แม็คโทมิเนย์ หลังออกจาก แมนยู เห็นแล้วอดเสียดายไม่ได้

1. ผมเห็น สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ กระโดดตีลังกาฟาดลูกฟุตบอลเข้าไปตุงตาข่ายในเกมคัดบอลโลกที่ทีมชาติสก๊อตแลนด์ เอาชนะ เดนมาร์ก 4-2 เมื่อวันก่อนแล้วก็อุทานในใจ...แม่เจ้าโว้ยยยย !!!

เพราะคนที่จะยิงได้ในลักษณะนี้ มันต้องเป็นยอดดาวเตะลีลาผาดโผนเท่านั้น

ตัวอย่างเช่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, แกเร็ธ เบล และ เวย์น รูนี่ย์ 

อเลฮานโดร การ์นาโช่ ก็เคยตีลังกายิงแบบนี้เข้าประตูนะครับ แต่ยังไม่ขอนับเป็นยอดดาวเตะ ด้วยเหตุผลส่วนตัว 555555

2. มันเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธ คือนับตั้งแต่ถีบตัวเองออกจากเครื่องแบบปีศาจแดง ดาวเตะชาวตาร์ตั้น 󠁧󠁢󠁳󠁣󠁴󠁿 ผู้นี้ก็มีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานมากขึ้นจริงๆ

นอกจากจะคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา กับ นาโปลี เมื่อฤดูกาลที่แล้ว 'แม็คทอม' ยังอหังการถึงขั้นคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในลีกสูงสุดของ อิตาลี

ล่าสุดยังช่วยให้ สกอตแลนด์ ได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี

คิดเอา !!!

3.เท่านั้นไม่พอ

นับตั้งแต่ย้ายบั้นท้ายไปเป็นลูกทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ - อดีตลูกกรอกคะนองผู้นี้ก็ถล่มตาข่ายอย่างสนุกสนาน

ฤดูกาลที่แล้ว เขาทำได้ถึง 12 ประตู บนเวทีกัลโช่ ผิดกับตอนเป็นผู้เล่นของ แมนยูไนเต็ด ที่ไม่เคยกระทุ้งตาข่ายในพรีเมียร์ลีกได้มากกว่าฤดูกาลละ 7 ประตู

เคล็ดไม่ลับคือการเปลี่ยนตำแหน่งไปเล่นเป็นหน้าต่ำ เหตุเพราะ 'แม็คทอม' เป็นผู้เล่นที่สอดตัวเข้าไปในพื้นที่ว่างพอๆ กับหาจังหวะในการเผด็จศึกได้ดี

4. อันที่จริง กุนซือที่ค้นพบว่าดาวเตะวัย 28 ขวบผู้นี้เหมาะกับตำแหน่ง 'หน้าต่ำ' มากกว่ามิดฟิลด์ตัวรับคือ เอริค เทน ฮาก นะครับ

ฤดูกาล 2023/24 พี่แกจับ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ไปเล่นเป็นตัวบน บทบาทหน้าที่ไม่มีอะไรมากกว่าหาจังหวะเก็บตกแล้วทะลวงตาข่ายให้สิ้นซาก

ปรากฏว่ามันเป็นฤดูกาลที่เขายิงให้ แมนยูไนเต็ด มากที่สุดคือ 10 ประตูในทุกรายการ

แต่เพราะไม่ใช่ตัวหลัก และไม่อยู่ในแผนการทำทีม หลังจบซีซั่นจึงถูกปล่อยไปอยู่กับ นาโปลี ในราคาแค่ 25.7 ล้านปอนด์ สวนทางกับ มานูเอล อูการ์เต้ ที่เข้ามาแทนในราคา 42.1 ล้านปอนด์

5. ในฐานะของผู้มีจิตศรัทธาในปีศาจแดง ขอสารภาพตามตรงครับว่าตอนที่ แมนยูไนเต็ด ปล่อย สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ออกจากทีม ผมไม่รู้สึกเสียดายอะไรมากมาย

ด้วยคิดว่านักเตะที่ย้ายมาใหม่น่าจะมีคุณภาพและความเหมาะสมที่มากกว่า

พอเห็น 'ไอ้แม็ค' ในตอนนี้แล้ว มันก็อดเสียดายไม่ได้ เพราะต่อให้ รูเบน อโมริม จะเลื้อยตูดมาเป็นพ่อใหญ่แห่ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด คนใหม่พลางปรับระบบการเล่นเป็น 3-4-2-1 ซึ่งย่อมไม่เหมาะกับ 'หน้าต่ำ' อย่างเขาแน่ๆ 

แต่ถ้าคุณพี่เขายังฝังหนอกอยู่ในโรงมหรสพแห่งความฝันต่อไป 

บางที แมนยูไนเต็ด อาจไม่จำเป็นต้องวอดวายไปกับกองหน้าตัวเป้าคนใหม่

...ก็..เป็น..ได้ !!!