อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ยังอยู่บนเส้นทางของการคว้าสี่แชมป์ในซีซั่น 2025/26 หลังสยบ คริสตัล พาเลซ ได้ด้วยการดวลลูกโทษตัดสินในเกม คาราบาว คัพ รอบแปดทีมสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
หลังเอาชนะ อินทรีผงาดฟ้า ได้แบบน่าเสียวไส้ เดอะ กันเนอร์ส จะเปิดศึก ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ต่อด้วยการต่อกรกับ เชลซี ในรอบตัดเชือกสองนัดโดยทีมของกุนซือสแปนิชจะบุกไปเยือน สิงห์บลูส์ ก่อนในวันที่ 14 ม.ค.แล้วจึงกลับมาเล่นในบ้านวันที่ 3 ก.พ.
หลังฝ่าด่านทีม ดิ อีเกิ้ลส์ ของกุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ได้จึงหมายความว่าจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ยังมีลุ้นคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้ได้ครบทั้งสี่รายการ
แต่ขณะเดียวกัน แน่นอนว่าทีม ปืนใหญ่ หนีไม่พ้นต้องเจอกับโปรแกรมชุกชุมซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ปีหน้าโดยเฉพาะในช่วงเดือนม.ค.จนถึงกลางเดือนก.พ.ทีมของ อาร์เตต้า จะต้องลงสนามแบบถี่ยิบแทบทุกๆสามหรือสี่วันรวมทั้งสิ้น 12 นัดในทุกรายการ
ฉะนั้นแล้วก่อนจะไปลุ้นกันว่าสุดท้ายแล้ว อาร์เซน่อล จะมีโอกาสเหมาคว้าสี่แชมป์มากน้อยแค่ไหน เราควรมองดูโปรแกรมโหดในต้นปีหน้าของพวกเขากันสักหน่อย
เสาร์ที่ 3 ม.ค.:บอร์นมัธ (เยือน) พรีเมียร์ลีก
พฤหัสบดีที่ 8 ม.ค.:ลิเวอร์พูล (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
อาทิตย์ที่ 11 ม.ค.: พอร์ทสมัธ (เยือน) เอฟเอ คัพ รอบสาม
พุธที่ 14 ม.ค.: เชลซี (เยือน) คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศนัดแรก
เสาร์ที่ 17 ม.ค.: ฟอเรสต์ (เยือน) พรีเมียร์ลีก
อังคารที่ 20 ม.ค.:อินเตอร์ มิลาน (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก
อาทิตย์ 25 ม.ค.:แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
พุธที่ 28 ม.ค.:ไครัต (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก
เสาร์ที่ 31 ม.ค.: ลีดส์ (เยือน) พรีเมียร์ลีก
อังคารที่ 3 ก.พ.:เชลซี (เหย้า) คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศนัดสอง
เสาร์ที่ 7 ก.พ.:ซันเดอร์แลนด์ (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
พฤหัสบดีที่ 12 ก.พ.: เบรนท์ฟอร์ด (เยือน) พรีเมียร์ลีก