ที่ผ่านมาดื้อทำไม? เมื่ออโมริมพา แมนยู ชนะ นิวคาสเซิ่ล แบบมีคำถาม

ที่ผ่านมาดื้อทำไม? เมื่ออโมริมพา แมนยู ชนะ นิวคาสเซิ่ล แบบมีคำถาม
แมนยูไนเต็ด ในสภาพที่ไม่ค่อยสมประกอบสักเท่าไหร่ สามารถยัดเยียดความปราชัยให้ผู้มาเยือนอย่าง นิวคาสเซิ่ล ในศึกวันบ๊อกซิ่ง เดย์ ได้เฉยเลย และต่อไปคือสิ่งที่ผมอยากจะบอก

1. ก่อนเกม รูเบน อโมริม ผู้ยึดมั่นและถือมั่นในสูตร 'หลังสาม' แถลงแบบเป็นนัยๆ ว่าอาจปรับระบบการเล่น 

ก่อนจะทำให้เห็นจริงๆ ด้วยการติดตั้งสูตร 4-2-3-1 ให้ลูกทีมแบบไม่รู้ว่าซาตานตนใดดลใจให้ทำแบบนั้น

ลุค ชอว์ ถูกถ่างออกไปเป็นแบ็คซ้ายตำแหน่งเดิมของตัวเอง ขณะที่ ดิโอโก้ ดาโลต์ เป็นแบ็คขวา ส่วนปราการหลังตัวกลาง ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ อายเดน เฮฟเว่น เล่นคู่กัน

ตรงกลางมี กาเซมิโร่ กับ มานูเอล อูการ์เต้ เป็นตัวรับ ขยับขึ้นไป เมสัน เมาท์ สวมบทเบอร์ 10 ขนาบข้างด้วย มาเตอุส คุนญ่า ทางซ้าย และแพทริค ดอร์กู ทางขวา

หน้าเป้า เบนยามิน เชชโก้ 

2. พอปรับระบบการเล่นเป็น 4-2-3-1 สังเกตว่านักเตะพันธุ์อสูรเล่นกันได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น อีกทั้งยังมีความสมดุลย์กว่า 3-4-2-1 

อันนี้ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า 555

แต่ที่แน่ๆ แพทริค ดอร์กู ดูมีประโยชน์มากในตำแหน่ง 'หน้าขวา' อันเป็นตำแหน่งที่เล่นประจำสมัยอยู่กับ เลชเช่ ใน กัลโช่ เซเรีย อา เมื่อใช้ความเร็วโขยกใส่คู่แข่งอย่างสนุกสนาน แถมกระทุ้งประตูนำ 1-0 จากการวอลเล่ย์ด้วยซ้ายอย่าง...อย่าง...อย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขนาดจิ้งจกที่เกาะอยู่บนเพดานบ้านผมอุทานออกมาว่า...

เจ๊ตเข้ !!!

3. นิวคาสเซิ่ล อาจครองบอลบุกได้มากกว่าในครึ่งแรก ทว่าพลพรรคปีศาจแดงกลับหาจังหวะเข้าทำอย่างได้น้ำได้เนื้อมากกว่าในครึ่งแรก

แดนกลางที่ตอนแรกคิดว่าจะเป็นรองก็ไม่ได้เป็นรองอะไรมาก มิดฟิลด์ตัวรับอย่าง 'ไอ้อู๋' ที่เด็กผีเป็นห่วงมากที่สุดก็ช่วยตัดเกมพลางทำลายจังหวะของผู้มาเยือนได้บ่อยครั้ง 

ก่อนเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญในครึ่งหลัง

4.เมสัน เมาท์ ที่เล่นได้ไม่เลวเลยในครึ่งแรกถูกเปลี่ยนตัวออก (เข้าใจว่าน่าจะมีอาการบาดเจ็บ) แล้วส่งดาวรุ่งอย่าง แจ็ค เฟล็ทเชอร์ ลงมาแทน

ปัญหาคือบุตรของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ลงมาแล้วเล่นไม่ได้เลย เพราะยังดิบเกินไป ไร้ประสบการณ์เหมือนต่อให้เขา 1 ตัวจนเกมของ แมนยูไนเต็ด เริ่มเป็นรอง

เท่านั้นไม่พอ 

ผ่านไป 60 นาที รูเบน อโมริม ยังถอด กาเซมิโร่ ที่ไม่ได้ติดเหลือง ไม่ได้อ่อนล้า แถมยังพอครองบอลได้ออกจากสนามแบบ 'งงเป็นไก่ตาแตก' ซะอย่างนั้น

เลนี่ โยโร่ ลงมาเป็นแบ็คขวา 'ไอ้หำทมิฬ' ถูกโยกมาอยู่ทางซ้าย

เกมที่เป็นรองอยู่แล้วจึงยิ่งเป็นรองหนักมากขึ้น ชนิดโงหัวไม่ขึ้นเลยดีกว่า 

ดูยังไงก็ไม่น่ารอด สุดท้ายก็สามารถรักษาสกอร์นำเอาไว้ได้แบบฉิวเฉียด

5. ต้องบอกว่า แมนยูไนเต็ด เล่นเกมรับแบบรถบัสกันได้ดี ปิดพื้นที่แน่นหนา โดยช่วยกันบล็อค ช่วยกันสกัดจนไม่เปิดโอกาสให้ 'สาลิกาดง' มีโอกาสทำลายตาข่ายแบบจะแจ้งมากนัก

เหนือสิ่งอื่นใดคือไม่ก่อความผิดพลาดออกมาแม้แต่ครั้งเดียว !!!

ในเมื่อสุดท้าย ปีศาจแดงเป็นผู้ชนะ แถมชนะแบบไม่เสียประตูซะด้วย รูเบน อโมริม จึงรอดตัวไปนะครับ เพราะการเปลี่ยนตัวของเขานำมาซึ่งคำถาม และค้านสายตาอย่างรุนแรง 

นอกจากนี้การยอมปรับระบบเป็น 4-2-3-1 ยังแสดงให้เห็นว่ากุนซือผู้นี้ก็รู้จักยืดหยุ่นเหมือนกันนี่หว่า แถมได้ผลการแข่งขันที่ต้องการอีกตะหาก

คำถามคือแล้วที่ผ่านมา มึงจะดื้อทำไม ???



ที่มาของภาพ : Reuters
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport