จอห์น เทอร์รี่ อดีตกัปตันทีม เชลซี เผยความในใจสุดสะเทือนผ่านพอดแคสต์ ยอมรับเคยคิดฆ่าตัวตายหลังเป็นคนยิงจุดโทษพลาดในนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2008 ที่พ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนย้ำแผลดังกล่าวยังตามหลอกหลอนจนถึงวันนี้ แม้ภายหลังจะได้ชูถ้วยหูใหญ่ในปี 2012 ก็ตาม
จอห์น เทอร์รี่ อดีตกัปตันทีม เชลซี เผยถึงอดีตนัดชิงชนะเลิศถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2008 เกมแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าเกือบทำให้เขาจบชีวิตตัวเองหลังยิงลูกโทษพลาดจนเป็นต้นเหตุทำให้ทีมปราชัย
เทอร์รี่ อดีตกองหลังทีมชาติ อังกฤษ เผยเบื้องลึกผ่านพอดแคสต์ว่าเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตายเนื่องจากเป็นต้นเหตุทำให้ทีมแพ้ ผีแดง ในช่วงดวลลูกโทษหลังจากเกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1
สำหรับเกมดังกล่าวซึ่งฟาดแข้งกันที่ มอสโกว์ แมนฯ ยูไนเต็ด นำหน้าก่อนในนาทีที่ 26 จากประตูของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก่อนที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะตีเสมอให้ สิงห์บลูส์ ได้ในนาทีที่ 45
จากนั้นในการดวลลูกโทษตัดสินหลังจากไม่อาจหาทีมชนะได้ในเวลา 120 นาที เศรษฐีลอนดอนในยุคของ อาฟราม แกรนท์ มีโอกาสกำชัยเนื่องจาก โรนัลโด้ ยิงพลาดกับการเป็นเพชฌฆาตรายที่สามของ ผีแดง แต่ เทอร์รี่ ซึ่งรับหน้าที่ยิงลูกโทษคนสุดท้ายลื่นล้มจนสับไกพลาดส่งผลให้ต้องมีการดวลกันแบบซัดเด้นเดธก่อนที่ นิโกล่าส์ อเนลก้า จะพลาดเช่นกัน และทำให้ ผีแดง ได้ชูโทรฟี่
จากความพ่ายแพ้ในเกมดังกล่าว เจที เปิดใจว่า "หลังเกม เรากลับไปที่โรงแรม และผมพักอยู่ชั้น 25 ผมมองไปนอกหน้าต่าง และนึกในใจว่า "ทำไม? ทำไม? สิ่งต่างๆอยู่ในหัวของคุณตลอดเวลา"
"จากนั้นเพื่อนๆก็เข้ามาพาผมลงไปข้างล่าง หากไม่เป็นอย่างนั้น อะไรจะเกิดขึ้นในนาทีนั้นคุณไม่มีทางรู้"
"ทุกวันนี้มันยังอยู่ในหัวของผม แม้แน่นอนว่าเวลาทำให้มันเบาบางลง แต่มันยังฝังอยู่ในหัวของคุณต่อให้ผมจะรีไทร์ไปแล้วก็ตาม"
"บางคืนผมตื่นขึ้นมากลางดึกและยังนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่คิดว่ามันจะหายไปอย่างถาวร"
"เมื่อคุณพลาดลูกโทษที่มอสโกว์ คุณจะพบอย่างรวดเร็วว่าใครเป็นเพื่อนของคุณ ใครแคร์คุณ และใครดูแลคุณ"
"เรย์ (วิลกิ้นส์) เป็นคนแรกที่โทรศัพท์มาหาผมหลังเกมเพื่อทำให้แน่ใจว่าผมโอเค และมีอีกสองสามคน"
"ในตอนนั้นมันทำให้คุณตระหนักได้ว่าใครคือเพื่อนในวงการฟุตบอลของคุณ เรย์ ยอดเยี่ยมมาก และไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เขาทำแบบนี้"
อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้ว เทอร์รี่ ได้เหรียญแชมป์หูใหญ่ในซีซั่น 2011/12 ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ โดย เชลซี ซิวชัยด้วยการดวลลูกโทษตัดสินเช่นกันเหนือ บาเยิร์น มิวนิค หลังเสมอกัน 1-1 ในเวลา 120 นาที แต่ เจที ไม่ได้ลงเล่นหลังได้ใบแดงในรอบตัดเชือกนัดสองที่บุกไปเสมอกับ บาร์เซโลน่า 2-2 ทะลุเข้าชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 3-2