อาร์เซน่อล นำโด่งเก็บ 18 แต้มเต็มการันตีเข้ารอบ ส่วนแมนฯ ซิตี้ยังแกร่งแม้เกมรับมีจุดอ่อน ขณะที่ ลิเวอร์พูล–สเปอร์ส–นิวคาสเซิล–เชลซี ต้องลุ้นหนักอีกสองนัดสุดท้ายเพื่อติดท็อป 8 เข้ารอบอัตโนมัติในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
หลังผ่านการลงสนามครบ 6 นัดในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบลีกเฟส ผลงานของ 6 สโมสรจากพรีเมียร์ลีกสะท้อนภาพการแข่งขันที่เข้มข้นเป็นพิเศษ โดยมีเพียง อาร์เซน่อล ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมเก็บชัยชนะ 100% การันตีตั๋วเพลย์ออฟไปแล้ว ขณะที่อีก 5 ทีมยังต้องลุ้นต่อในสองเกมท้ายเพื่อแย่งพื้นที่ Top 8 เข้ารอบแบบอัตโนมัติ
อาร์เซน่อล
ภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า “ปืนใหญ่” ทำผลงานได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดในรอบลีกเฟส หลังเก็บชัยชนะได้ทั้ง 6 นัด มี 18 แต้มเต็ม นำเป็นจ่าฝูงของรายการ
เกมรุกยิงไป 17 ประตู จาก 6 นัด ขณะที่เกมรับเสียเพียงลูกเดียว แสดงถึงความสมดุลของทีมอย่างเด่นชัด พร้อมการันตีไม่หลุด 16 อันดับแรก ได้ตั๋วเพลย์ออฟแน่ ๆ แล้ว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
“เรือใบสีฟ้า” ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงทำผลงานอยู่ในระดับสูง แม้ความคงเส้นคงวาจะลดลงจากปีก่อน โดยชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 จาก 6 นัด
ซิตี้ทำไป 12 ประตู แต่เสียถึง 6 ประตู ซึ่งถือว่ามากกว่ามาตรฐานเดิม โดยเฉพาะช่วงที่ไม่มี โรดรี้ คุมจังหวะในแดนกลาง แม้กระนั้นก็ยังอยู่ในเส้นทางเข้ารอบแบบสบายตัว
ลิเวอร์พูล
ลูกทีมของ อาร์เน่อ สล็อต เก็บได้ 12 คะแนน จากผลงานชนะ 4 แพ้ 2 แม้ภาพรวมจะยังไม่ดีเท่าที่คาดหวัง แต่เกมรุกยังผลิตสกอร์ต่อเนื่อง ยิงไป 11 ประตู
ปัญหาคือเกมรับที่เสียถึง 8 ประตู ทำให้ “หงส์แดง” รั้งอันดับ 9 มีแต้มเท่ากับหลายทีมในโซนเข้ารอบ ทำให้สองเกมสุดท้ายมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลุ้นติด Top 8
ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์
ทีมของ โทมัส แฟร้งค์ เริ่มต้นยุโรปได้น่าประทับใจ เก็บได้ 11 แต้ม จากการชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 โดยเฉพาะฟอร์มในบ้านที่ทำได้ดีเยี่ยม คว้า 9 แต้มเต็มจาก 3 นัด
ปัญหาคือผลงานเกมเยือนที่ยังไม่นิ่ง โดยเก็บได้เพียง 2 คะแนน ทำให้สเปอร์สรั้งอันดับ 11 ตามหลังโซนเข้ารอบเพียงแต้มเดียวเท่านั้น
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว “สาลิกาดง” เก็บไป 10 คะแนน จาก 3 ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 2 แม้ประสบการณ์ในเวทียุโรปยังน้อย แต่ยังคงมีลุ้นเข้ารอบอัตโนมัติ
ปัจจุบันรั้งอันดับ 12 ห่างจากพื้นที่ Top 8 เพียง 2 แต้ม แต่เกมสุดท้ายต้องออกไปเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งถือเป็นงานหนักที่สุดของทีม
เชลซี
“สิงห์บลูส์” ของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า มี 10 คะแนน เท่ากับนิวคาสเซิล จากผลงานชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 2 แต่ปัญหาหลักคือความไม่คงเส้นคงวาและฟอร์มเกมเยือนที่ย่ำแย่
เชลซีเก็บได้เพียง 1 แต้มจาก 3 เกมเยือน เนื่องจากการโรเตชันที่ไม่ลงตัว แม้กระนั้นยังมีลุ้นเข้ารอบ เพราะตามหลังโซนอัตโนมัติเพียง 2 คะแนนเท่านั้น