เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
1. หลังผ่านพ้น 11 เกมแรกของพรีเมียร์ลีกที่หนักหน่วงมาก ขอบอกว่าอีก 10 เกมต่อไปของ แมนยูไนเต็ด จะไม่เจอกับคู่แข่งระดับ “บิ๊กซิกซ์” เลยแม้แต่ทีมเดียว
กว่าจะเจอทีมระดับพญายักษ์อีกครั้งคือกลางเดือนมกราคมปีหน้าที่ต้องเจอ แมนฯ ซิตี้ ในบ้าน และบุกไปเยือน อาร์เซน่อล
2. นักเตะกาฬทวีปอย่าง ไบรอัน เอ็มเบอโม่, อาหมัด ดิยัลโล่ และ นุสแซร์ มาซราวี จะอดลงเล่นให้ แมนยูไนเต็ด อย่างน้อย 3 นัด ในช่วงปลายเดือนธันวาคม เพราะต้องไปรับใช้ชาติในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์
ถ้า แคเมอรูน, ไอวอรี่โคสต์ และ โมร็อกโก ตกรอบเร็ว พวกเขาก็กลับมาเร็ว แต่บอกเลยว่าการขาด 3 คนนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อทีมแน่นอน
แถมหากตอนนั้นมีผู้เล่นที่ถูกอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปอยู่แล้วนะมึง !!!
3. ขนาดซีซั่นนี้ 'ปีศาจแดง' ไม่ได้เล่นบอลสโมสรยุโรป แต่เด็กผียังหนีไม่พ้นวิบากเวร
เหตุเพราะ 10 นัดต่อไปในพรีเมียร์ลีกของ แมนยูไนเต็ด มีถึง 7 นัดที่ต้องลงเล่นในเวลา 'ตีสาม' ตามเวลาประเทศไทย
4. สกาย สปอร์ตส์ วิเคราะห์ว่า แมนยูไนเต็ด คือทีมที่มีโปรแกรม 5 นัดข้างหน้าเบากว่าชาวบ้าน
นอกจากจะไม่ต้องเจอทีมใหญ่แล้ว คู่แข่ง 5 เกมข้างหน้าล้วนเป็นทีมที่ต่ำกว่าอันดับ 8 ทั้งหมด
5 เกมนี้ ขอสัก 11 แต้ม ถือว่าน่าพอใจ
แต่ถ้าได้มากกว่าล่ะก็
5. ไม่เอา...ไม่เอา
เส้นทางยังอีกยาวไกล เกมรับยังคงรั่วไหล คุณภาพตัวสำรองก็ยังห่างจากตัวจริง อย่าเพิ่งไปคิดไปฝันอะไรมากมาย เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราเพ้อเจ้อ ค่อยๆ ว่ากันไปนัดต่อนัด
...ว่าแล้วขอทิ้งท้ายด้วยนักเตะตำแหน่งกองหลังของ แมนยูไนเต็ด ที่ทำแอสซิสต์ได้แล้วในฤดูกาลนี้
แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ดิโอโก้ ดาโลต์, แพทริค ดอร์กู, อายเดน เฮฟเว่น และลุค ชอว์