โจทย์ใหญ่ของ ลิเวอร์พูล คือเปิดเกมโดยไม่เสียสมดุล

ชัยชนะ 1-0 เหนือ อินเตอร์ ก็มีองค์ประกอบของโชคเข้ามาเกี่ยวข้องไม่น้อย โดยเฉพาะจุดโทษช่วงท้ายเกมที่ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เรียกมาได้แบบค้านสายตา

อย่างไรก็ตาม การมองทุกอย่างในมุมนี้เพียงด้านเดียว ก็เท่ากับมองข้ามความจริงที่ว่า แม้ความสมบูรณ์แบบยังอยู่ไกล แต่สิ่งที่ อาร์เน่อ พยายามพยุงเรือลำนี้ให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤต มันได้ผลค่อนข้างชัดเจน

การยกระดับเกมรับที่ก่อนหน้านี้เสียไปถึง 10 ประตู จากการเจอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงไร้พ่าย 5 นัดล่าสุด

แม้ 5 นัดหลังสุดจะเสียไป 4 ประตู แต่ก็มีเหตุผลว่า ลิเวอร์พูล อาจโชคร้ายเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งเชิงโครงสร้างที่พวกเขาแสดงออกมา

ที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม ลิเวอร์พูล ปล่อยให้ เวสต์แฮม เจ้าถิ่นสร้างโอกาสจากโอเพ่นเพลย์เพียง 0.23 (xG) ขณะที่เกมกับ ซันเดอร์แลนด์ ตัวเลขนี้อยู่ที่ 0.24 

ลีดส์ ยูไนเต็ด สร้าง xG ได้เพียง 0.28  และ อินเตอร์ ก็ทำได้แค่ 0.37  

แน่นอนว่า ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้หยุด ซันเดอร์แลนด์ จากการทำประตูจากลูกแฉลบ หรือป้องกันไม่ให้ ลีดส์ ยิงได้จากลูกตั้งเตะและจุดโทษจนตีเสมอ 3-3 ได้สำเร็จ

แต่สำหรับ อาร์เน่อ อย่างน้อยมันก็เป็นหลักฐานให้ชี้ได้ว่า แนวโน้มกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่อนาคตของเขาเริ่มถูกตั้งคำถามอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม หากจะมีคำวิจารณ์สำคัญหลงเหลืออยู่ นั่นคือ ความเหนียวแน่นที่มากขึ้นกลับแลกมากับความเฉียบคมในเกมรุก

เกมกับ เวสต์แฮม และ ซันเดอร์แลนด์ ลิเวอร์พูล สร้าง xG จากโอเพ่นเพลย์ได้เพียงเล็กน้อยเหนือเลข 1 เท่านั้น (1.02 และ 1.11 ตามลำดับ)

แม้เกมเยือน เอลแลนด์ โร้ด จะทำได้ถึง 1.72 และยิงได้ 3 ประตู ส่วนเกมกับ อินเตอร์ มี xG 1.4 ที่มาจากโอเพ่นเพลย์ล้วน ๆ

ทั้งหมดนี้ชี้ชัดว่า อาร์เน่อ ยังมีงานต้องทำ หากเขาต้องการให้ ลิเวอร์พูล เป็นมากกว่าแค่ทีมที่เอาชนะยาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติขั้นต่ำของทีมที่หวังจบอันดับสูง ๆ ในลีก

ด้วยเหตุนี้ ฟอร์มเกมรุกนัดพบ ไบรท์ตัน จึงเป็นสัญญาณที่น่าพอใจอย่างยิ่ง 

ลิเวอร์พูล สร้าง xG จากโอเพ่นเพลย์ได้ถึง 1.54  โดยมีทั้ง อูโก เอกิติเก้ และ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ โดดเด่น 

แต่สิ่งนั้นก็มาพร้อมต้นทุนที่เสียไป เพราะ ไบรท์ตัน เองสร้าง xG ได้ถึง 1.9  จากโอเพ่นเพลย์ล้วน ๆ โดยไม่ต้องพึ่งลูกตั้งเตะหรือจุดโทษ และที่พวกเขายิงไม่ได้ก็เป็นเพียงเพราะจังหวะจบสกอร์ที่ย่ำแย่กันไปเอง

ประเด็นนี้สะท้อนถึงโจทย์ใหญ่ที่สุดของ อาร์เน่อ ต่อจากนี้ หลังจากผ่านพายุลูกหนักมาได้ 

คือเขาจำเป็นต้องเปิดเกมเพื่อดึงศักยภาพที่แท้จริงของทีมออกมา แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่อาจยอมให้ความมั่นคงที่เพิ่งสร้างขึ้นมาพังลงไปอีก

คำถามคือ การจัดการวิกฤตของ อาร์เน่อ จะไปไกลกว่าการหยุดเลือดได้หรือไม่

คำตอบของคำถามดังกล่าว จะเป็นตัวชี้ชะตาว่า ฤดูกาลนี้ของ ลิเวอร์พูล จะจบลงอย่างประสบความสำเร็จได้หรือเปล่า

และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญว่า ความมั่นคงในตำแหน่งผู้จัดการทีมที่เขาเพิ่งได้มาจากผลงานช่วงหลัง จะพัฒนาไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาวได้หรือไม่เช่นกัน

HOSSALONSO