ไร้ ซาลาห์, สถิติสวยเยือนสนามใหม่น้องไก่! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ส

ไร้ ซาลาห์, สถิติสวยเยือนสนามใหม่น้องไก่! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ส
หลังจาก 7 วันที่ไม่ได้ลงสนาม ตอนนี้ ลิเวอร์พูล เตรียมเดินทางไปยังลอนดอนเหนือ ในเกมพรีเมียร์ลีก เยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งกำลังพบกับความยากลำบากภายใต้การกุมบังเหียนของ โธมัส แฟร้งค์ วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคมนี้

สำหรับทัพ "หงส์แดง" เริ่มกลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นโดยไร้พ่าย 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการ และแน่นอนว่า อาร์เน่อ สล็อต แอนด์ โค. กำลังพยายามที่จะสร้างผลงานให้ดีขึ้นในแมตช์ปะทะ สเปอร์ส ที่สำคัญ ลิเวอร์พูล ต้องการคว้า 3 คะแนนอันล้ำค่าในเกมนอกบ้านให้ได้ ก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส  

 ก่อนแมตช์นี้จะเปิดฉากมีประเด็นที่น่าสนใจมากมาย ทั้งอนาคตของ แฟร้งค์, การไม่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของ "เดอะ เร้ดส์" และสถิติของทีมเยือนในการเล่นที่สนามท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เป็นต้น 

1. เกมแรกไร้ ซาลาห์ 

 โม ซาลาห์ เพิ่งเคลียร์ใจกับ อาร์เน่อ สล็อต เรียบร้อยแล้ว และนักเตะกลับมาลงสนามอีกครั้งในแมตช์ชนะ ไบรท์ตัน โดยผลงานของเขาโดดเด่นมากๆ แต่ตอนนี้นักเตะต้องเดินทางไปช่วย อียิปต์ ในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 

 ยังต้องรอดูกันต่อไปว่า "บังโม" จะลงเล่นเกมสุดท้ายให้กับ "หงส์แดง" ไปแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตาม โค้ชอาร์เน่อ ยืนกรานในช่วงก่อนเกมกับ สเปอร์ส ว่าความบาดหมางดังกล่าวได้ผ่านพ้นไปแล้ว หลังจากนักเตะกลับมามีส่วนร่วมกับทีมอีกครั้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 อย่างไรก็ตาม สาวก "เดอะ ค็อป" จะไม่เห็น ซาลาห์ ลงสนามนานสูงสุดราวหนึ่งเดือน โดยนัดชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 18 มกราคม หากทีมชาติอียิปต์ผ่านเข้าไปถึงรอบนั้น

 สำหรับตอนนี้เป็นหน้าที่ของแนวรุก ลิเวอร์พูล ที่ต้องแสดงให้เห็นว่ายังทำผลงนได้โดดเด่นแม้ไร้ ซาลาห์ โดยทั้ง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และ อเล็กซานเดอร์ อีซัค จำเป็นต้องก้าวขึ้นมารับบทบาทสำคัญให้ได้

2. ฟอร์ม สเปอร์ส คาดเดาไม่ได้ในยุค แฟร้งค์

 สเปอร์ส กับคำว่า คาดเดาไม่ได้ มักจะถูกพูดถึงควบคู่กันมาตลอดประวัติศาสตร์ และฤดูกาลนี้พวกเขาก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะฟอร์มการเล่นของพวกเขาหาความแน่นอนอะไรไม่ได้เลยจริงๆ 

 ตอนที่ แฟร้งค์ เข้ามากุมบังเหียนมีการคาดหวังว่า "ไก่เดือยทอง" มีความเป็นระบบมากขึ้น แต่สถานการณ์ตอนนี้พวกเขารั้งอันดับ 11 บนตารางพรีเมียร์ลีก และเพิ่งออกไปแพ้ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 0-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

 พวกเขาพ่ายแพ้ในเกมสำคัญในการสู้กับคู่แข่งโดยตรง หนึ่งในนั้นคือการออกไปโดน "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ถล่ม 4-1 และนั่นทำให้ แฟร้งค์ กำลังโดนแรงกดดันถาโถมอย่างหนัก จนถึงขนาดมีเสียงเรียกร้องให้ปลดเขาออกจากตำแหน่ง  

 อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ตำแหน่งของ แฟร้งค์ ยังไม่ถูกมองว่าตกอยู่ในความเสี่ยง แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนไป หาก ลูกทีมของกุนซืออาร์เน่อ สล็อต สามารถบุกมาจัดการ สเปอร์ส ถึงบ้านตัวเอง

3. สถิติของ ลิเวอร์พูล ที่สนามใหม่ของ สเปอร์ส

 นี่จะเป็นการไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ครั้งที่ 8 ของ ลิเวอร์พูล และเป็นครั้งที่ 7 ในเกมพรีเมียร์ลีก ซึ่งทัพ "หงส์แดง" มีทั้งช่วงเวลาที่ดีและไม่ดีปะปนกันไป

 การพบกันครั้งแรกในสนามแห่งนี้ถูกตัดสินด้วยประตูของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในเดือนมกราคม ปี 2020 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ พา ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์ลีก ก่อนที่ "หงส์แดง" จะบุกมาชนะ 3-1 ได้อีกครั้งในอีกหนึ่งปีถัดมา

 หลังจากนั้น "เดอะ เร้ดส์" เก็บผลเสมอ 2-2 และชัยชนะ 2-1 ตามลำดับ แต่การทำเข้าประตูตัวเองในช่วงวินาทีสุดท้ายของ โฌเอล มาติป ทำให้ ลิเวอร์พูล ซึ่งเหลือผู้เล่นเพียง 9 คน ต้องอกหักพ่าย 1-2 ในเดือนกันยายน ปี 2023

 ส่วนฤดูกาลที่ผ่านมา โค้ชอาร์เน่อ ซึ่งตอนนั้นกำลังนำทีมคว้าแชมป์ลีก สามารถบุกมาไล่ถล่ม สเปอร์ส 6-3 ขณะที่ก่อนหน้านั้นพวกเขาพลาดท่าพ่าย 0-1 ในเกมเลกแรกของรอบรองชนะเลิศ คาราบาว คัพ

 ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่การันตีได้แน่นอนสำหรับคู่นี้ก็คือมีประตูให้เห็นชัวร์!!

4. เอกิติเก้ ฟอร์มกำลังร้อนแรง

 อูโก้ เอกิติเก้ อาจถูกมองว่าเป็นนักเตะที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในเวลานี้ และเป็นแข้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดาผู้เล่นที่ย้ายเข้ามาเมื่อช่วงซัมเมอร์จนถึงตอนนี้

 กองหน้าชาวฝรั่งเศส ยิงไปแล้ว 7 ประตู จากการออกสตาร์ตเป็นตัวจริง 10 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติเทียบเท่ากับที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำได้ใน 10 เกมแรก หลังย้ายมาจาก โรม่า เมื่อปี 2017

 มีเพียง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (8 ประตู) เท่านั้นที่ทำได้มากกว่าเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงเวลาเดียวกัน ดังนั้นผลงานของ เอกิติเก้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฟอร์มของเขามีผลกระทบกับผลงานของ "หงส์แดง" จริงๆ 

 ขณะเดียวกันสำหรับฤดูกาล 2025/26 มีเพียง เออร์ลิง ฮาลันด์  สตาร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (17 ประตู) และ อีกอร์ ติอาโก้ หัวหอกฟอร์มแรง เบรนท์ฟอร์ด (11 ประตู) เท่านั้น ที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้มากกว่าเขา

5. ชัยชนะเพื่อลุ้นท็อปโฟร์

 เป้าหมายของ ลิเวอร์พูล ในแมตช์นี้ก็คือการเก็บสามคะแนนให้ได้ เพราะนั่นจะทำให้ทีมกลับมาอยู่ในจุดที่มีลุ้นอันดับท็อปโฟร์ หลังฟอร์มร่วงกราวรูดอย่างน่าใจหายในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา 

 ทัพ "หงส์แดง" มีสถิติค่อนข้างย่ำแย่โดยแพ้ 9 จาก 12 เกมในทุกรายการ อย่างไรก็ตามฟอร์มของพวกเขาค่อยๆ กลับมาเข้าที่เข้าทางโดยทีมไม่แพ้ใคร 5 เกมหลังสุดรวมทั้งการเก็บชัยชนะ 2 แมตช์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 ดังนั้นเกมเยือน สเปอร์ส เป้าหมายของ อาร์เน่อ แอนด์ โค. จึงต้องการชัยชนะ เพราะนอกจากจะนำทีมทำอันดับขึ้นไปลุ้นท็อปโฟร์แล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะทุกๆ คนด้วย 


  ✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄



ที่มาของภาพ : reuters
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport