ต้องเอามาให้ได้! 7 เหตุผลที่ ลิเวอร์พูล ต้องคว้า เซเมนโย่ เสริมแนวรุก

เซเมนโย่ กำลังได้รับความสนใจอย่างมากหลังมีรายงานระบุว่านักเตะมีค่าฉีกสัญญา 65 ล้านปอนด์ (ราว 2,860 ล้านบาท) ซึ่งสามารถใช้ได้ในช่วงสองสัปดาห์แรกของตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม

งานนี้หลายสโมสรเริ่มจับตาสถานการณ์ของนักเตะอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ ลิเวอร์พูล ที่ต้องการตัวนักเตะไปเสริมแกร่งอย่างมาก แล้ว สตาร์วัย 25 ปีจะเป็นการเสริมทัพที่เหมาะสมกับแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ไหม ?

นี่คือ 7 เหตุผลที่ว่าทำไมทีมของกุนซืออาร์เน่อ สล็อต ควรจะเซ็นสัญญากับ เซเมนโย่ 

1. นักเตะพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 

เซเมนโย่ ย้ายจาก บริสตอล ซิตี้ มาเล่นกับ บอร์นมัธ เมื่อเดือนมกราคม 2023 และสร้างผลงานจนกลายเป็นดาวเด่นในศึกพรีเมียร์ลีก 

นักเตะลงเล่นในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีไปแล้ว 92  แมตช์ ยิไป 26 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ รวมทั้ง 17 ประตูกับ 9 แอสซิสต์ จากการเล่น 48 เกมในลีกนับตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่ผ่านมา 

แม้นักเตะจะเล่นให้ทีมชาติกานา แต่เขาเกิดในกรุงลอนดอน และเคยเล่นทีมระดับเยาวชนให้กับ เซาธ์ กลอสเชสเตอร์เชียร์ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บริสตอล ซิตี้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงถือเป็นผู้เล่นท้องถิ่น (Homegrown)ในพรีเมียร์ลีก และเป็นนักเตะที่ฝึกซ้อมอยู่กับสโมสร (Association-trained) สำหรับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย

2. เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก

แม้ว่า เซเมนโย่ จะโดดเด่นในการเล่นปีกขวา เพราะเป็นตำแหน่งที่ถนัด แต่นักเตะมีความสามารถที่หลากหลายอย่างมาก และเล่นได้อย่างโดดเด่นในทุกๆ ตำแหน่งแนวรุก 

อย่างไรก็ตาม สตาร์ชาวกานา มีความสามารถในการเล่นปีกซ้าย และหน้าเป้า ซึ่งนั่นไม่ใช่แค่เขาเหมาะกับระบบการเล่นของโค้ชอาร์เน่อ แต่ยังช่วยเพิ่มตัวเลือกและการแข่งขันในแนวรุกด้วย

นี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า ลิเวอร์พูล อาจมองว่า เซเมนโย่ เป็นการอัปเกรดจาก เฟเดริโก้ เคียซ่า ซึ่งสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งแต่ชัดเจนว่าไม่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวจริงประจำทีม

3. เริ่มความเร็ว, พลัง และการเพรสซิ่ง 

เซเมนโย่ เป็นนักเตะที่วิ่งเยอะ, ทำงานในแนวรุก ซึ่งไม่เพียงแต่ทำผลงานได้ดีแม้จะโดนเปลี่ยนตำแหน่ง แต่ยังขยันวิ่งเพรสซิ่งใส่กองหลังจนเกิดความผิดพลาดและสร้างโอกาสเองได้ด้วย

โค้ชอาร์เน่อ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการเพิ่มศักยภาพด้านความเร็วเข้าไปในขุมกำลัง "หงส์แดง" ตลอดช่วงซัมเมอร์นี้ด้วยการคว้าตัวนักเตะอย่าง อูโก้ เอกิติเก้, มิลอส เคอร์เคซ และ เจเรมี่ ฟริมปง 

ดังนั้นหากสโมสรเซ็นสัญญากับ ดาวเตะเจ้าของเสื้อหมายเลข 24 จากบอร์นมัธ มาร่วมทัพ ยิ่งจะเป็นการช่วยทีมให้แข็งแกร่งตามแนวทางที่ กุนซือชาวดัตช์ ต้องการได้เลย

4. ฟอร์มเด่นในเกมใหญ่

ดาวเตะทีมชาติกานาไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่เก่งกับทีมเล็กเท่านั้น แต่เขายังพิสูจน์ว่าสามารถยิงในเกมใหญ่ได้ โดยเฉพาะการซัดสองประตูที่ แอนฟิลด์ เกมเปิดฤดูกาล 2025/2026 

สถิติที่โดดเด่นของนักเตะในการสู้กับ ลิเวอร์พูล (3 ประตู) มีเพียงแค่ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม (5 ประตู) ที่เหนือกว่า ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เกมเหย้า-เยือน) และ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เป็นทีมที่เขาทำประตูได้เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา 

ฟอร์มการเล่นของ เซเมนโย่ เป็นการยืนยันว่าเขาสามารถรักษามาตรฐานการเล่นทั้งในเกมเล็ก และใหญ่ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในระยะยาว 

5. ทายาท โม ซาลาห์

ลิเวอร์พูล ทำสัญญาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้ เมื่อพวกเขาตกลงจ่ายค่าเหนื่อย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สูงสุดถึง 480,000 ปอนด์ (ราว 21.12 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ รวมโบนัสแล้ว

อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของ "บังโม" ในฤดูกาลนี้ไม่ได้โดดเด่นเหมือนที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะมีความสามารถระดับโลก แต่ "คิง ออฟ อียิปต์" ในวัย 33 ปี ไม่ได้อยู่ในช่วงรุ่งโรจน์อีกต่อไปแล้ว

ซาลาห์ มีสัญญาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ จนถึงปี 2027 แต่หากมองจากความเป็นจริง ลิเวอร์พูล ต้องการทายาทเพื่อมาแทนที่เขาในระยะยาว และ เซเมนโย่ น่าจะเหมาะสมที่สุด

6. ค่าฉีกสัญญาที่ได้ประโยชน์

บอร์นมัธ พิจารณาที่จะขาย เซเมนโย่ มาตลอด และตอนนี้มีการเปิดเผยว่าไม่ใช่แค่ค่าฉีกสัญญาของนักเตะเท่านั้น แต่มันจะถูกใช้ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของตลาดพ่อค้าแข้งฤดูหนาว

สำหรับค่าฉีกสัญญาดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 65 ล้านปอนด์  (ราว 2,860 ล้านบาท) ในช่วงต้นปี 2026 และราคาน่าจะลดลงอีกในช่วงซัมเมอร์ ตามรายงานของเดวิด ออร์นสตีน นักข่าวคนดังจาก "ดิ แอธเลติก" สื่อชั้นนำ

ลิเวอร์พูล อาจได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์อันยาวนานกับ "เดอะ เชอร์รี่ส์"  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา ริชาร์ด ฮิวจ์ส ที่เคยใช้เวลา 12 ปีกับ บอร์นมัธ ก่อนนำ มาร์ค เบอร์ชิลล์ และ เคร็ก แม็กคี สองแมวมองคนเก่งมาที่แอนฟิลด์

7. นักเตะไม่ต้องไปเล่นแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 

หนึ่งในข้อดีมากๆ ถ้าหาก ลิเวอร์พูล สามารถคว้าตัว เซเมนโ ยช่วงกลางฤดูกาลได้ นั่นก็คือ เขาจะไม่ต้องลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ซึ่ง "หงส์แดง" ต้องเจอเรื่องยากเนื่องจาก โม ซาลาห์ ต้องเดินทางไปรับใช้ทีมชาติอียิปต์ในรายการนั้น

กานา ไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกซึ่งทำให้พวกเขาไม่ต้องไปร่วมโมเกือกในรายการนี้ที่จัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2025 - วันที่ 18 มกราคม 2026 โดย "บังโม" ต้องพลาดช่วย  ลิเวอร์พูล อย่างน้อย  3 เกม และมากสุด 7 เกมเลยทีเดียว

ในทางทฤษฎี เซเมนโย่ อาจเข้ามาเป็นตัวแทนชั่วคราวของ ซาลาห์ ที่ไม่อยู่ ก่อนที่จะต้องแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งในแนวรุกในระยะยาว ซึ่งสาวก "เดอะ ค็อป" น่าจะพอใจ เพราะนักเตะรายนี้มีดีหลายด้านจริงๆ 

✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄