หลังจบเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 17 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่ง แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ด้วยสกอร์ 2-1
หมายความว่าทุกสโมสรลงสนามไปแล้ว 17 นัดเท่ากันยกเว้น ฟูแล่ม กับ ฟอเรสต์ ซึ่งมีคิวดวลกันที่กระท่อมน้อยในเกมมันเดย์ ไนท์เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
แม้จะยังไม่ถึงครึ่งทางดี แต่ก็พอจะอนุมานได้ว่า พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้บู๊กันมาได้เกือบครึ่งซีซั่นแล้ว และเราพอจะเห็นกันได้ว่าพ่อค้าแข้งคนไหนมีฟอร์มที่ดีหรือร้าย
อย่างไรก็ดี หากจะยึดตามข้อมูลของ WhoScored ซึ่งตัดเกรดนักเตะเป็นประจำทุกเกม นี่คือทีมยอดเยี่ยมของ พรีเมียร์ลีก จนถึงขณะนี้โดยมีข้อแม้ว่านักเตะที่ได้รับการพิจารณาจะต้องลงบู๊เป็นตัวจริงอย่างน้อย 11 นัดขึ้นไป
ขณะเดียวกัน ถือเป็นเรื่องน่าช็อกไม่น้อยที่ขุนพลทีม แอสตัน วิลล่า ซึ่งสร้างผลงานชนะรวดสิบนัดในทุกรายการไม่มีตัวแทนแทรกเข้ามาอยู่ในโผนี้ไม่เว้นแม้แต่สตาร์ฟอร์มฮอตอย่าง มอร์แกน โรเจอร์ส
- ผู้รักษาประตู : นิค โป๊ป (นิวคาสเซิ่ล)
ดาบิด ราย่า กับ โรเบิร์ต ซานเชซ กำลังแย่งกันคว้ารางวัลถุงมือทองคำเช่นเดียวกับ โรบิน โรฟส์ มือกาวทีม ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งเสียประตูน้อยที่สุดในสามอันดับแรก
หากแต่เมื่อวัดกันถึงผลงานรอบด้าน โป๊ป นำหน้าเป็นหมายเลขหนึ่งแม้อาจเป็นแค่ระยะนี้เท่านั้นเนื่องจากเขามีสิทธิ์เสียตำแหน่งในอนาคต
- แบ็คขวา : ดาเนี่ยล มูนญอซ (คริสตัล พาเลซ)
เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ กองหลัง อาร์เซน่อล น่าจะติดอยู่ในโผนี้ แต่สถิติบ่งชี้ว่า มูนญอซ เหนือกว่า
คลำเป้าเม็ดที่สามของซีซั่นนี้ได้ในเกมบุกไปพิชิต เบิร์นลีย์ 1-0 และถูกลือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจับตามองอย่างเงียบๆ
- เซ็นเตอร์แบ็ค : กาเบรียล (อาร์เซน่อล)
ปฏิเสธไม่ได้ว่า กาเบรียล สถาปนาตัวเองเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว
อย่างไรก็ดี ระยะนี้ทีม ปืนใหญ่ ต้องลงเล่นโดยไร้กองหลังตัวกลั่นที่มีผลงานยิงได้หนึ่งประตูและสองแอสซิสต์เนื่องจากบาดเจ็บ
- เซ็นเตอร์แบ็ค : มาร์กอส เซเนซี่ (บอร์นมัธ)
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ อาจเคลียร์ลูกอันตรายในซีซั่นนี้ได้มากกว่า แต่ดาวเตะอาร์เจนไตน์เข้าบล็อก ปะทะ และแย่งบอลได้ดีกว่า
นอกจากนี้ พ่อค้าแข้งวัย 28 ปีจัดไปแล้วสามแอสซิสต์จึงทำให้เขามีผลงานที่โดดเด่นอย่างแท้จริง
- แบ็คซ้าย : นิโก้ โอไรลีย์ (แมนฯ ซิตี้)
ตำแหน่งนี้มีตัวเลือกเพียงน้อยนิดไม่เหมือนกับแบ็คขวา
แต่จากผลงานหนึ่งประตูและสามแอสซิสต์ในฐานะแบ็คซ้ายทำให้เด็กปั้นของ เรือใบสีฟ้า ผงาดขึ้นมาโดยเชื่อกันว่าเขามีลุ้นติดทีมชาติ อังกฤษ ชุดสู้ศึก ฟุตบอลโลก 2026 ด้วย
- กองกลาง : เดแคลน ไรซ์ (อาร์เซน่อล)
หลังการย้ายมาของ มาร์ติน ซูบิเมนดี้ กองกลางทีมชาติ สเปน ส่งผลให้ ไรซ์ มีอิสระในการเติมเกมรุกมากขึ้น
เช็กบิลเม็ดสองของตัวเองในเกมลีกซีซั่นนี้ได้นัดบุกไปกำราบ เบิร์นลีย์ 2-0 ก่อนจัดแอสซิสต์ที่สามในเกมเฝ้าบ้านขย้ำ สเปอร์ส 4-1 สร้างชื่อเป็นกองกลางชั้นยอดของยุโรปได้อย่างเต็มตัวแล้ว
- กองกลาง :บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนฯ ยูไนเต็ด)
ไม่มีนักเตะคนไหนใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้จัดแอสซิสต์ได้มากกว่า แฟร์นันด์ส (7) อีกทั้งเขาสอยตาข่ายไปแล้ว 5 ประตู
อย่างไรก็ดี ผีแดง จำเป็นต้องหาวิธีรับมือให้ได้หลังกัปตันทีมคนเก่งล้มเจ็บในเกมออกไปพ่าย แอสตัน วิลล่า
- ปีกขวา : บูคาโย่ ซาก้า (อาร์เซน่อล)
ชนะการดวลกับ โมฮัมเหม็ด กูดุส ได้อย่างสบายในเกมดาร์บี้แมตช์นัดบู๊กับ สเปอร์ส ซึ่ง ซาก้า แสดงให้เห็นว่าปีกขวาเบอร์หนึ่งของ พรีเมียร์ลีก จะเป็นใครไปไม่ได้
แม้จะเริ่มต้นซีซั่นนี้ได้อย่างเชื่องช้า แต่ถึงขณะนี้ดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ กำลังเล่นได้อย่างเข้าฝัก และซัดประตูในเกมลีกไปแล้วสี่เม็ด
- หน้าต่ำ : ฟิล โฟเด้น (แมนฯ ซิตี้)
ถึงตอนนี้ โฟเด้น กระทุ้งประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ได้เจ็ดเม็ดแล้วหลังตะบันได้สองประตูในเกมบุกเฉือนชนะ ฟูแล่ม อย่างเร้าใจ 5-4
ด้วยเหตุนี้ขุนพลทีม เรือใบสีฟ้า จึงเหนือกว่า เอเบเรชี่ เอเซ่ รวมทั้ง โรเจอร์ส ซึ่งอยู่ในอันดับ 33 ของ WhoScored เนื่องจากสตาร์ทีม แอสตัน วิลล่า มีสถิติผ่านบอลที่เลวร้าย และแทบไม่มีส่วนกับเกมรับ
- ปีกซ้าย : เฌเรมี่ โดกู (แมนฯ ซิตี้)
โชว์ฟอร์มได้อย่างร้ายกาจในเกมเปิดบ้านทุบ ลิเวอร์พูล ยับเยิน 3-0
ไม่เพียงจะยิงได้หนึ่งประตู แต่ทำให้ทีมได้ลูกโทษด้วย อีกทั้งร่ายลีลาลากบอลหนีฝ่ายตรงข้ามได้เจ็ดราย รวมทั้งสร้างโอกาสได้สามหน
- หน้าเป้า : เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (แมนฯ ซิตี้)
ส่อแววซิวรางวัลรองเท้าทองคำได้อีกหนจากผลงาน 19 ประตูในเกม พรีเมียร์ลีก 17 นัด
กลับมาอยู่ในฟอร์มที่น่ายำเกรงอีกหน และอาจเป็นตัวแปรสำคัญในการพาทีมหักอก อาร์เซน่อล อีกปี