เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ : ชีวิตผกผันจากส่วนเกิน อาร์เซน่อล สู่แชมป์ฟุตบอลโลก

มีนักฟุตบอลมากมายที่ต้องเจอกับช่วงเวลาที่พลิกผลันในชีวิต หนึ่งในนั่นก็คือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูจอมหนึบ ซึ่งเคยโดนมองข้ามจากสโมสรอาร์เซน่อล ก่อนจะกลายเป็นฮีโร่นำทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 !!

นายทวารชาวอาร์เจนไตน์ ขึ้นทำเนียบเป็นตำนานทัพ "ฟ้าขาว" ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มสุดหนึบในเกมนัดชิงชนะเลิศ ด้วยการเอาชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส ไปอย่างสุดมัน

ความสำเร็จที่แสนหอมหวานมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบสำหรับ มาร์ติเนซ โดยเส้นทางที่นำไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพของเขาเริ่มต้นจากการที่แทบไม่มีโอกาสได้ลงสนามเฝ้าเสาในระดับสโมสรด้วยซ้ำ

ในช่วงแรกๆ ของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพสำหรับ มาร์ติเนซ บอกเลยว่าเขาต้องสู้ทนกับการลงสนามในลีกระดับล่างวงการลูกหนังประเทศอังกฤษ 

มาร์ติเนซ ย้ายจาก อินดิเพนเดนเต้ มาอยู่กับ อาร์เซน่อล หลังจากอายุครบ 17 ปี โดยนักเตะผ่านการทดสอบฝีเท้ากับทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" พร้อมกับเซ็นสัญญาระดับเยาวชนกับสโมสร

เขาได้ลิ้มรสชาติคำว่านักฟุตบอลอาชีพในวันสุดท้ายของซีซั่น 2011/12 เมื่อ อ๊อกซ์ฟอร์ด ยืมตัวไปเฝ้าเสาแบบฉุกเฉิน หลังจากนั้น มาร์ติเนซ ได้ลงเล่นให้กับ อาร์เซน่อล แมตช์แรกในเกม ลีก คัพ ชนะ โคเวนทรี แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้รับโอกาสจนต้องถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวเป็นส่วนใหญ่

มาร์ติเนซ ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, โรเธอร์แฮม, วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และ เรดดิ้ง ก่อนที่จะหวนกลับมานั่งตบยุงอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองในฐานะยางอะไหล่ของ แบรนด์ เลโน่

สุดท้าย มาร์ติเนซ ได้รับโอกาสเฉิดฉายเมื่อ เลโน่ ต้องถูกเปลี่ยนตัวเนื่องจากบาดเจ็บในเกมกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เมื่อเดือนมิถุนายน 2020 ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่ฟุตบอลหวนกลับมาเตะอีกครั้งหลังโดนโควิดเล่นงาน และเขาสามารถยึดมือ 1 ได้สำเร็จ

ฟอร์มการเล่นของเขายอดเยี่ยมเลยทีเดียว และได้รับเลือกลงเล่นตัวจริงในเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2019/2020 ที่เอาชนะ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี 

แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในฮีโร่ของ อาร์เซน่อล แต่เจ้าตัวรู้อยู่แก่ใจว่าคงไม่ได้รับโอกาสเป็นมือ 1 อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้เมื่อจบซีซั่นนั้น เขาตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ (ราว 840 ล้านบาท)

มาร์ติเนซ มีโอกาสได้ทำหน้าที่เป็นตัวจริงให้กับ "สิงห์ผงาด" 91 แมตช์ ซึ่งแตกต่างกับตอนอยู่กับ อาร์เซน่อล ที่ได้ลงสนามแค่ 38 เกมตลอด 1 ทศวรรษ

โกลจอมซ่าได้ลงสนามเปิดตัวในนามทีมชาติอาร์เจนตินาในปี 2021 แต่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเมื่อช่วยบ้านเกิดคว้าแชมป์โกปา อเมริกา พร้อมคว้ารางวัลถุงมือทองคำ หรือรางวัลนายทวารยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์

ความสำเร็จของ มาร์ติเนซ เริ่มค่อยๆ ทะยอยมาอย่างต่อเนื่องกับการเล่นให้ วิลล่า เขาก็คือผู้เล่นสำคัญของทีมที่ขาดไม่ได้ ขณะที่กับทัพ "ฟ้าขาว" เจ้าตัวก็มีส่วนสำคัญในการนำทีมบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้

มาร์ติเนซ เป็นหนึ่งในคีย์แมนที่ช่วยทัพ "ฟ้าขาย" กรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศ และนักเตะยังโชว์ซูเปอร์เซฟหลายครั้งในแมตช์สำคัญ ก่อนจะปิดตำนานเทพนิยายในฐานะแชมป์โลกได้สำเร็จ

การเดินทางในอาชีพของเขาต้องบอกว่าสมบุกสมบันจริงๆ โดย อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ยังกล่าวยกย่องความสุดยอดของ มาร์ติเนซ ที่สร้างเอาไว้ในมหกรรมลูกหนังแห่งมวลมนุษยชาติ 

"ผมมีความสุขมากๆ กับเขา เรารู้ว่าเขามีคุณภาพคับแก้ว เขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น  มีแรงปรารถนาที่จะเรียนรู้และเต็มไปด้วยแพสชั่นในการลงเล่น บางครั้งเขาถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัว และไม่ได้ลงสนาม แต่มันก็ไม่ได้หยุดความเชื่อและแรงกระตุ้นของเขาเลย"

"ตอนที่ผมเห็นเขาเล่นผมรู้ว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ผมอยากให้เขาประสบความสำเร็จ ทำได้ดีมากๆ เอมิ เราภูมิใจในตัวคุณ" กุนซือชาวฝรั่งเศส กล่าว

เส้นทางอาชีพของ มาร์ติเนซ เป็นบทเรียนให้กับเด็กรุ่นใหม่ได้เห็นว่า หากไม่หมดความพยายาม ไม่ทิ้งแพสชั่นของตัวเอง สุดท้ายคุณจะประสบความสำเร็จได้แน่นอน

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport