บ๊อกซิ่งเดย์ที่เปลี่ยนไป

บ๊อกซิ่งเดย์ที่เปลี่ยนไป
ว่ากันตามตรง ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะมีวันบ๊อกซิ่งเดย์ปีไหนไหมที่เงียบเหงาขนาดนี้

ปกติแล้ว วันที่ 26 ธันวาคมของทุกปีฟุตบอลลีกอังกฤษจะมีเกมเตะกันอย่างเอิกเกริก เป็นเพียงวันเดียวในปีปฏิทินที่การันตีได้เลยว่าคุณจะได้ชมเกมลูกหนังแน่ ๆ

และโดยประเพณีที่ผ่านมา มันจะเป็นแมตช์แบบเต็มวัน ในลักษณะของ When Saturday comes ด้วย คือมองมันเป็นแมตช์เดย์เต็มที่ฟาดแข้งกันวันเสาร์

จะมีเกมที่เตะกันตอนเที่ยงครึ่ง บ่ายสาม และห้าโมงครึ่งตอนเย็น หรือทุ่มครึ่ง สี่ทุ่ม และเที่ยงคืนครึ่งตามเวลาบ้านเรา

ปีไหนก็ปีนั้น อย่างน้อย ๆ 6-7 คู่ต้องมีหวดกัน 3 เวลาในวันบ๊อกซิ่งเดย์ เป็นเพียงวันเดียวของปีอย่างที่บอกว่าล็อกเอาไว้ได้เลยว่าเป็นหนึ่งแมตช์เดย์แน่ ๆ ไม่สำคัญว่ามันจะไปลงที่วันไหนของสัปดาห์ จันทร์ถึงอาทิตย์

ทุกวันที่ 26 ธันวาคม จะมีแมตช์เดย์เต็มอิ่มเสมอเหมือนวันเสาร์ปกติ มันอยู่ในวิถีชีวิตของแฟนบอลไปแล้วว่าหลังอยู่กับครอบครัวในวันคริสต์มาส พอรุ่งขึ้นแกะกล่องของขวัญเสร็จก็พาลูกไปดูบอล เป็นของขวัญที่พิเศษขึ้นไปอีก

แต่ไม่ใช่กับปีนี้..

มาร์ค อ๊อกเดน แห่ง ESPN ตั้งคำถามว่า Why this is the Premier League's quietest Boxing Day ever - ทำไมเกมบ๊อกซิ่งเดย์ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ถึงเงียบเหงาที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ปีนี้คือปีที่วันบ๊อกซิ่งเดย์ 26 ธ.ค. มีเกมเตะน้อยที่สุดในรอบ 43 ปี คือแค่ 1 เกม..

ย้อนกลับไปคราวนั้นคือปี 1982 วันบ๊อกซิ่งเดย์ตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งในเวลานั้นธรรมเนียมของบ๊อกซิ่งเดย์เป็นอีกแบบ ถ้ามันตรงกับวีคเอนด์หรือเสาร์-อาทิตย์ โปรแกรมเตะจะขยับไปเป็นวันจันทร์ แต่นับจากนั้นธรรมเนียมของวันบ๊อกซิ่งเดย์ก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างที่เราคุ้นเคย คือจะมีแมตช์เดย์เต็ม ๆ แน่นอนทุกวันที่ 26 ธันวาคม

(บ๊อกซิ่งเดย์อยู่คู่กับฟุตบอลอังกฤษมาตั้งแต่ฤดูกาลแรก 1888/89 เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ถล่ม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 5-0 คือคู่แรกที่ได้รับการบันทึกไว้ว่ามีเกมฟุตบอลหวดกันวันนั้น ประเพณีอันยาวนานนี้อยู่คู่กับวงการฟุตบอลอังกฤษมาจนถึงปัจจุบัน มีเพียงแค่ 5 ครั้งเท่านั้นตลอดประวัติศาสตร์ร้อยกว่าปีที่ไม่มีเกมเตะในวันที่ 26 ธ.ค. คือในปี 1948, 1954, 1965, 1971 และ 1976)

เป็นอีกครั้งที่ความเปลี่ยนแปลงเข้ามาเยือนเกมฟุตบอล เราได้เห็นเอฟเอ คัพยอมเปลี่ยนไปเล่นกลางสัปดาห์ แล้วก็เห็นต่อมาที่ยกเลิกเกมแข่งใหม่ตั้งแต่รอบแรก เราได้เห็นโค้ชชาวเยอรมันกุมบังเหียนทีมชาติอังกฤษ แล้วก็นี่ล่ะครับ เราได้เห็นวันบ๊อกซิ่งเดย์มีพรีเมียร์ลีกเตะแค่คู่เดียว ตอนสองทุ่มบ้านเขาหรือตีสามบ้านเรา

ลบกลิ่นอายอันคุ้นเคยของพรีเมียร์ลีกวันบ๊อกซิ่งเดย์ไปเสียสิ้น

ผมรู้สึกเศร้า คิดถึงบ๊อกซิ่งเดย์อย่างเก่า

เมื่อโปรแกรมเตะวันบ๊อกซิ่งเดย์คลอดออกมาเมื่อเดือนตุลาคม พรีเมียร์ลีกให้เหตุผลของการจัดวางโปรแกรมว่าเป็นเพราะปฏิทินฟุตบอลของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) บีบให้พวกเขาต้องปรับ

เกมเตะมากขึ้น ถ้วยยุโรป 2 รายการใหญ่ทั้งแชมเปี้ยนส์ ลีก และยูโรปา ลีก มีเกมเพิ่มอีก 2 นัดจากรอบลีก อีกทั้งปีนี้ยังมีฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์โลกฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพเข้ามาอีก

พวกเขาจำเป็นต้องลดทอนโปรแกรมชุกชุมช่วงเทศกาลคริสต์มาสต่อเนื่องปีใหม่ลง เพื่อสงวนสภาพร่างกายนักฟุตบอล

คนที่คุ้นเคยกับฟุตบอลอังกฤษจะรู้ดีว่าช่วงปลายปีแบบนี้ที่ลีกอื่นเขาพักหนีหนาวกัน แต่บอลอังกฤษซาดิสต์สุด ๆ ไม่เพียงมีเตะตามปกติแต่ยังอัดโปรแกรมให้แน่นเป็นพิเศษอีกต่างหาก

ที่เราเห็นประจำเลยคือแต่ละทีมลงเตะ 3 นัดตั้งแต่วันบ๊อกซิ่งเดย์ไปถึงปีใหม่ คือจะมีช่วง 28-29 ธันวาคมแทรกเข้ามา ก่อนจะตบท้ายด้วยเกมวันสิ้นปีหรือต่อเนื่องปีใหม่

เตะ 26-28-31 ธ.ค. หรือ 26-29 ธ.ค. กับ 1 ม.ค. อะไรทำนองนั้นเลย

นั่นคือความโหดหินของฟุตบอลอังกฤษ แต่ในอีกทางหนึ่งมันก็เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน และดำเนินกันมายาวนานเป็นประเพณี

ผมเข้าใจดีถึงความจำเป็นในเรื่องนี้ พรีเมียร์ลีกลดทอนโปรแกรมช่วงเทศกาลคริสต์มาสจาก 3 เกมเหลือ 2 เกมก็เป็นเรื่องที่ดีต่อนักฟุตบอล

แต่ผมเสียดายวันที่ 26 ธันวาคม หรือวันบ๊อกซิ่งเดย์ที่ไม่เหมือนเดิม เพียงแต่ในความเสียดายนั้นยังมีความโล่งใจอยู่เพราะพรีเมียร์ลีกยืนยันว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นแค่ปีนี้ปีเดียว และปีหน้าเกมเตะส่วนใหญ่ก็จะกลับไปที่วันแกะกล่องของขวัญ 26 ธันวาคมตามเดิม

ที่ผ่านมานั้นหากวันบ๊อกซิ่งเดย์เป็นวันศุกร์ เกมส่วนใหญ่ก็จะเตะวันศุกร์ (26 ธ.ค.) อาจจะมีสัก 8 คู่ เกมที่เหลือไปเล่นวันเสาร์ที่ 27 ธ.ค. (หรือบางปีขยับฉีกไปเตะวันอาทิตย์ที่ 28 อีกวัน) จากนั้นในวันจันทร์ (29 ธ.ค.) ก็เตะแมตช์เดย์ต่อไปส่วนใหญ่สัก 7-8 คู่ ขยับอีก 2-3 เกมไปเล่นวันอังคารและพุธ (30-31 ธ.ค.)

แต่ในฤดูกาลนี้พรีเมียร์ลีกวางโปรแกรมเตะบ๊อกซิ่งเดย์วันศุกร์ที่ 26 แค่คู่เดียวตอนตีสามบ้านเรา แล้วขยับไปเตะวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคมอีก 7 คู่ โดยสองคู่สุดท้ายเตะวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม

จากนั้นในแมตช์เดย์ถัดไป (เกมที่ 19) เตะคืนวันอังคารที่ 30 ธันวาคม 6 คู่ และคืนวันพฤหัสฯ ที่ 1 มกราคมอีก 4 คู่ที่เหลือ ก่อนจะเข้าสู่เกมสุดสัปดาห์เสาร์ที่ 3 กับอาทิตย์ที่ 4 มกราคมต่อไปในเกมที่ 20

ที่ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ก็คือปีนี้พรีเมียร์ลีกเลือกให้เกมส่วนใหญ่ (7 คู่) ไปเตะวันเสาร์ที่ 27 แทนที่จะเป็นวันบ๊อกซิ่งเดย์ศุกร์ที่ 26 ที่เหลือเพียงคู่เดียว เพราะถ้ามองย้อนขึ้นไปมันไม่ได้มีเกมลีกกลางสัปดาห์ที่จะทำให้นักเตะไม่ได้พัก

16 จาก 20 ทีมเตะตั้งแต่วันเสาร์ที่ 20 ธ.ค. ต่อด้วยวันอาทิตย์กับจันทร์อีกวันละคู่ เมื่อพรีเมียร์ลีกจัดโปรแกรมบ๊อกซิ่งเดย์ซีซั่นนี้ให้ส่วนใหญ่เตะวันที่ 27 แทนที่จะเป็นวันที่ 26 นั่นหมายความว่าคุณอาจจะได้พักถึง 7 วันจากเกมสัปดาห์ก่อนก็จริง แต่ก็จะมีเวลาพักเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นก่อนเตะเกมสุดท้ายของปี

มันไม่สมดุลเท่าการให้เกมส่วนใหญ่เตะวันบ๊อกซิ่งเดย์ 26 ธ.ค. ตามวิถีที่เป็นมาด้วยซ้ำ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคุณจะได้พัก 6 วันจากเกมล่าสุด และพักอีก 4 วันก่อนถึงนัดถัดไป

แต่ก็นั่นล่ะครับ มันคงมีเหตุผลที่จำเป็นจริง ๆ ให้พรีเมียร์ลีกจัดวางโปรแกรมแบบนี้ ถ้าให้วิเคราะห์ก็น่าจะเป็นเรื่องรายได้หรือสัญญาการถ่ายทอดสดช่วงวีกเอนด์ (วันเสาร์) มากกว่าประเด็นเรื่องการพักผ่อนของนักเตะหรือปฏิทินยูฟ่ากับฟีฟ่าชุกชุม

เตะศุกร์ 7-8 คู่ เสาร์แค่ 1-2 คู่ ขายไม่ได้เท่าเตะศุกร์คู่เดียว และเสาร์ 7 คู่ อาทิตย์อีก 2 คู่.. บ๊อกซิ่งเดย์ 2025 จึงมีอันต้องหลบไปด้วยประการฉะนี้

ยังดีนะครับที่จะเป็นแค่ปีนี้ปีเดียว ไม่อย่างนั้นมันคงเป็นวิถีชีวิตที่เศร้าน่าดูสำหรับแฟนบอลที่วันรุ่งขึ้นหลังคริสต์มาสจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป..

ตังกุย 



ที่มาของภาพ : reuters
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport