกมล่าสุดชนะ เวโรน่า 1-0 ทำให้เฮในลีกมา 5 นัดรวด

    สำหรับเกมนี้ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์ ยูเวนตุส จะไม่มี ปอล ป็อกบา, มัตเตีย เด ชิโญ่, เฟเดริโก้ เคียซ่า และ ดูซาน วลาโฮวิช ที่ยังเจ็บทั้งหมด รวมไปถึง อเล็กซ์ ซานโดร ติดโทษแบน

    ทั้งนี้คาดว่าเจ้าถิ่นจะมาในระบบ 3-5-2 แนวรับสามคนส่ง เบรเมอร์ ประจำการกับ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ และ ดานิโล่

    ขยับมาแดนกลาง มานูเอล โลคาเตลลี่ ประสานงานกับ นิโกโล่ ฟาจิโอลี่ และ อาเดรียง ราบิโอต์ ขณะที่แนวรุกใช้ อังเคล ดิ มาเรีย ลงตัวจริงจับคู่กับ อาร์คาดิอุซ มิลิค หอกโปแลนด์ล่าตาข่าย

ลาซิโอ

    ทีม "อินทรีฟ้าขาว" ฟอร์มเริ่มคึก เกมล่าสุดเปิดบ้านชนะ มอนซ่า 1-0 ได้ประตูชัยจาก ลูก้า โรเมโร่ ดาวรุ่งวัย 17ปี

    สภาพทีมในเกมนี้ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เทรนเนอร์ของ ลาซิโอ จะไม่มี ปาทริช, มานูเอล ลาซซารี่ และ มัตเตีย ซัคคายี่ ที่เจ็บทั้งหมด แต่จะได้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ กองหน้าตัวเก่งฟิตกลับมาลงตัวจริง

    ทั้งนี้คาดว่าทีมเยือนจะมาในระบบ 4-3-3 แนวรับเกมนี้จะใช้ นิโกโล่ คาซาเล่ ประจำการร่วมกับ อเลสซิโอ โรมันโญลี่ ขนาบข้างด้วย เอลซาอิด เฮซาย และ อดัม มารูซิช

    ขยับมาแดนกลาง ดานิโล่ คาตัลดี้ ประสานงานกับ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช และ หลุยส์ อัลแบร์โต้ สามแนวรุกวางเฟลิเป้ อันแดร์สัน, ชิโร่ อิมโมบิเล่ และ เปโดร โรดริเกซ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ยูเวนตุส (3-5-2) : วอยเซียจ เชสนี่ - เบรเมอร์, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, ดานิโล่ - ฮวน กวาดราโด้, มานูเอล โลคาเตลลี่, นิโกโล่ ฟาจิโอลี่, อาเดรียง ราบิโอต์, ฟิลิป คอสติช - อังเคล ดิ มาเรีย, อาร์คาดิอุซ มิลิค

ลาซิโอ (4-3-3) : อิวาน โปรเวเดล - เอลซาอิด เฮซาย, นิโกโล่ คาซาเล่, อเลสซิโอ โรมันโญลี่, อดัม มารูซิช - ดานิโล่ คาตัลดี้, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช, หลุยส์ อัลแบร์โต้ - เฟลิเป้ อันแดร์สัน, ชิโร่ อิมโมบิเล่, เปโดร โรดริเกซ


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport