สิ่งที่ อาร์เน่อ สล็อต ต้องทำ แต่ยังทำไม่ได้

สิ่งที่ อาร์เน่อ สล็อต ต้องทำ แต่ยังทำไม่ได้
เกมเสมอ ซันเดอร์แลนด์ คือหนึ่งในความรู้สึกนั้น มันไม่ได้สะท้อนเพียงผลการแข่งขัน แต่สะท้อนความจริงบางอย่างที่ ลิเวอร์พูล ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป นั่นคือความจริงที่ว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่กลับมา ยังไม่ใกล้เคียง และยังไม่มีอะไรใด ๆ ว่าทีมนี้กำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ควรจะเป็น

สถิติที่สวยงาม แต่เนื้อหาภายในกลวงเปล่า ตัวเลขคือภาพลวงตา ลิเวอร์พูล ยิง 23 ครั้ง xG 1.46 ครองเกมเหนือกว่า ทำเกมบุกตั้งแต่ต้นจนจบ

แต่เมื่อแหวกดูเนื้อใน สิ่งที่พบกลับทำให้ภาพรวมดูน่ากังวลกว่าเดิม ลิเวอร์พูล ยิงเข้ากรอบ 4 ครั้ง ซันเดอร์แลนด์ ยิงเข้ากรอบ 6 ครั้ง

ซันเดอร์แลนด์ ได้โอกาสทองมากกว่า และเกือบชนะในช่วงท้าย หากไม่ใช่การสกัดบนเส้นของกองหน้าตัวสำรอง เฟเดริโก้ เคียซ่า

สถิติเหล่านี้คือสัญญาณที่ใหญ่กว่าคำว่า "โชคไม่ดี" เพราะมันสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าใครยิงมากกว่า ไม่ได้หมายความว่าใครควรชนะ

น่ากังวลกว่าคือ รูปแบบเดิมที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ คู่แข่งมีโอกาสคุณภาพสูงกว่า

ลิเวอร์พูล สร้าง xG จากการสาดยิงจากไกลโดยหวังว่าสักลูกจะมุดเข้า

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ฟุตบอลของทีมที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลสร้างโครงสร้างใหม่ แต่มันคือฟุตบอลของทีมที่กำลังหลงทาง(ยังหาไม่เจอ)

ลิเวอร์พูล ตอนนี้คือทีมที่ช้า และไม่กล้าเสี่ยง

สิ่งที่สะท้อนชัดที่สุดไม่ใช่สกอร์ แต่คือรูปแบบการเล่น

ปัญหาหลักของ ลิเวอร์พูล คือการส่งบอลช้าไปมาด้านหลังโดยไม่มีแนวคิดในการสร้างเกมรุกที่ชัดเจน

ลิเวอร์พูล ไม่ได้เคลื่อนบอลเร็วพอจึงไม่สามารถทำลายระเบียบเกมรับของ ซันเดอร์แลนด์ ได้ 

การขาดความเร็วในการส่งบอลนี้เองที่นำไปสู่การขาดความคิดสร้างสรรค์

แท็กติกที่ ซันเดอร์แลนด์ ใช้ในการบีบพื้นที่/เข้าถึงตัวอย่างรวดเร็ว (close him down) และรักษาความเป็นระเบียบ ทำให้ ลิเวอร์พูล ติดอยู่ในสถานการณ์ที่เล่นได้เชื่องช้า 

คล้ายกับการที่ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถหากุญแจหรือสัญญาณที่จะใช้ในการเร่งเกมหรือบีบกดดันเพื่อทำลายการตั้งรับของคู่แข่งได้เลย

...

นี่คือทีมที่กำลังถูกความกลัวครอบงำ

กลัวเสียบอล

กลัวโดนสวน

กลัวความผิดพลาด

ผลลัพธ์คือฟุตบอลที่ไม่สามารถเจาะ low block ได้ ไม่สามารถสร้างสรรค์ได้ และไม่มีจังหวะที่ทำให้คู่แข่งกังวล

อาร์เน่อ เองถึงกับยอมรับว่า "ทีมที่มาเล่นที่ แอนฟิลด์ ตอนนี้เชื่อว่าพวกเขามีโอกาสได้ผลการแข่งขัน"

"ครึ่งหลังมีทีมเดียวที่ครองบอล แต่ถ้าพวกเขาได้ฟรีคิกหนึ่งครั้ง พวกเขาก็สามารถโยนบอลยาวเข้ามาในแดนเรา นั่นคือสิ่งที่อันตรายของพวกเขา"

"พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าอันตรายจากลูกเซ็ตพีซ แต่ข่าวดีคือเราไม่เสียประตูจากลูกตั้งเตะ"

"ผลเสมอคืออย่างน้อยที่สุดที่เราควรได้"

นี่คือคำสารภาพที่หนักกว่าทุกคำวิจารณ์จากภายนอก

แล้ว ซาลาห์ ยังเป็นคำตอบหรือไม่? และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กับ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ลิเวอร์พูล ควรใช้พวกเขาอย่างไร?

การถูกดร็อปสองนัดติดของ โม ซาลาห์ คือเรื่องใหญ่ในห้องแต่งตัว 

และคือบททดสอบที่บอกเราว่าระบบใหม่ของ อาร์เน่อ พร้อมหรือยัง? คำตอบคือ "ยัง"

อิซัค ถูกโดดเดี่ยวจนแทบไม่แตะบอล

โคดี้ กัคโป ถูก นอร์ดี มูกีเอเล่ ตามปิดจนหายทั้งเกม

สามกองกลาง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์-ไรอัน กราเฟนแบร์ก-โดมินิค โซโบซไล ครองเกมได้ แต่ไม่สามารถเจาะพื้นที่อันตรายได้เลย

มีเพียง เวียร์ตซ์ ที่ทำให้เกมดูมีประกายตอนครึ่งหลัง แต่เขาไม่สามารถแบกความคิดสร้างสรรค์ของทั้งทีมคนเดียวได้ โดยเฉพาะเมื่อทีมยังไม่รู้ว่าจะสร้างเกมให้เขา+อิซัค ทำงานร่วมกันอย่างไร

ในเวลาเดียวกัน นักเตะเดิมอย่าง แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็ตกฟอร์มจนกลายเป็นจุดอ่อน เล่นช้า ถูกแซะจนเสียประตู และไม่สามารถควบคุมจังหวะเกมได้

นี่ไม่ใช่เรื่องของเลือกใครลง แต่คือคำถามระดับโครงสร้าง

ลิเวอร์พูล มีแผนจริงหรือไม่ว่าจะใช้ทีมชุดนี้อย่างไร?

ทีมใหม่ที่ไม่เคยเป็นทีม และเงาที่กดทับผู้จัดการทีม

ซันเดอร์แลนด์ เองก็ซื้อนักเตะจำนวนมากเช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์

แต่พวกเขากลายเป็นทีมที่ดูเป็นระบบระเบียบกว่า แข็งแกร่งกว่า และรู้ว่าตัวเองควรเล่นอย่างไร

ขณะที่ ลิเวอร์พูล กลับดูเหมือนคนแปลกหน้า 11 คนที่ถูกจับมารวมกันในราคาที่แพงมาก

นี่คือสิ่งที่กดทับ อาร์เน่อ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หาก ริชาร์ด ฮิวจ์ส และไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ มั่นใจว่าแผนเสริมทัพของพวกเขาควรให้ผลลัพธ์ดีกว่าที่เห็นอยู่ตอนนี้ แรงกดดันย่อมถูกส่งตรงไปยังเฮดโค้ชทันที 

เพราะมันหมายความว่า อาร์เน่อ อาจไม่ได้ดึงศักยภาพสูงสุดจากขุมกำลังที่มี รวมถึงผู้เล่นที่สโมสรลงทุนดึงเข้ามาเอง

ความรู้สึกเช่นนี้อาจเป็นอีกเหตุผลสำคัญว่าทำไมสโมสรยังไม่ขยับเรื่องสัญญาใหม่ ทั้งที่เขากำลังจะเข้าสู่ช่วง 18 เดือนสุดท้ายของสัญญาแล้ว

...

ลิเวอร์พูล ควรชนะหรือไม่?

อาร์เน่อ ตอบเองว่า "ผลเสมอคืออย่างน้อยที่สุดที่เราควรได้"

แปลว่านี่คือเกมที่ไม่เหนือกว่าจนสมควรชนะ และนั่นคือความจริงที่ต้องกล้ายอมรับ

เป้าหมายเดียวที่เหลืออยู่คือติดท็อปโฟร์

นั่นคือทั้งหมด

นั่นคือความเป็นจริง

นั่นคือระดับที่ทีมนี้ทำได้ในตอนนี้

แต่ข่าวดีก็คือคู่แข่งรอบด้านกำลังสะดุดกันถ้วนหน้า ทีมอื่น ๆ ไม่สม่ำเสมอ ขนาด เชลซี มีขึ้นลงเหมือนหัวใจคนอกหัก

ชัยชนะ 3–4 นัดติดสามารถพาทีมกลับสู่พื้นที่ UCL ได้

ขุมกำลังชุดนี้ควรทำได้ดีกว่านี้มาก แต่พัฒนาการที่เราเฝ้ารอ มันยังมาไม่ถึง และไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร

แอนฟิลด์ ในยุคที่ควรน่าเกรงขามที่สุดกลับเริ่มกลายเป็นสนามที่คู่แข่งรู้สึกว่า ถ้าตั้งรับดี ๆ เดี๋ยวก็มีโอกาสยิง และบางครั้งยังมีโอกาสชนะด้วยซ้ำ

เช่นเดียวกับ ซันเดอร์แลนด์ ที่พลาดประวัติศาสตร์ไปเพียงเส้นผมเท่านั้น

สิ่งที่เกิดขึ้นบอกเราหลายอย่าง แต่ไม่มีข้อไหนน่ากังวลเท่าความจริงข้อเดียวนี้

ลิเวอร์พูล กำลังเล่นฟุตบอลแบบที่ไม่สามารถพาไปสู่อนาคตได้

ไม่เร็ว ไม่กล้าเสี่ยง ไม่สร้างสรรค์ ไม่เป็นทีม และไม่เหมือนสโมสรที่ตั้งเป้าจะกลับไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก

ที่น่าห่วงคือ เรายังไม่เห็นสัญญาณว่ามันกำลังจะดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้เลย




ที่มาของภาพ : getty image
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport