นำฝูงโด่ง! นาโปลี แกร่งเชือด อูดิเนเซ่ ยืดสถิติไร้พ่ายก่อนเบรคบอลโลก

นาโปลี ไม่พลาดคว้าชัยเปิดบ้านไล่บดเอาชนะ อูดิเนเซ่ 3-2 โดยเจ้าบ้านนำห่างถึง 3 เม็ด ก่อนจะมีเสียวเล็กน้อยหลังทีมเยือนรัวสองเม็ดติดๆ แต่ก็ไล่ไม่ทันส่งให้ นาโปลี ซิวสามแต้ม มีเพิ่มเป็น 41 แต้มนำโด่งเป็นจ่าฝูง ยืดสถิติยังไม่แพ้ในลีกฤดูกาลนี้ ก่อนจะพักเบรกหลีกทางให้ฟุตบอลโลก แล้วกลับมาฟาดแข้งกันอีกทีหลังปีใหม่

สนาม : สตาดิโอ ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า

จ่าฝูง นาโปลี ชนะเกมลีกมา 10 นัดติดต่อกัน มีแต้มทิ้งห่างรองจ่าฝูงอย่าง ลาซิโอ อยู่ 8 แต้ม ถ้าพวกเขาเก็บชัยชนะนัดนี้ได้ จะทำให้ระยะห่างเพิ่มขึ้นเป็น 11 คะแนนก่อนที่ลาซิโอจะลงเตะ แต่ข่าวร้ายสำหรับนาโปลีก่อนเริ่มเกมนี้ก็คือ ควิชา ควารัตสเคเลีย ตัวรุกริมเส้นคนสำคัญ ไม่ฟิตพอที่จะลงสนามช่วยทีม ส่วนอูดิเนเซ่นั้นฟอร์มต่างกับเจ้าบ้านโดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งมา 7 นัดติดต่อกัน ทำให้อันดับก่อนลงเตะร่วงลงมาถึงอันดับที่ 8 ของตาราง

เกมเริ่มมาได้ 15 นาที นาโปลีที่แม้จะมีโอกาสยิงน้อยกว่าได้โอกาสจะแจ้งก่อน เอลยิฟ เอลมาส รับบอลจากเพื่อนทางกราบซ้าย ก่อนจะหักกลับมาเข้าเท้าขวา เปิดหยอดๆ เข้าไปในกรอบเขตโทษให้กับ วิคเตอร์ โอซิมเฮ็น โหม่งถากๆ บอลลอยเสียบเสาไกล มาร์โก ซิลเวสตรี หมดสิทธิ์ป้องกัน นาโปลี ขึ้นนำ อูดิเนเซ่ 1-0 วิคเตอร์ โอซิมเฮ็น กดไปแล้วถึง 9 ประตูในลีกฤดูกาลนี้

อูดิเนเซ่ นอกจากจะเสียประตูแรกแล้ว พวกเขายังเสียผู้เล่นคนสำคัญไปอีก เคราร์ด เดวโลวเฟว ได้รับบาดเจ็บบริเวณขา ลงเล่นต่อไม่ไหว ทีมจึงตัดสินใจเปลี่ยนตัว ไอแซ็ค ซัคเซสส์ ลงมาเล่นแทน การขาดหายไปของเดวโลวเฟวถือว่าเสียหายสำหรับอูดิเนเซ่เป็นอย่างมาก เพราะทีมจะขาดตัวสร้างสรรค์เกม คอยผ่านบอลสร้างโอกาสให้เพื่อนในจังหวะสุดท้าย

ในนาทีที่ 30 นาโปลีทิ้งห่างอูดิเนเซ่เพิ่มเป็น 2 ประตู จากจังหวะสวนกลับที่ วิคเตอร์ โอซิมเฮ็น ลากดึงตัวประกบมาได้ 2 ตัว แล้วตอกส้นคืนให้กับโลซาโน่พาเปิดขึ้นไปข้างหน้า ก่อนจะเปิดบอลข้ามแนวรับไปให้กับ ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ จับด้วยซ้าย หักเข้าขวา และปั่นหนีมือของ มาร์โก ซิลเวสตรี เข้าไปอย่างสวยงาม

ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มเติมได้ จบครึ่งแรกนาโปลีขึ้นนำอูดิเนเซ่ 2-0 รูปเกมโดยรวมนาโปลีเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด สร้างสรรค์โอกาสได้ต่อเนื่อง และเปลี่ยนเป็นประตูได้เฉียบขาด ส่วน อูดิเนเซ่ แม้จะร้อนแรงในช่วง 10 นาทีแรก แต่หลังจากเสีย เคราร์ด เดวโลวเฟว ไป เกมรุกก็ช็อตไปดื้อๆ

ในนาทีที่ 58 นาโปลี ทิ้งห่าง อูดิเนเซ่ เป็น 3 ประตู นาโปลีได้โอกาสเล่นเกมสวนกลับอีกครั้ง บอลเริ่มจาก อ็องเดร แซมโบ อ็องกีสซ่า เลี้ยงตะลุยจากแดนตัวเองมายังแดนของอูดิเนเซ่ วิคเตอร์ โอซิมเฮน วิ่งฉีกตัวประกบไปทางขวา ทำให้พื้นที่ด้านซ้ายเปิดโล่ง เอลยิฟ เอลมาส จึงวิ่งเข้าไปในพื้นที่ฝั่งนั้นทันที และรับบอลจาก อ็องเดร แซมโบ อ็องกีสซ่า ก่อนหักหลบกองหลังอูดิเนเซ่หนึ่งจังหวะ แล้วซัดเต็มข้อ บอลพุ่งตุงตาข่าย เป็นอีกประตูที่ มาร์โก ซิลเวสตรี หมดหนทางจะป้องกัน

นาโปลี ได้โอกาสหนีห่างเป็น 4 ประตูหลังผ่านครึ่งเวลาหลังมาได้ครึ่งชั่วโมง มัตเตโอ โปลิตาโน่ รับบอลที่เด้งขลุกขลิกไปมาระหว่าง อ็องเดร แซมโบ อ็องกีสซ่า กับแนวรับของอูดิเนเซ่ ก่อนไหลให้กับ วิคเตอร์ โอซิมเฮ็น หลุดไปยิงเต็มข้อ แต่มุมนั้นแคบเกินไป ลูกจึงไปติดเซฟผู้รักษาประตูของอูดิเนเซ่

อูดิเนเซ่ ตีไข่แตกได้สำเร็จในนาทีที่ 78 บอลเริ่มจาก โรแบร์โต้ เปเรยร่า งัดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้กับ ไอแซ็ค ซัคเซสส์ พักอกให้กับ อิลิย่า เนสโตรอฟสกี้ ฮาล์ฟวอลเล่ย์ บอลลอดขาของแนวรับนาโปลี กระดอนพื้นแล้วตุงตาข่าย และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจ อูดิเนเซ่ ก็ไล่ตามมาเหลือประตูเดียว จากความผิดพลาดของ คิม มิน-แจ ที่ออกบอลช้า ลาซาร์ ซามาร์ดซิช ตัดบอลได้หน้ากรอบเขตโทษของนาโปลี ก่อนจะปั่นด้วยซ้าย บอลผ่านมือ อเล็กซ์ เมเร็ต เข้าไปอย่างสวยงาม

ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อูดิเนเซ่ พยายามทุกวิถีทางที่จะทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่ด้วยความยอดเยี่ยมของแนวรับนาโปลีที่โดนยิงใส่สองประตูติดๆ ก็มีสมาธิกับเกมเพิ่มขึ้น สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ทำสำเร็จ ผู้ตัดสินเป่าหมดเวลา นาโปลี เปิดบ้านเอาชนะอูดิเนเซ่ไปได้ด้วยสกอร์ 3-2 ทิ้งห่างอันดับที่ 2 ลาซิโอ และอันดับที่ 3 เอซี มิลาน เป็น 11 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ส่วนอูดิเนเซ่ไม่ชนะคู่แข่งมา 8 นัดติดต่อกัน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

นาโปลี : อเล็กซ์ เมเร็ต - มาธีอัส โอลิเวร่า, ฆวน เฆซุส, คิม มิน-แจ, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ - สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, อ็องเดร แซมโบ อ็องกีสซ่า - เอลยิฟ เอลมาส, เฮอร์วิ่ง โลซาโน่, วิคเตอร์ โอซิมเฮน

อูดิเนเซ่ : มาร์โก ซิลเวสตรี - เนฮุเอน เปเรซ, เอ็นโซ่ เอโบสเซ่, ยาก้า บิโยล - โรแบร์โต้ เปเรยร่า, วัลเลซ, ซานดี้ ลอฟริช, โตลกาย อาร์สลัน, คิงสลี่ย์ เอฮิซิบูเอ้ - เบโต้, เคราร์ด เดวโลวเฟว


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport