สเปอร์ส ก็ยังคงเป็น 'กุ๊กไก่' สำหรับ ลิเวอร์พูล เมื่อถูกบุกเชือดหวุดหวิด 2-1 ในเกมที่เจ้าถิ่นเหลือผู้เล่นตอนจบแค่ 9 คน
และต่อไปคือสิ่งที่ผู้ชมอย่างผมอยากจะบอก
1. เกมนี้เริ่มต้นด้วยการที่ต่างฝ่ายต่างระมัดระวัง เมื่อฝ่ายหนึ่งครองบอล อีกฝ่ายก็จะถอยลงไปปิดพื้นที่ในแดนตัวเองแน่นหนา เรียกว่าเล่นแบบเน้นผลการแข่งขันด้วยกันทั้งคู่
ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เจ้าบ้านครองบอล และหาจังหวะจบได้มากกว่าด้วยซ้ำ ขณะ 'หงส์แดง' ที่เล่นแบบไม่มีปีก เกมรุกดูไม่จัดจ้านสักเท่าไหร่
กระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้น
2. เมื่อ ซาวี ซีโมนส์ ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามแบบเสียค่าโง่ หลังจากไปยันใส่น่องของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แบบไม่มีเหตุผล
จังหวะนั้นไม่มีความจำเป็นต้องเล่นอันตรายแบบนั้นเลย เข้าใจว่าคงลืมตัว อันเกิดจากความมุ่งมั่นเต็มพิกัด ซี่งราคาที่ต้องจ่าย มันแพงเหลือเกิน
สเปอร์ส ที่ดูเหนือกว่านิดๆ จึงมีผู้เล่นน้อยกว่าทันที !!!
3. แม้จะได้เปรียบตัวผู้เล่น แต่เกมของ ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่เหนือกว่าเจ้าถิ่นมากนักในครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0
พอครึ่งหลัง อาร์เน่อ สล็อต จึงไม่รอช้า ฉกฉวยความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น ด้วยการส่งตัวรุกลงมาเพิ่มโดยพลัน
แบ็คขวาอย่าง คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ถูกถอดออก เพื่อให้กหน้าตัวเป้าอย่าง อเล็กซานเดอร์ อีซัค ลงมาคู่กับ อูโก้ เอกิติเก้ พลางถ่าง โฟลเรียน เวียร์ตซ์ ออกไปทางซ้าย
โดมินิค โซบอสไล ขยับออกมาเป็นแบ็คขวาที่ได้รับอนุญาตให้หุบเข้าไปทำเกมรุกอีกแรง
แล้ว 'หงส์แดง' ก็มาได้ประตูนำ
4. สเปอร์ส พลาดง่ายๆ อีกแล้วครับท่าน เสียประตูจากจังหวะที่ตัวเองครองบอลหน้ากรอบเขตโทษ คริสเตียน โรเมโร่ ดันเตะไปติดในจังหวะสาดยาวขึ้นหน้าซะอย่างนั้น
ทีมเยือนเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกรวดเร็วและเฉียบขาดดีนักแล ก่อนที่ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ จะไหลให้หัวหอกค่าตัว 125 ล้านปอนด์ ซัดไม่เหลือ
ถัดมาไม่นานก็ทิ้งห่างเป็น 2-0 เกมน่าจะจบแบบไม่มีปัญหาอะไร ลิเวอร์พูล ที่ตัวเยอะกว่าน่าจะประคองๆ แล้วรักษาสกอร์เอาไว้ได้
ทว่าผู้เล่น 10 ตัวของคลับไก่เล่นแบบไม่มีอะไรจะเสีย โหมบุกกระหน่ำพลางบอมบ์เข้าใส่จนตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1
แต่ คริสเตียน โรเมโร่ กลับคุมอารมณ์ไม่อยู่ แล้วไปแถมใส่คู่แข่งจนถูกตะเพิดออกไปอีกคน...ซะอย่างนั้น
เฮ่ออออ..อ..อ..อ !!!
5. บทสรุปของเกมนี้
สเปอร์ส ก็ยังคงเป็น สเปอร์ส หรือที่ฝรั่งแถวเมืองหลวงลูกหนังเรียกพวกเขาว่า...สเปอร์ซี่
ทั้ง 2 ใบแดง ได้มาแบบน่าเขกกบาลตัวเองยิ่งนัก
จังหวะที่เสียประตูแรกก็มาจากความผิดพลาดง่ายๆ ของตัวเอง มันไม่ได้เกิดจากการถูกคู่แข่งบุกกดดันอย่างหนักหน่วงสักหน่อย
ประตู 2-0 เหมือนจะมีการฟาวล์ในจังหวะโหม่งทำประตูของ อูโก้ เอกิติเก้ แต่ทั้งผู้ตัดสิน และ VAR ก็ไม่ว่าอะไร
ผู้ตัดสินอาจทำให้ผู้เล่นทีมตราไก่เสียอารมณ์จนระเบิดความเดือดดาลออกมา แต่สุดท้าย มันก็ต้องโทษตัวเองนั่นแหละ