แมนยู รออีก 15 ปี! AI ทำนายแชมป์ พรีเมียร์ลีก 25 ฤดูกาลข้างหน้า

แมนยู รออีก 15 ปี! AI ทำนายแชมป์ พรีเมียร์ลีก 25 ฤดูกาลข้างหน้า
เสน่ห์ของพรีเมียร์ลีกคือ ความคาดเดาไม่ได้ ต่างจากหลายลีกในยุโรปที่มีแชมป์ผูกขาด ไม่ว่าจะเป็น บาเยิร์น มิวนิค ใน บุนเดสลีกา หรือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ใน ลีก เอิง โดยการคว้าแชมป์สุดเหลือเชื่อของ เลสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 2015/16 คือหลักฐานชัดเจนว่า ลีกสูงสุดของอังกฤษ "ไม่เหมือนใคร"

ด้วยเหตุนี้ AI จึงถูกนำมาใช้ทำนายว่า ใครจะครองความยิ่งใหญ่ของ พรีเมียร์ลีก ในอีก 25 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 ไปจนถึง 2049/50 และผลลัพธ์ที่ออกมาน่าสนใจไม่น้อย (ข้อมูลจากเว็บไซต์ givemesport.com)

🔮 2025/26 - 2029/30 : อาร์เซน่อล คืนบัลลังก์ - ลิเวอร์พูล ปิดทศวรรษ

- 2025/26 : อาร์เซน่อล

- 2026/27 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

- 2027/28 : อาร์เซน่อล

- 2028/29 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

- 2029/30 : ลิเวอร์พูล

----------

🔮 2030/31 – 2034/35 : แอสตัน วิลล่า แจ้งเกิด - เชลซี คืนชีพ

- 2030/31 : แอสตัน วิลล่า

- 2031/32 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

- 2032/33 : เชลซี

- 2033/34 : อาร์เซน่อล

- 2034/35 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

----------

🔮 2035/36 – 2039/40 : นิวคาสเซิ่ล ปลดล็อก - บิ๊กทีมยังวนเวียน

- 2035/36 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

- 2036/37 : ลิเวอร์พูล

- 2037/38 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

- 2038/39 : อาร์เซน่อล

- 2039/40 : เชลซี

----------

🔮 2040/41 – 2044/45 : แมนยู กลับมาทวงศักดิ์ศรี - วิลล่า คว้าแชมป์สมัยสอง

- 2040/41 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

- 2041/42 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

- 2042/43 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

- 2043/44 : ลิเวอร์พูล

- 2044/45 : แอสตัน วิลล่า

----------

🔮 2045/46 – 2049/50 : เรือใบ ยังไม่หมดไฟ - แมนยู-ปืน-สาลิกา สลับซิว

- 2045/46 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

- 2046/47 : อาร์เซน่อล

- 2047/48 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

- 2048/49 : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

- 2049/50 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ถึงแม้จะเป็นเพียงการคาดการณ์ของ AI แต่ภาพรวมสะท้อนชัดว่า...

- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ตามด้วย อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า คือ "คลื่นลูกใหม่" ที่อาจขึ้นมาท้าทายบิ๊กทีม

- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกลับมาได้แชมป์อีกแน่นอน แต่ต้องรอจากปี 2026 ต่อไปอีก 15 ปี

✍️ 𝐒𝐮𝐛𝐢𝐧𝐡𝐨



ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport