ตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมกำลังจะเปิดในช่วงปลายสัปดาห์หน้า งานนี้บรรดาสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมทุ่มเงินเพื่อเสริมแกร่งเต็มที่
สำหรับตลาดพ่อค้าแข้งช่วงครึ่งซีซั่นแรก เปิดโอกาสให้สโมสรต่างๆ ได้เสริมความแข็งแกร่ง และแก้ไขจุดบกพร่องที่มีอยู่ หลายทีมสามารถเพิ่มขุมกำลังที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อกอบกู้ผลงานของฤดูกาล หรือผลักดันทีมให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้นในช่วงท้ายซีซั่น
การเดินเกมในตลาดนักเตะได้อย่างถูกต้อง อาจเป็นตัวชี้ชะตาระหว่างการคว้าแชมป์, การคว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรป หรือการตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก ดังนั้น ตลาดช่วงฤดูหนาวนี้มีแนวโน้มจะคึกคักที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี หลังมีดีลใหญ่จำนวนมากถูกวางแผนและเตรียมการไว้แล้ว
ดังนั้นนี่คือการย้ายทีมครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นมากที่สุด 8 ดีล ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2026
1. เอลเลียต แอนเดอร์สัน ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเสริมความแข็งแกร่งในแผงกองกลางของพวกเขาหากหวังขยับอันดับขึ้นมาในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
รูเบน อโมริม นายใหญ่ชาวโปรตุกีส ไม่ค่อยชื่นชอบการใช้งาน ค็อบบี้ เมนู และมักเลือกใช้ กาเซมีโร่ และ มานูเอล อูการ์เต้ มากกว่า แข้งดาวรุ่งชาวอังกฤษ รายนี้อยู่บ่อยครั้ง
สำหรับ เอลเลียต วัย 23 ปี เป็นนักเตะชั้นยอดของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของทัพ "ปีศาจแดง" โดยผลงานของเขาน่าประทับใจอย่างมากนับตั้งแต่ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาสู่ถิ่น ซิตี้ กราวนด์ เมื่อปี 2024
อย่างไรก็ตาม ทัพ "เจ้าป่า" ติดป้ายราคาของ เอลเลียต เอาไว้สูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการคว้าตัวเขามาร่วมทัพ
2. อดัม วอร์ตัน ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สำหรับ อดัม วอร์ตัน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในแดนกลางที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการตัวเช่นกัน หลังนักเตะสร้างผลงานดีมีคุณภาพให้กับ คริสตัล พาเลซ
ทัพ "ปีศาจแดง" อาจเดินหน้าเพื่อยกเครื่องแผงมิดฟิลด์ด้วยการขยับคว้าตัวนักเตะแดนกลางเพิ่มอีกราย โดยคราวนี้เล็งไปที่อดีตกองกลางของ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
สตาร์ชาวอังกฤษ วัย 21 ปี กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดของพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ย้ายขึ้นมาจาก แบล็คเบิร์น มาสู่ถิ่น เซลเฮิร์สต์ พาร์ค เมื่อเดือนมกราคม ปี 2024
"ดิ อีเกิ้ล" ประเมินค่าตัวของ วอร์ตัน ไว้สูงกว่า 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,640 ล้านบาท) ซึ่งนั่นหมายความว่า เดือนนี้อาจกลายเป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้เงินมหาศาลสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด หากเลือกเดินหน้าคว้าตัวกองกลางทีมชาติอังกฤษทั้งสองรายพร้อมกัน
3. ฟรังกูลิโน่ จู ไป ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ไม่ใกล้เคียงกับมาตรฐานสูงสุดที่พวกเขาเคยแสดงให้เห็นในฤดูกาลที่คว้าแชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้ว แถมยังเจอปัญหาใหญ่เรื่องกองหน้าบาดเจ็บด้วย
"หงส์แดง" ทุ่มเงินมหาศาลในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ผลงานกลับสวนทางกับเม็ดเงินที่จ่ายไป และตอนนี้ อเล็กซานเดอร์ อีซัค ดันดวงแตกได้รับบาดเจ็บหนักต้องพักยาว นั่นทำให้การซื้อหัวหอกตัวใหม่จึงมีความจำเป็น
จากรายงานของสื่อในเยอรมนี ระบุว่า กองหน้าจากสโมสรมิดทิลลันด์ อาจจะย้ายมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยค่าตัวเพียง 26 ล้านปอนด์ (ราว 1,144 ล้านบาท) ในเดือนมกราคมนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จู ยังได้รับความสนใจจาก "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน และ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เช่นกัน
4. อองตวน เซเมนโย่ ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สำหรับ อองตวน เซเมนโย่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับความสนใจอย่างมากในพรีเมียร์ลีก หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับ บอร์นมัธ มาตลอดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาจนถึงซีซั่นนี้
แนวรุกทีมชาติกานา ซัดไปแล้ว 8 ประตูจากการลงเล่น 16 เกมในลีกให้กับทัพ "เดอะ เชอรี่ส์" ในซีซั่นนี้ โดยมีการเปิดเผยว่านักเตะมีค่าฉีกสัญญา 65 ล้านปอนด์ (ราว 2,860 ล้านบาท) ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ม.ค.ทันที
ช่วงที่ผ่านมา เชลซี, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กระสันต้องการตัว เซเมนโย่ มาร่วมทัพให้ได้ แต่สุดท้ายนักเตะปฏิเสธหมด และต้องการไปร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ด้วยเหตุผลเดียวก็คืออยากได้แชมป์ !!
5. มาร์ค เกฮี ไป ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล อาจกลับมาเดินหน้าคว้าตัว มาร์ค เกฮี ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแนวรับ หลังกองหลังของพวกเขาฟอร์มไม่ค่อยคงเส้นคงวาเท่าไหร่
ปราการหลังกัปตันทีม คริสตัล พาเลซ เกือบย้ายไปค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ดีลดังกล่าวล่มลงในวันสุดท้ายของตลาด ซึ่งถือเป็นความน่าผิดหวังของสาวก "เดอะ ค็อป" จริงๆ
เกฮี จะสามารถย้ายออกจาก เซลเฮิร์สต์ พาร์ค ได้แบบไม่มีค่าตัวหลังจบฤดูกาลนี้ เนื่องจากหมดสัญญาพอดี ทำให้ข้อเสนอที่เป็นเม็ดเงินในตอนนี้อาจจูงใจให้ พาเลซ ตัดสินใจปล่อยตัวเขาออกไป
6. ไอแวน โทนีย์ ไป เอฟเวอร์ตัน
เอฟเวอร์ตัน กำลังต้องการพลังเกมรุกอย่างเร่งด่วน หลังยิงได้เพียง 18 ประตูในลีก โดยมีแค่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เท่านั้นที่ทำประตูได้น้อยกว่า
"สกาย สปอร์ตส์" สื่อดังในอังกฤษ รายงานว่า "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" กำลังวางแผนเดินหน้าคว้าตัว ไอแวน โทนี่ย์ อดีตกองหน้าคนดังของ เบรนท์ฟอร์ด เนื่องจากศักยภาพของนักเตะจะช่วยให้ทีมผลิตประตูได้มากขึ้น
แข้งเลือดผู้ดีปัจจุบันค้าแข้งกับ อัล-อาห์ลี ในศึกซาอุดี โปร ลีก และยิงไปแล้ว 13 ประตูจากการลงสนาม 19 นัดในฤดูกาลนี้ โดยมีรายงานระบุว่า โทนี่ย์ เปิดกว้างกับการย้ายกลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้ง
เหตุผลสำคัญเพราะนักเตะต้องการเพิ่มโอกาสเข้าตา โธมัส ทูเคิ่ล ที่จะเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษ ลุยฟุตบอลโลก 2026 อย่างไรก็ตาม ดีลนี้จะมีมูลค่าสูงมากพอสมควร
7. ซาวินโญ่ ไป สเปอร์ส
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เคยพยายามคว้าตัว ซาวินโญ่ เมื่อช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ต้องผิดหวังหลังข้อเสนอ 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,640 ล้านบาท) โดน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปฏิเสธอย่างไม่ใยดี
สตาร์ชาวบราซิเลียน วัย 21 ปี ลงเล่นในเกมลีกไปเพียง 13 นัดในฤดูกาลนี้เท่านั้น และยังคงประสบปัญหาในการสอดแทรกโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม
ทัพ "ไก่เดือยทอง" อาจกลับมาเดินหน้าล่าตัว ซาวินโญ่ อีกครั้งในตลาดพ่อค้าแข้งเดือนมกราคมนี้ โดยจะใช้วิธีเกลี้ยกล่อมเรื่องโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง และน่าจะจูงใจนักเตะพอสมควร
8. ค็อบบี้ เมนู ไป เชลซี
แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ต้องการปล่อยตัว ค็อบบี้ เมนู ในช่วงเดือนมกราคม หลัง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้รับบาดเจ็บ และอาจพักยาว แต่เพื่ออนาคตการติดทีมชาติอังกฤษ ไปลุยฟุตบอลโลก 2026 การอยู่กับ "ผีแดง" อาจไม่ใช่แนวคิดที่ดี
เมนู กลายเป็นแข้งตกสำรวจของ แมนฯ ยูฯ นับตั้งแต่ที่ รูเบน อโมริม เข้ามากุมบังเหียน โดย นายใหญ่ชาวโปรตุกีส นิยมใช้งาน กาเซมีโร่ มากกว่า นั่นทำให้ ดาวรุ่งชาวอังกฤษ เป็นได้แค่ยางอะไหล่เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ พอล สโคลส์ ตำนาน แมนฯ ยูฯ ออกมากระตุ้นนักเตะให้ย้ายไปหาโอกาสใหม่กับทีมอื่น และถ้าจะไปได้สวยหากย้ายไปร่วมงานกับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่ เชลซี
นอกจากนี้ เมนู ยังมีทางเลือกอื่นเช่นกัน เพราะ นาโปลี ก็แสดงความสนใจอยากได้นักเตะไปร่วมทัพ เช่นเดียวกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่พร้อมยืมตัวไปใช้งานเช่นกัน
✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄