รวมที่สุดแห่งปีพรีเมียร์ลีก หลังผ่าน 17 นัดแรกฤดูกาล 2025/26

รวมที่สุดแห่งปีพรีเมียร์ลีก หลังผ่าน 17 นัดแรกฤดูกาล 2025/26
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26 เดินทางมาถึงนัดที่ 17 พร้อมกับความเข้มข้นที่ทวีคูณ เมื่อยักษ์ใหญ่ไม่ได้ผูกขาดความสำเร็จ และทีมระดับกลางก้าวขึ้นมาสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วเกาะอังกฤษ นี่คือสรุป "ที่สุด" ในช่วงผ่าน 17 นัดแรก

ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี – อาร์เซน่อล 

 สำหรับทีมยอดเยี่ยมแห่งปี คงจะเป็นทีมไหนไปไม่ได้นอกจาก อาร์เซน่อล ที่ระเบิดฟอร์มได้อย่างร้อนแรงและสง่างามที่สุดในพรีเมียร์ลีก “ปืนใหญ่” ผงาดขึ้นเป็นทีมยอดเยี่ยมแห่งปีด้วยผลงานสุดร้อนแรง หลังลงสนาม 17 นัด ชนะ 12 เสมอ 3 และแพ้เพียง 2 นัด 

อาร์เซน่อล เก็บได้ถึง 39 คะแนนรั้งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น โดยโชว์ฟอร์มได้อย่างสมดุลทั้งเกมรุกที่ดุดันถล่มไป 31 ประตู และเกมรับที่แข็งแกร่งเสียเพียง 10 ประตูเท่านั้น กลายเป็นทีมที่มีผลงานสมบูรณ์แบบที่สุดในฤดูกาลนี้ 

ทีมยอดแย่แห่งปี - วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 

 สำหรับทีมยอดแย่แห่งปีคงหนีไม่พ้น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่จมบ๊วยของตารางด้วยผลงานย่ำแย่ หลังลงสนาม 17 นัดแต่ยังไม่สามารถสะกดคำว่าชนะได้เลย โดยเสมอ 2 และแพ้ไปถึง 15 เกม 

แม้จะมีการเปลี่ยนตัวกุนซือเพื่อหวังแก้วิกฤตแต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ส่งผลให้ทัพ "หมาป่า" อยู่ในสภาวะวิกฤตและมีโอกาสสูงที่จะต้องกระเด็นตกชั้นไปในที่สุด 

ทีมเซอร์ไพรส์ที่สุดแห่งปี – ซันเดอร์แลนด์ 

 ซันเดอร์แลนด์ ทีมน้องใหม่หน้าเก่าที่เลื่อนชั้นกลับมาด้วยตั๋วเพลย์ออฟใบสุดท้าย สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ด้วยการรั้งอันดับ 6 ของตาราง ทั้งที่ถูกมองว่าอาจต้องลุ้นหนีตาย โดยทัพ "แมวดำ" โชว์ฟอร์มแกร่งเกินคาด 

ซันเดอร์แลนด์ เก็บชัยชนะได้ถึง 7 นัด เสมอ 6 และแพ้ไปเพียง 4 เกมเท่านั้น เก็บได้ 27 คะแนนกลายเป็นม้ามืดที่พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขามีดีพอที่จะต่อกรกับทีมยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก ได้อย่างเต็มตัว 

นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี – เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 

 ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ยังคงรักษามาตรฐานระดับมาสเตอร์พีซไว้ได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ย้ายมาจากดอร์ทมุนด์ 

ผ่านมา 17 นัด ฮาลันด์ ระเบิดฟอร์มซัดไปแล้วถึง 19 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ นำโด่งเป็นดาวซัลโวของลีกแบบไร้คู่แข่ง ตอกย้ำภาพลักษณ์ยอดกองหน้าเบอร์หนึ่งของโลกที่พร้อมจะทำลายทุกสถิติในพรีเมียร์ลีก 

นักเตะน่าผิดหวังที่สุดแห่งปี - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) 

 สำหรับตำแหน่งนักเตะที่น่าผิดหวังที่สุดคงต้องยกให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลังจากโชว์ฟอร์มระดับมาสเตอร์พีซมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นความหวังสูงสุดของแฟนบอล 

ทว่าในฤดูกาลนี้ ซูเปอร์สตาร์ชาวอียิปต์ กลับฟอร์มหลุดอย่างน่าใจหาย โดยผ่านไป 17 นัด เพิ่งทำได้เพียง 4 ประตู กับ 3 แอสซิสต์เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่เขาเคยทำไว้เป็นอย่างมาก และยังคงต้องลุ้นว่าเขาจะกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้ทันเวลาหรือไม่ 

 นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี – มอร์แกน โรเจอร์ส (แอสตัน วิลล่า) 

 มอร์แกน โรเจอร์ส แนวรุกฟอร์มแรงของ แอสตัน วิลล่า ที่โชว์ผลงานได้อย่างร้อนแรงจนกลายเป็นหัวใจสำคัญในเกมบุกของ “สิงห์ผงาด” ได้อย่างเต็มตัว ด้วยผลงานส่วนตัวที่น่าทึ่งซัดไปแล้วถึง 7 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ 

นอกจากจะแบกความหวังของสโมสรแล้ว เขายังยกระดับตัวเองขึ้นไปเป็นกำลังหลักในทีมชาติอังกฤษอีกด้วย ถือเป็นปีทองที่แข้งวัย 23 ปี พิสูจน์ให้เห็นถึงคลาสบอลระดับสูงอย่างแท้จริง 

การเซ็นสัญญาที่คุ้มที่สุด - อูโก้ เอกิติเก้ (ลิเวอร์พูล) 

 อูโก้ เอกิติเก้ ที่ย้ายจากไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต มาร่วมทัพ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวกว่า 79 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,314 ล้านบาท) แม้ในช่วงแรกจะถูกตั้งคำถามถึงความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไป แต่เขาก็พิสูจน์ตัวเองได้อย่างรวดเร็วด้วยผลงาน 8 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ 

ซึ่งไม่เพียงแต่จะยกระดับเกมรุกของทีมให้มีความหลากหลายขึ้น แต่เขายังกลายเป็นหัวใจสำคัญและที่พึ่งสูงสุดในแดนหน้าของทัพ "หงส์แดง" ในเวลานี้ไปเรียบร้อยแล้ว 

การเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังที่สุด - อเล็กซานเดอร์ อิซัค (ลิเวอร์พูล)  

ในทางตรงกันข้าม การเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังที่สุดคงหนีไม่พ้น อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่ย้ายจากนิวคาสเซิลมาร่วมถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยค่าตัวสถิติสโมสรถึง 125 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,300 ล้านบาท) ท่ามกลางความคาดหวังอันมหาศาลของเหล่า "เดอะ ค็อป" ที่ต้องการให้เขาเข้ามาเป็นเครื่องจักรสังหารประตูคนใหม่ 

ทว่าฟอร์มการเล่นของดาวยิงสวีเดน กลับสวนทางกับค่าตัวอย่างสิ้นเชิง โดยทำได้เพียง 2 ประตู เท่านั้นจากการลงเล่น 10 นัด ในลีก ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับศักยภาพและเม็ดเงินที่จ่ายไป 

 แมต์ชระทึกที่สุดแห่งปี

 หากพูดถึงแมตช์ที่ระทึกใจที่สุดของปี คงต้องยกให้เกมที่ ฟูแล่ม เปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คราเวน คอทเทจ โดยเกมนี้นับเป็นการดวลกันที่บ้าคลั่งและยิงประตูรวมกันถล่มทลายถึง 9 ลูก 

 สถานการณ์ในตอนแรกดูเหมือนจะเป็นงานง่ายของ แมนฯ ซิตี้ ที่บุกมานำห่างถึง 5-1 และเป็นนัดประวัติศาสตร์ที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ ซัดประตูที่ 100 ในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ แต่ทัพ ฟูแล่ม กลับไม่ยอมแพ้ โชว์ใจสู้ไล่กวดคืน 3 ประตูรวดจนจี้ติดที่ 4-5 ในช่วงท้ายเกม 

ทำให้แฟนบอลต้องลุ้นระทึกกันจนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนที่ทัพ“เรือใบสีฟ้า”จะรักษาสกอร์และบุกมาชนะไปได้อย่างหวุดหวิด 5-4 คว้าตำแหน่งแมตช์สุดระทึกไปครองอย่างไม่มีข้อกังขา  

ทั้งหมดนี้คือบทสรุปความมันส์ของ พรีเมียร์ลีก ในช่วงครึ่งซีซั่นแรก แต่ขึ้นชื่อว่าลีกอันดับหนึ่งของโลก อะไรก็เกิดขึ้นได้ในครึ่งปีหลังจากนี้ ต้องมาติดตามกันว่าใครจะยืนระยะได้จนสุดทาง และใครจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้ในบั้นปลาย!



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport