ลิเวอร์พูล พบ วูล์ฟส์: ไฮไลต์โชต้า, จบปีให้ดีที่สุด! 5 ข้อน่าสนใจหงส์ดวลหมาป่า

 เกมรับมือทัพ "หมาป่า" ซึ่งตอนนี้กำลังกระเสือกกระสนดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากอันดับบ๊วยของตารางศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจจะมองว่าเป็นเกมที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว อย่าลืมว่าทีมเหล่านี้พร้อมสู้ถวายหัวเพื่อคะแนนและความอยู่รอด

 สำหรับเกมนี้มีไฮไลต์ที่สำคัญอย่างยิ่งนั่นก็คือการปะทะกับระหว่าง "หงส์แดง" กับ วูล์ฟส์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การจากไปของ ดีโอโก้ โชต้า และทายาทของเขาจะมีส่วนในเกมนี้โดยรับหน้าที่เป็นมาสค็อตด้วย 

1. แมตช์แห่งความทรงจำแด่ โชต้า

 สำหรับเกมนี้จะเป็นแมตช์แรกที่ ลิเวอร์พูล และ วูล์ฟส์ ปะทะแข้งกัน นับตั้งแต่การเสียชีวิตของ ดีโอโก้ โชต้า หลังเขากับน้องชายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ ทำให้แมตช์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก เพราะแฟนบอลของทั้งสองทีมต่างแสดงความรักและยกย่อง สตาร์ชาวโปรตุกีสผู้ล่วงลับอย่างมาก นอกจากนี้ลูกชายทั้งสองคนของเขาจะรับหน้าที่เป็นมาสค็อตด้วย 

2. วูล์ฟส์ ทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก?

 นี่เป็นฤดูกาลที่เลวร้ายอย่างยิ่งของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งกำลังสุ่มเสี่ยงจะกลายเป็นทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะหากวัดกันที่จำนวนคะแนน พวกเขาเก็บได้เพียง 2 คะแนนจาก 17 นัดแรกในลีก โดยได้มาจากเกมเยือน สเปอร์ส และเกมเปิดบ้านเสมอ ไบรท์ตัน ในช่วงปลายเดือนกันยายนและต้นเดือนตุลาคม

 วิตอร์ เปเรยร่า ถูกปลดออกจากตำแหน่งและแทนที่ด้วย ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ผลงานของ วูล์ฟส์ ก็แทบไม่ดีขึ้น ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล ต้องชนะเท่านั้น แม้เกมพรีเมียร์ลีกจะไม่เคยง่าย แต่สำหรับ "หงส์แดง" แล้ว พวกเขาคงไม่อาจขอโปรแกรมหลังช่วงคริสต์มาสที่ง่ายไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

3. สถิติสุดแกร่งของ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ ในการพบ วูล์ฟส์

 ต้องยอมรับว่า ลิเวอร์พูล มักทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในเกมนี้ โดยเอาชนะ วูล์ฟส์ ได้ทั้ง 8 นัดหลังสุดที่เล่นในแอนฟิลด์ เกม พรีเมียร์ลีก โดยเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ประตูของ หลุยส์ ดีอาซ และจุดโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ช่วยให้ "หงส์แดง" เฉือนชนะ 2-1 ที่แอนฟิลด์

 อย่างไรก็ตาม วูล์ฟส์ เคยบุกมาชนะที่นี่ 2-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อปี 2017 และบุกมาเสมอ 2-2 ในรอบ 3 ปี 2023 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะไปชนะเกมรีเพลย์ที่โมลินิวซ์ 1-0 ส่วนชัยชนะนัดล่าสุดของ วูล์ฟส์ ในเกมลีกที่แอนฟิลด์ ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2010 ซึ่งเป็นช่วงตกต่ำที่สุดของ "เดอะ เร้ดส์" ในยุคของ รอย ฮ็อดจ์สัน

4. เอกิติเก้ เทียบชั้น ตอร์เรส

  อูโก้ เอกิติเก้ ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ในแง่ของสไตล์การเล่น ซึ่งถือเป็นคำยกย่องอย่างสูงสำหรับกองหน้าป้ายแดงฟอร์มแรงของลิเวอร์พูล โดยต้องยอมรับว่านักเตะปรับตัวกับพรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็ว แทบไม่ต่างจากที่ ตอร์เรส เคยทำไว้ในช่วงแรกกับลีกสูงสุดอังกฤษ

 เอกิติเก้ ยิงไปแล้ว 8 ประตูจาก 16 เกมในพรีเมียร์ลีก โดยเป็นตัวจริงเพียง 11 เกม ขณะที่ "เอล นินโญ่" ทำได้ 9 ประตู ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่สำคัญทั้งคู่มีอายุ 23 ปี ในฤดูกาลแรกกับ "หงส์แดง" เหมือนกัน และสาวก "เดอะ ค็อป" ก็คงหวังว่า เอกิติเก้ จะฟอร์มฮอตแบบนี้ในอีกหลายๆ ปีข้างหน้า 

5. จบปี 2025 ด้วยอันดับที่ดีที่สุด

 สำหรับปี 2025 แม้จะเป็นปีที่สวยงามเพราะ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ แต่สำหรับฤดูกาล 2025/26 ผลงานในช่วงปลายปีของเขากระท่อนกระแทนเหลือเกิน และทำให้โอกาสในการป้องกันแชมป์ค่อนข้างยากมากๆ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทุกอย่างอาจจะพลิกผันหากทีมสามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในแมตช์รับมือ วูล์ฟส์ และลุ้้นให้ทีมหัวตารางสะดุด ซึ่งแน่นอนว่าฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ฉะนั้นสิ่งที่นักเตะ "หงส์แดง" ต้องทำก็คือจบปีมะเส็งในอันดับที่ดีที่สุด แล้วไปลุ้นกันใหม่ในปีมะเมีย !!

 ✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄