เก้าอี้ยังมั่นคงแค่ไหน?

เก้าอี้ยังมั่นคงแค่ไหน?
สถานการณ์ของลิเวอร์พูลยังวิกฤติหลังกลับจากเกมทีมชาติ

โปรแกรมรับมือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในแอนฟิลด์ถูกมองว่าเป็นภาคบังคับที่ทีม หงส์แดง ไม่มีทางเลือกอื่น ถ้ายังต้องการจะป้องกันแชมป์ มันต้องสามคะแนนสถานเดียว

เกมล่าสุดก่อนเบรกทีมชาติ ลิเวอร์พูล ไปแพ้ยับเยินที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ก็จริง แต่เกมนั้นเป็นที่เข้าใจได้ว่าเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแข็งแกร่งที่ได้เล่นในบ้านและท็อปฟอร์มด้วย ความพ่ายแพ้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก แม้ผลการแข่งขันจะโดนถลุงกระจุยถึง 0-3 ก็เถอะ

หลายคนยังจำ 2 เกมก่อนหน้านั้นที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า กับ เรอัล มาดริด มาได้แบบสวยงาม ว่ามันจะเป็นเกมที่ต่อยอดให้กับความมั่นใจของแชมป์เก่า อุบัติเหตุที่เอติฮัด สเตเดี้ยมทดเอาไว้ก่อน กลับจากทีมชาติมาถ้าชนะได้ตามคาดและด้วยผลงานในสนามสวย ๆ เหนือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทุกอย่างก็น่าจะกลับมาอยู่กับร่องกับรอยและเข้าที่เข้าทาง

แต่สุดท้ายผลลัพธ์กลับเป็นตรงกันข้าม ลิเวอร์พูล คล้ายยังไม่ฟื้นจากการเมาหมัดที่ถูกทีม เรือใบสีฟ้า ถลุงหมดสภาพ เมื่อแพ้ทีม เจ้าป่า ซ้ำอีกดอกด้วยสกอร์เดียวกัน

หากที่มันเลวร้ายยิ่งกว่าคือนี่เป็นการแพ้ใน แอนฟิลด์ ในเกมที่ทุกคนหมายมั่นปั้นมือว่าต้องกลับมาให้ได้ ถ้าจะทวงโอกาสลุ้นแชมป์กลับคืนมาอย่างน้อยเกมนี้ต้องชนะ เพราะมันเป็นด่านแรกในซีรี่ส์เกมไม่ยากนักที่รออยู่

พ้นเกมนี้ไปลิเวอร์พูลจะไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ผลงานลุ่ม ๆ ดอน ๆ รับมือ ซันเดอร์แลนด์ ทีมน้องใหม่ที่ผลงานเกมเยือนไม่โดดเด่นเท่าเกมเหย้า และไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ เอลแลนด์ โร้ด ซึ่งสภาพของทีม ยูงทอง ก็เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้

ลิเวอร์พูลกลับโยนมันทิ้งไปด้วยผลงานในสนามที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเสียประตูให้ฟอเรสต์จาก ลูกเตะมุม ซึ่งเป็นประตูที่ 9 เข้าไปแล้วที่ทีมหงส์แดงเสียให้คู่ต่อสู้จาก ลูกนิ่ง/ลูกตั้งเตะ

ก่อนเสียประตูลิเวอร์พูลมีเกมที่ดี บุกกดดันผู้มาเยือนต่อเนื่อง และสร้างโอกาสทำประตูขึ้นนำได้ เพียงแต่ถูกขวาง ถูกเซฟ หรือยิงพลาดกันไปเอง เมื่อสกอร์ไม่ขยับ ความกดดันก็เริ่มมากขึ้น และเมื่อเสียลูกเตะมุมซึ่งเป็นจุดที่ผู้มาเยือนจากเมืองน็อตติ้งแฮมจ้องจะใช้มันเป็นอาวุธอยู่ ลิเวอร์พูลก็พลาดโดนจนได้ด้วย มันเป็น จุดเปราะบางของทีมในซีซั่นนี้

แล้วหลังจากนั้นก็พังพินาศไปเลย อย่างที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมนั่นแหละ นักเตะหงส์แดงคล้าย แพนิค ตื่นตระหนกไปหมด เล่นกันอย่างร้อนรนไม่เป็นเกม

ลิเวอร์พูลแพ้ 0-3 คาบ้าน ชนิดที่แฟนบอลหลายคนทนไม่ได้ต้องลุกจากที่นั่งกลับบ้านก่อนเกมจบ มองไปภายในทีมเราเห็นปัญหามากมายที่ยังแก้ไขไม่ได้ ไล่ไปตั้งแต่เกมรับยันเกมรุก

แล้วมันจะเป็นซีซั่นที่แย่ที่สุดเลยไหม สำหรับลิเวอร์พูลในฐานะที่เป็น แชมป์เก่า?



📊 เทียบผลงานแชมป์เก่าในพรีเมียร์ลีก


ถึงตอนนี้ลิเวอร์พูลลงเตะไป 12 เกมในลีก ผลงาน ชนะ 6 แพ้ 6 ไม่มีเสมอเลย เก็บได้ 18 คะแนน รั้งอันดับ 12 ของตาราง

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของ พรีเมียร์ลีก มีแชมป์เก่าอยู่ 3 ทีมที่แพ้อย่างน้อยถึง 6 จาก 12 เกมแรก ในฤดูกาลป้องกันแชมป์:

  • เชลซี ฤดูกาล 2015/16: ลงสนาม 12 เกมแรกแพ้ไปถึง 7 เกม (ชนะ 3 เสมอ 2) มี 11 แต้ม

  • แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ฤดูกาล 1995/96: ลงสนาม 12 เกมแรกแพ้ไป 6 เกม (ชนะ 4 เสมอ 2) มี 14 แต้ม

  • เลสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 2016/17: ลงสนาม 12 เกมแรกแพ้ไป 6 เกม (ชนะ 3 เสมอ 3) มี 12 แต้ม

ลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้ได้เปรียบอดีตแชมป์เก่าทั้ง 3 ทีม ตรงที่เกมที่ไม่แพ้นั้นปัดเป็นชนะได้ทั้งหมด ทำให้เก็บคะแนนเต็มไม้เต็มมือ 18 แต้ม

เลสเตอร์ คือแชมป์เก่าที่มีผลงานแย่ที่สุดในการป้องกันแชมป์ของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2016/17 จบลงด้วยการมีเพียง 44 คะแนน น้อยกว่าฤดูกาลก่อนหน้าที่เป็นแชมป์ถึง 37 คะแนน หล่นไปอยู่อันดับ 12 ของตาราง ถูกเชลซีทีมแชมป์ทิ้งห่างถึง 49 แต้มหรือเกินเท่าตัว

เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือชาวอิตาเลียนที่พาทีมคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ ถูกปลดจากตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ เพียง 9 เดือนหลังวันชูถ้วยตระการตาใน คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม

โชเซ่ มูรินโญ่ ก็เช่นกัน หลังพาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014/15 ในการกลับไปคุมทีมสมัยสอง ซีซั่นต่อมาที่ออกตัวย่ำแย่แพ้ถึง 7 จาก 12 เกมแรก "เดอะสเปเชียลวัน" ก็ถูกปลดจากตำแหน่งในเดือนธันวาคม แค่ 7 เดือนหลังการพาทีมเป็นแชมป์ กุส ฮิดดิ้งค์ เข้ามาคุมทีมต่อและพาสิงโตน้ำเงินครามขึ้นไปจบที่อันดับ 7

ชะตากรรมของมูรินโญ่และรานิเอรี่เหมือนกันคือไปไม่รอดในซีซั่นป้องกันแชมป์ ทั้ง ๆ ที่ 7 เดือน 9 เดือนก่อนหน้านั้นยังเป็นฮีโร่อยู่เลย

กับ อาร์เน่อ สล็อต ยังบอกไม่ได้จริง ๆ ว่าเก้าอี้กุนซือของเขายังมั่นคงแค่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลงานในช่วงนี้ หากยังร่วงถลาเหมือนนกปีกหักก็มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะฝ่ายบริหารก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงเรื่องนี้เอาไว้ด้วย

ลุ้นกันนัดต่อนัด เกมต่อเกมล่ะครับ ว่าสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร

ตังกุย



ที่มาของภาพ : Reuters
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport