ซีดาน ก็ได้, คล็อปป์ ก็ดี! 5 กุนซือมีลุ้นคุม ลิเวอร์พูล ชั่วคราว

การแพ้ 9 เกมจาก 12 แมตช์ล่าสุดในทุกรายการ ทำให้ "หงส์แดง" กำลังประสบกับช่วงฟอร์มย่ำแย่สุดขีดนับตั้งแต่ต้นทวรรษ 1950 โดยฤดูกาล 2025/26 อาจกลายเป็นสถานการณ์ที่ยากจะกอบกู้ได้ หากเหตุการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป

ลิเวอร์พูลอาจต้องรอและอดทนสำหรับการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนต่อไป หากพวกเขาตัดสินใจปลด อาร์เน่อ ออกจากตำแหน่ง โดยหนึ่งในตัวเลือกหลักก็คือ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ แต่เขามีภารกิจคุมทีมชาติเยอรมนีลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 

ส่วนกรณีของ ชาบี อลอนโซ่ อาจพร้อมรับงานใหม่เร็วๆ นี้ หลังมีรายงานว่าเขาไม่ลงรอยกับนักเตะคีย์แมนของ เรอัล มาดริด ดังนั้น "คุณชาย" อาจจะอยู่เป็นนายหัว "ราชันชุดขาว" ได้ไม่นานก็ได้  

ด้วยปัจจัยเรื่องข้อจำกัดดังกล่าว มีการประเมิน 5 ตัวเลือกที่มีความเป็นไปได้สำหรับ ลิเวอร์พูล ในการแต่งตั้งให้เข้ามารับงานผู้จัดการทีมชั่วคราวสำหรับช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้

1. เจอร์เก้น คล็อปป์ 

การอำลาทีมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของ คล็อปป์ หลังจบฤดูกาล 2023/24 ดูเหมือนเป็นการปิดฉากอย่างงดงามของเขากับสโมสร 

ดังนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับมากุมบังเหียน "หงส์แดง" อีกครั้ง จนกระทั่ง คล็อปป์ แสดงท่าทีแปลกๆ ว่ายอมรับแนวคิดคุมทีมชั่วคราว ตอนที่ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของสตีเว่น บาร์ตเล็ต

แม้ความสัมพันธ์ระหว่าง ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ซีอีโอฝ่ายฟุตจบอลของ "เอฟเอสจี" กับ กุนซือชาวเยอรมันค่อนข้างจะตึงเครียด แต่ก็อาจไม่ถึงขั้นทำให้ดีลล่ม

สำหรับ คล็อปป์ อาจจะมีพลังกลับมาในช่วงหลัง แต่สาวก "เดอะ ค็อป" ยังมองไม่เห็นว่าเขาจะกลับมาคุมทีมอีกครั้งแบบยาวๆ เหมือนที่เคยทำสมัย่กอน 

ดังนั้นการช่วยเหลือสโมสรที่เขารักในระยะสั้นอาจมีความเป็นไปได้ เพราะ คล็อปป์ ดูเหมือนกำลังรองานคุมทีมชาติเยอรมนี ฉะนั้นไม่แน่ว่าเขาอาจสลับตำแหน่งกับ นาเกิลส์มันน์ ในช่วงเดือนกรกฎาคมปีหน้าก็ได้ 

2. สตีเว่น เจอร์ราร์ด

ในฐานะตำนานกัปตันทีมลิเวอร์พูล แน่นอนว่าชื่อของ เจอร์ราร์ด ยังคงอยู่ในหัวใจแฟนหงส์แดงทุกคน และหากได้เขาเข้ามารักษาการณ์คุมทีมชั่วคราว นั่นคงทำให้บรรยากาศในสโมสรคึกคักสุดๆ 

ด้วยเส้นทางอาชีพในงานกุนซือของ "สตีวี่จี" เคยมีช่วงเวลาล้มเหลวกับ แอสตัน วิลล่า ตามด้วยการคุม อัล เอตติฟาค ในซาอุดีอาระเบียที่ถือว่าน่าผิดหวัง โอกาสที่เขาจะได้งานในฝันที่ แอนฟิลด์ ดูเหมือนจะลดลงอย่างมาก

พูดกันแบบไม่เกรงใจก็คือ เจอร์ราร์ด ดูเหมือนไม่มีคุณสมบัติพอสำหรับงานแบบนี้ แต่ถ้าเป็นการแต่งตั้งชั่วคราวเพื่อสร้างบรรยากาศในทีมล่ะ ? อย่างน้อยที่สุด "พี่เจิด" ก็อาจช่วยยกระดับขวัญกำลังใจในห้องแต่งตัว ลิเวอร์พูล ที่ดูเหมือนจะแตกสลายได้

หาก เจอร์ราร์ด นำทีมสตาฟฟ์โค้ชที่เฉียบแหลมมาช่วยจัดการงานด้านแท็กติกอย่างละเอียดเหมือนที่เคยทำตอนอยู่กับ เรนเจอร์ส ก็อาจไม่ใช่ไอเดียที่แย่ที่จะมีเขายืมคุมทีมข้างสนามก็ได้ 

3. ติอาโก้ อัลกันทาร่า

หลายคนอาจคิดว่ามันจะเป็นไปได้เหรอที่ ติอาโก้ จะคุม ลิเวอร์พูล แต่อย่าลืมว่าตอนนี้เขาทำงานเป็นผู้ช่วยของ ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ที่สโมสรบาร์เซโลน่า 

ติอาโก้ แทบไม่มีประสบการณ์การคุมทีมเลย เขาอายุเท่ากับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และเพิ่งเลิกเล่นฟุตบอลไปเมื่อไม่นานมานี้ นี่ถือเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมไอเดียนี้น่าจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดี

อย่างไรก็ตาม อดีตห้องเครื่องทีมชาติสเปน มีเสน่ห์เฉพาะตัว แม้จะไม่มีข้อมูลวิเคราะห์จากหลักฐานใดๆ  แต่เป็นเพียงความรู้สึกลึกๆ ว่า ติอาโก้ อาจกลายเป็นโค้ชหนุ่มดาวรุ่งคนต่อไปของยุโรปก็ได้

มิเกล อาร์เตต้า, ชาบี เอร์นานเดซ, เชส ฟาเบรกาส, ชาบี อลอนโซ่, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และอีกหลายๆ คน พวกเขาเหล่านี้เป็นอดีตนักเตะ บาร์ซ่า ที่มีชื่อเสียงเรื่องการอ่านเกม ซึ่งนั่นคือพื้นฐานที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการกลายเป็นโค้ชชั้นยอด

4. ร็อบ เพจ

แม้จะมีรายชื่อที่น่าสนใจหลายคน แต่ชื่ออีกรายอาจจะโนเนมไปหน่อย แต่ประสบการณ์เหลือล้นนั่นก็คือ ร็อบ เพจ เพราะผ่านงานทั้งระดับทีมชาติ, สโมสร และทีมชุดเยาวชน !!

เพจ อาจจะไม่ใช่กุนซือสมองเพชร แต่ก็มีเหตุผลที่สมควรในการหันไปหาโค้ช ลิเวอร์พูล ชุดยู-21 ในช่วงที่ทีมชุดใหญ่เกิดวิกฤติในเวลานี้ 

ประวัติของ เพจ โดดเด่นในฐานะเฮดโค้ชที่พาทีมชาติเวลส์ไปฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี แต่ฟอร์มของทีมใน กาตาร์ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และผลงานในช่วงท้ายของการคุมทีมก็ย่ำแย่

แฟนหงส์อาจตั้งข้อสงสัยว่า อดีตกองหลังวัย 51 ปีจะมีความสามารถด้านแท็กติกเพียงพอสำหรับงานใหญ่แบบนี้ไหม แต่บางครั้งสถานการณ์ก็จำเป็นต้องพึ่งใครก็ตามที่อยู่ใกล้มือ คนที่ทำหน้าที่คุมทีมอย่างเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นในเวลานี้

5. ซีเนดีน ซีดาน

พูดตามตรงแบบไม่เกรงใจนะ คงไม่เห็น ซีดาน คุม ลิเวอร์พูล แต่ชื่อของเขามักถูกพูดถึงบ่อยๆ เกี่ยวกับงานใหญ่ๆ ในพรีเมียร์ลีก แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่เหมือนที่ทุกๆ คนรู้  

ชื่อของ "ซิซู" ได้รับความสนใจอย่างมาก และมีหลายสโมสรชั้นนำในยุโรปอยากได้เขาไปคุมทีม แต่ดูเหมือนเจ้าตัวไม่สนใจ เพราะสิ่งที่เขารออยู่หลังประสบความสำเร็จในการคุม เรอัล มาดริด นั่นก็คืองานวางแท็กติกให้กับทีมชาติฝรั่งเศส

เป็นที่ทราบกันดีว่าจุดหมายปลายทางของ ซีดาน ก็คือการสืบทอดตำแหน่งของ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ กับทัพ "เลส์ เบลอส์" หลังจบศึกฟุตบอลโลก 2026 ในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า  แต่กว่าจะถึงตอนนั้นเขาอาจหางานอะไรทำแก้เบื่อก็ได้ !!

ฉะนั้นเพื่อเป็นการลับสมองประลองปัญญา ทำไม ซีดาน ถึงไม่ลองคุม ลิเวอร์พูล สัก 6 เดือน เพื่อลุ้นคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 4 ในฐานะกุนซือของเขา แล้วค่อยอำลาทีมเพื่อไปรับงานคุม ฝรั่งเศส 

นึกดูซิว่ามันจะเท่ขนาดไหน ถ้าหาก ซีดาน ทำแบบนี้ !!?? 

✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄