เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
1. ย้อนกลับไปก่อนเปิดบ้านเจอ บอร์นมัธ
ผู้สื่อข่าวอย่าง ลอรี่ วิตเวลล์ แห่ง ดิ แอธเลติก รายงานว่า รูเบน อโมริม อาจปรับระบบการเล่นของ แมนยูไนเต็ด จาก 3-4-2-1 เป็น 4-3-3 เพื่อรองรับการขาดหายไปของ 3 นักเตะกาฬทวีปอย่าง นุสแซร์ มัซราวี, ไบรอัน เอ็มเบอโม่ และอาหมัด
ผมเห็นข่าวแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ เพราะกุนซือวัย 40 ของปีศาจแดงผู้นี้ทั้งยึดมั่นและถือมั่นในปรัชญาลูกหนังของตัวเองแบบสุดโต่ง
2. อย่างไรก็ตาม
ไม่มีไฟ ย่อมไม่มีฟัน แถมข่าวหลุดออกมาจากสื่อประเภท 'วงใน' ที่มีความน่าเชื่อถือสูงอีกตะหาก
การยอมปรับระบบการเล่นน่าจะเกิดจากความจำเป็นตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซะมากกว่า
เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแบบเฉพาะกิจ
3. ต่อเมื่อรายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงปีศาจแดงถูกประกาศออกมาก่อนเกม
ปรากฏว่า รูเบน อโมริม ยังยึดสูตร 'หลังสาม' เหมือนเดิม ไม่ได้ปรับไปเป็นสูตร 4-3-3 อย่างที่มีคนเคาะหมาให้กะลาดีใจ
ทว่าในระหว่างเกม (ครึ่งแรก) คุณจะพบว่าเวลาเล่นเกมรุก ผู้เล่นพันธุ์อสูรจะเปลี่ยนเชพ (shape) เป็น 4-4-2 ด้วยการให้ เลนี่ โยโร่ ถ่างออกมาเป็นแบ็คขวา สนับสนุน อาหมัด ในตำแหน่งปีกขวา ขณะที่ 'โก๋เอ็ม' ขยับขึ้นไปเป็นกองหน้าคู่กับ มาเตอุส คุนญ่า
ส่วน เมสัน เมาท์ ยังอยู่ตรงกลางเยื้องๆ ไปทางด้านซ้ายเล็กน้อย เพื่อที่จะไม่ปิดทางการขึ้นมาบุกของ 'คุณโล่ต์'
ต่อเมื่อเล่นเกมรับ เชพจะกลับมาเป็น 5-2-2-1 เหมือนเดิม
4.กระทั่ง แมนยูไนเต็ด เพลี่ยงพล้ำ แล้วถูกผู้มาเยือนยิงแซงเป็น 3-2
ผู้จัดการทีมชาวขนมฝอยทองก็ส่งหัวหอกอย่าง เบนยามิน เชชโก้ ลงมาแทน เมสัน เมาท์ และถอด เลนี่ โยโร่ ออก โดยให้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงมาแทน
ดิโอโก้ ดาโลต์ จึงโยกข้ามฟากจากซ้ายไปอยู่ทางขวา แล้วถ่าง ลุค ชอว์ ออกไปสวมบทแบ็คซ้าย และกลายเป็นระบบ 4-4-2 อย่างชัดเจน
แต่เวลาตั้งรับ 'แบ็คขวา' จะหุบเข้ามาเป็นเซ็นเตอร์ฯ ขณะที่ปีก 2 ข้างจะถอยต่ำลงมาเป็นแบ็คเหมือนมีกองหลัง 5 ตัวเหมือนเดิม
5. การปรับระบบเป็น 4-4-2 ในระหว่างเกมช่วยให้เกมรุกของปีศาจแดงดุดันขึ้น แถมกะซวกได้ถึง 4 ดอก จากโอกาสทำประตูประมาณ 25 ครั้ง
ปัญหาคือเกมรับยังหลุดลุ่ยเหมือนเดิม และเสียถึง 4 ประตู ทั้งๆ ที่มีผู้เล่นประเภทกองหลังเต็มไปหมด
เกมต่อไป แมนยูไนเต็ด จะยกพลไปเยือน แอสตัน วิลล่า ที่กำลังร้อนแรงดุจไฟบรรลัยกัลป์ โดยที่จะปราศจาก 3 ตัวหลักที่ไปรับใช้ชาติในศึก แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ บวก กาเซมิโร่ ที่ติดโทษแบน
หากอยากให้เกมตรงกลางหนักแน่นขึ้น เพื่อเบรคเกมรุกคู่แข่งไม่ให้ทะลุมาถึงแผงหลังอย่างรวดเร็วเหมือนเกมล่าสุด
บางที 4-4-2 แบบไดมอนด์เหมือนบางทีมที่สีแดงๆ เหมือนกันอาจเป็นคำตอบที่ถูกต้องก็เป็นได้
ตัวอย่างแสดงให้เห็นอยู่ทนโท่ว่าสูตรนี้ช่วยให้เกมตรงกลางของพวกพรี่ๆ เขามีความหนักแน่นมากยิ่งขึ้น โดยสามารถชะลอเกมรุกของคู่ต่อสู้ และแบ่งเบาภาระให้แผงหลังได้จริง
อนึ่ง นี่แหละเพื่อนกันของจริง
เมื่อไม่มี 'พี่เกษม' ก็ส่งลงมาเลยทั้ง มานูเอล อูการ์เต้ และค๊อบบี้ เมนู ขณะที่กัปตันหนวด และ 'เสี่ยหนู' ก็ยังอยู่ช่วยตรงกลาง
ข้างบนให้ดาวเตะแซมบ้าเล่นกับ เบนยามิน เชชโก้ หรือจะเป็น 'จารย์ดู๋ เซิร์คซี่ ก็ได้ ส่วนเกมรุกริมเส้นก็ให้เป็นหน้าที่ของฟูลแบ็ค 2 ข้างไป
เด็กผีว่าไงครับ ???