มาเน่ เปิดใจชอตเดือดใส่ ซาลาห์ โกรธจริง แต่หายไว

ซาดิโอ มาเน่ ดาวเตะ อัล-นาสเซอร์ ยอมรับว่าตนเคยโกรธ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ไม่ผ่านบอลให้ในเกมที่เจอกับ เบิร์นลี่ย์ แต่เสริมว่าพวกเขาก็ปรับความเข้าใจกันได้อย่างรวดเร็ว

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปี 2019 ลิเวอร์พูล บุกไปชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-0 แต่ไฮไลท์ของเกมนั้นกลับเป็นจังหวะที่ มาเน่ ออกอาการโมโหสุดขีดที่ ซาลาห์ ไม่ผ่านบอลให้กับเขาทั้งที่ดาวเตะชาวเซเนกัลอยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสทำประตูได้สูง

ล่าสุด มาเน่ มาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นต่างๆ กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ซึ่งช่วงหนึ่งเขาโดนถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับ ซาลาห์ และเจ้าตัวก็ตอบว่า "เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม เป็นคนที่เก่ง เป็นนักเตะชั้นยอด ทุกคนมักจะพูดว่าเราเป็นคู่แข่งกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีการพูดแบบนั้น แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องแย่เลยนะ"

"ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่เงียบๆ แต่ผมก็เป็นมิตรกับทุกคนในทีม ผมคิดว่า โม เป็นคนที่นิสัยดีมากๆ แต่ในสนามมันก็เป็นอย่างที่คุณเห็นกัน นั่นคือบางครั้งเขาก็ผ่านบอลให้ผม แต่บางครั้งก็ไม่ ระหว่างเรามันมีแค่ บ็อบบี้ (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่) ที่มักจะคอยผ่านบอลให้เราอยู่ตลอด"

"ทุกวันนี้ผมยังจำเหตุการณ์ในเกมๆ หนึ่งได้เลยที่ผมโกรธมากๆ จากการที่เขาไม่ยอมผ่านบอลให้ผม ทั้งที่เขาควรจะผ่านบอลให้ผม ผมหมายถึงเกมกับ เบิร์นลี่ย์ คุณก็รู้ดีอยู่แล้ว จริงไหม ตอนจบเกมนั้นน่ะผมโกรธมากๆ"

"พอถึงวันต่อมาเขาก็เข้ามาหาผม เขาอยากคุยกับผม เพียงแต่เขาไม่รู้ว่ามันควรจะพูดตอนไหนและควรจะพูดยังไง เขายังคิดว่าผมโกรธเขาอยู่เพราะหลังจบเกมเราไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย เราตรงกลับบ้านทันที ดังนั้น 1 วันหลังจบเกมไปแล้วเขาก็เข้ามาหาผมแล้วถามว่า -เราคุยกันได้ไหม ?-"

"ผมตอบไปว่า -โอเค ไม่มีปัญหา ว่ามาเลย- จากนั้นเขาก็ถามว่า -นี่นายคิดว่าฉันไม่อยากผ่านบอลให้นายเหรอ ? เกมล่าสุดน่ะฉันยิงไม่ได้ บ็อบบี้ ทำประตูได้ แต่ตอนที่ฉันได้บอลน่ะฉันไม่ได้คิดหรือมองเห็นนายเลย ฉันก็แค่ได้บอลมาครองแล้วอยากยิงก็เท่านั้น ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนายเลยนะ ถ้าตอนนั้นฉันมองเห็นนายแล้วน่ะฉันจะผ่านบอลให้นายแน่นอน-"

"จากนั้นผมก็บอกไปว่า -อย่าห่วงเลย มันผ่านไปแล้วล่ะ ฉันก็แค่โกรธเพราะคิดว่านายน่าจะผ่านบอลให้ฉันมากกว่านี้สักหน่อยเมื่อพิจารณาถึงคุณภาพของนายก็เท่านั้น- ที่จริงผมคิดว่าหลังจากวันนั้นเป็นต้นมาเราสนิทกันมากกว่าเดิมด้วย บางครั้งมันก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ แต่กองหน้าอย่างเราเมื่อได้เห็นลูกบอลแล้วก็จะหมกมุ่นกับมันจนมองไม่เห็นคนอื่น แบบเดียวกับกรณีของ โม นั่นแหละ"

"คุณจะไม่สนใจคนอื่นเลย ดังนั้นสำหรับผมแล้วที่เขาทำลงไปมันไม่ใช่เพราะเขามีปัญหากับผมเป็นการส่วนตัว มันก็แค่เขาอยากทำประตูให้ได้ ตอนนั้นถ้าผมจำไม่ผิดน่ะผมบอกกับเขาไปด้วยว่า -โม ฉันรู้ว่านายอยากยิงให้ได้มากกว่านี้ ฉันสามารถช่วยนายได้นะ เพราะฉันรู้ว่านายอยากเป็นดาวซัลโวสูงสุด นายอยากทำมันให้ได้ ซึ่งฉันก็อยู่ตรงนี้ ฉันสามารถช่วยนายได้เพราะฉันไม่มีปัญหาอะไรเลย ฉันจะช่วยให้นายยิงได้มากขึ้นเอง-"