หนึ่งในสาเหตุที่ทำงานงบการเงินของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระส่ำก็คือค่าใช้จ่ายจากอาการบาดเจ็บ เพราะตลอดช่วง 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาเสียค่าใช้จ่ายเรื่องนี้สูงถึง 155 ล้านปอนด์ (ราว 6,820 ล้านบาท) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก
จากการศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกพบว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีค่าใช้จ่ายจากอาการบาดเจ็บ สูงที่สุดหรือสูงเป็นอันดับสอง ในแต่ละฤดูกาลระหว่าง ฤดูกาล 2020/21 ถึง 2024/25
ข้อมูลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของรายงานฉบับที่ 5 ของ "ดัชนีอาการบาดเจ็บของนักฟุตบอลชายในยุโรป" (Men’s European Football Injury Index) ซึ่งจัดทำโดยกลุ่มบริษัทนายหน้าประกันภัย "ฮาวเด้น" (Howden)
สำหรับรายงานฉบับนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะฤดูกาลที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งเป็นซีซั่นที่ แมนฯยูฯ ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในรอบ 50 ปี แต่ยังสะท้อนภาพรวมตลอดช่วง 5 ปีหลังสุด อีกด้วย
ถัดจาก แมนฯ ยูฯ ก็คือ เชลซี 137 ล้านปอนด์ (ราว 6,028 ล้านบาท) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 104 ล้านปอนด์ (ราว 4,576 ล้านบาท) โดยค่าใช้จ่ายจากอาการบาดเจ็บถูกคำนวณจากค่าเหนื่อยรายวันของนักเตะในช่วงที่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้น การขาดหายไปของนักเตะตัวหลักที่รับค่าเหนื่อยสูงเพียงคนเดียว จึงส่งผลให้ต้นทุนสูงกว่า การขาดนักเตะในทีมหลายคนที่มีค่าเหนื่อยต่ำกว่า
สำหรับ "ปีศาจแดง" ฤดูกาลที่มีค่าใช้จ่ายจากอาการบาดเจ็บสูงที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าวคือ ซีซั่น 2023/24 ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 45.28 ล้านปอนด์ (ราว 1,992 ล้านบาท) ขณะที่ฤดูกาลล่าสุด สโมสรมีสถานการณ์ดีขึ้น โดยตามรายงานระบุว่าค่าใช้จ่ายจากอาการบาดเจ็บ ลดลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า 28 ล้านปอนด์ (ราว 1,232 ล้านบาท)
ค่าใช้จ่ายจากอาการบาดเจ็บที่ต่ำที่สุดของ แมนฯ ยูฯ อยู่ที่เพียง 14.5 ล้านปอนด์ (ราว 638 ล้านบาท) เกิดขึ้นในฤดูกาล 2020/21 โดยตลอดช่วง 5 ปีหลังสุด "เร้ด เดวิลส์" ประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 399 ครั้ง เฉลี่ยเกือบ 80 ครั้งต่อฤดูกาล
ขณะที่ เชลซี ต้องพบกับปัญหาอาการบาดเจ็บ 359 ครั้ง ส่วน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จนวน 355 ครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้ แมนฯ ยูฯ จะมีผลงานในสนามที่ย่ำแย่ แต่จำนวนอาการบาดเจ็บของทีมในฤดูกาลล่าสุดกลับลดลงเหลือเพียง 68 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลข ต่ำที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว
งานวิจัยดังกล่าว ซึ่งยังได้ศึกษาลีกสูงสุดของเยอรมนี, สเปน, อิตาลี และฝรั่งเศส ด้วย บันทึกการบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 22,596 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเกือบ 3 พันล้านปอนด์ (ราว 132,000 ล้านบาท) ตลอดช่วงเวลา 5 ปี
สโมสรในพรีเมียร์ลีกมีสัดส่วนการบาดเจ็บ 24 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด แต่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางการเงินระหว่างลีกสูงสุดของอังกฤษกับคู่แข่งในยุโรป
ขณะที่ภาพรวมค่าใช้จ่ายจะเพิ่มสูงขึ้น แต่จำนวนอาการบาดเจ็บยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับของเดิม และในบางกรณีกลับลดลงด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของอาการบาดเจ็บกลับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักเตะที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี
ประเด็นดังกล่าวถูกเชื่อมโยงกับ ตารางการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นของนักเตะ โดย ดร. โรบิน ธอร์ป ผู้เชี่ยวชาญด้านสมรรถนะฟุตบอลระดับสูงและความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับ แมนฯ ยู กล่าวว่า "สัญญาณที่น่าเป็นห่วงคือ ความรุนแรงของอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์"
"มันเป็นการบ่งชี้ว่านักเตะที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ต้องใช้เวลา พักรักษาตัวนานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การเพิ่มขึ้นของความรุนแรงของอาการบาดเจ็บนี้ สอดคล้องกับช่วงเวลาฟื้นฟูร่างกายที่ลดลง, ความอ่อนล้าสะสม รวมถึง ความถี่และการจัดลำดับการแข่งขันระดับสูงที่แน่นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับบางสโมสร"
"ความเปราะบางของนักเตะอายุน้อยถือว่าเป็นเรื่องที่เด่นชัดมาก โดยลีกชั้นนำต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพรีเมียร์ลีก นักเตะที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี กลับเป็นกลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่สุด ทั้งที่พวกเขาลงสนามสะสมเวลาแข่งขันน้อยที่สุด"
"ประเด็นนี้อาจสะท้อนถึง ปัญหาเชิงโครงสร้างในเส้นทางการพัฒนานักเตะ โดยในหลายกรณี นักเตะอาจมีความพร้อมด้านทักษะ สำหรับฟุตบอลระดับชุดใหญ่แล้ว แต่ยังขาดความแข็งแกร่งทางร่างกาย ที่จำเป็นต่อการรองรับความหนักหน่วงของการแข่งขันในระดับดังกล่าว" ธอร์ป ระบุ
✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄