ใจพี่โคตรเจ๋ง! แฟนบอลพันธุ์แท้เดินเท้า 92 สนามพรีเมียร์ลีก-อีเอฟแอลใน 92 วัน

ใจพี่โคตรเจ๋ง! แฟนบอลพันธุ์แท้เดินเท้า 92 สนามพรีเมียร์ลีก-อีเอฟแอลใน 92 วัน
ในฐานะแฟนบอลการได้ไปเยือนสนามของสโมสรที่ชื่นชมถือเป็นการเติมเต็มความฝัน แต่สำหรับ ซาเวียร์ วิกกิ้นส์ คอลูกหนังพันธุ์ทำยิ่งกว่านั้น เพราะเขาลงทุนเดินทางกว่าสองพันไมล์ (ราว 3,219 กิโลเมตร) ทั่วประเทิศเพื่อเยี่ยมชมสนามทั้ง 92 แห่งของพรีเมียร์ลีกและอีเอฟแอล ในเวลา 92 วัน

การได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศลูกหนังในสนามแข่งถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าการชมเกมหน้าจอทีวี และยิ่งได้ไปเยือนสนามมากมายเกือบ 100 แห่งถือเป็นการเติมเต็มแพสชั่นของคนบ้าบอลอย่างแท้จริง

วิกกิ้นส์ วัย 54 ปี  ซึ่งแฟนพันธุ์แท้ เอเอฟซี วิมเบิลดัน เคยลงทุนเดินท่ามกลางลมแรงจากดอร์เชสเตอร์ไปยังไลม์ รีจิส ระยะทางกว่า 18 ไมล์ (ราว 29 กิโลเมตร) เปิดใจว่า "การทำแบบนั้นเป็นเรื่องอันตรายมาก ผมไม่แนะนำให้ทำตาม แต่ผมชอบช่วงเวลาตอนนั้นจริงๆ"

คุณลุงจาก แฮมป์ตัน ในย่านมิดเดิ้ลเซ็กซ์ เคยเจอเหตุการณ์ตำรวจเรียกตรวจในขณะที่เขาเดินเท้าจากเซนต์ เจมส์ พาร์ค ไปยังสนามเซนต์ แมรี่ส์ นอกจากนี้เจ้าตัวยังเคยพบคนดัง และได้รับน้ำใจจากผู้คนมากมายระหว่างทางด้วย 

แรงบันดาลใจในการทำภารกิจสุดเหลือเชื่อนี้ของเขา คือการระดมทุนให้กับมูลนิธิชุมชนของทั้ง 92 สโมสร และเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ถึงกิจกรรมต่างๆ ของพวกเขา "มันเริ่มในปี 2019 เรา (เอเอฟซี วิมเบิลดัน) กำลังสร้างสนามใหม่"

"พวกเราได้รับการบอกกล่าวว่า -พวกนายติดหนี้อยู่ 11 ล้านปอนด์ (ราว 484 ล้านบาท) พวกนายต้องยอมสละสิทธิ์ความเป็นเจ้าของสโมสรโดยแฟนบอล (แฟนบอลเป็นเจ้าของและมีส่วนร่วมในการบริหาร) ผมลุกขึ้นยืนกลางที่ประชุมแล้วพูดว่า -เรื่องนั้นจะไม่เกิดขึ้น เราจะระดมเงินทุนให้ได้-"

 การต้องสละสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโดยแฟนบอล คงเป็นเรื่องที่ขมขื่นอย่างยิ่งสำหรับ เอเอฟซี วิมเบิลดัน เพราะสโมสรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยแฟนบอล หลังจากสโมสรเดิมอย่าง วิมเบิลดัน เอฟซี ถูกขายโดยไม่สนใจเสียงของพวกเขา แล้วย้ายไปเมืองมิลตัน คีนส์ และกลายเป็นทีมเอ็มเค ดอนส์ ในปัจจุบัน 

วิกกิ้นส์ กล่าวต่อไปว่า "เราทำการระดมทุนผ่านพันธบัตรครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ มีพวกเราราวสองร้อยคนที่ช่วยกันระดมทุน นิค (โรเบิร์ตสัน) ผู้ก่อตั้งเอซอส (ASOS) เข้าร่วมเป็นผู้หุ้นรายย่อย โดยลงทุนจำนวน 8 ล้านปอนด์ (ราว 352 ล้านบาท) จากนั้นเราก็กู้เงินที่เหลือมาจ่ายค่าก่อสร้างสนาม"

"จากนั้นโควิดก็ระบาดขึ้น เราก็เริ่มสงสัยว่า -เราจะทำยังไงกันดี?-  ห้าวันต่อมาเราก็ไปยืนอยู่หน้าร้านมอร์ริสันส์กลางเมืองวิมเบิลดัน พวกเราก่อตั้งกลุ่ม ดอนส์ โลเคล แอ็กชั่น  และสร้างกองทัพอาสาสมัครกว่า 3,500 คน เพื่อช่วยแก้ปัญหาความยากจนด้านอาหาร, เฟอร์นิเจอร์ และเทคโนโลยี"

 "ทั้งหมดนี้เริ่มจากพวกเราแค่สามคน ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานการกุศลเลย หลังจากนั้นผมก็เริ่มสนใจว่าสโมสรฟุตบอลอื่นๆ เขาทำอะไรบ้าง ผมได้อ่านเรื่องของ คิวพีอาร์ ที่ช่วยแก้ปัญหาอาชญากรรมจากอาวุธมีด และเพื่อนของผมก็เสนอไอเดียการเดินทางนี้ขึ้นมา ซึ่งผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมมาก"

เพียงสองวันให้หลัง ในช่วงวันที่แสนสดใสของเดือนสิงหาคม ไอเดียที่เคยดูยอดเยี่ยมก็เริ่มรู้สึกว่าไม่สวยหรูอย่างที่คิด โดย วิกกิ้นส์ อธิบายว่า "แค่วันที่สองมันโหดร้ายมาก พวกเราหลงทาง, ฝนก็ตกหนัก แถมแบกเป้ก็หนัก"

"เราต้องเดินผ่านทุ่งหญ้าและหลายเส้นทางก็ไม่มีอยู่จริง เรามองไม่เห็นทาง และต่อให้มองเห็นก็ไปไม่ได้ เพื่อเป็นการชดเชย ผมต้องเดินเพิ่มในวันถัดมาอีก 27 ไมล์ (ราว 43.45 กม.) แล้วผมก็เลี้ยวผิดตรงวงเวียน"

"ระหว่างคาร์ดิฟฟ์กับเชปสโตว์ มีตำรวจเซาท์เวลส์ขับตามหลังมา แล้วพาผมออกจากถนนสายหลักที่รถพลุกพล่าน กลับไปยังวงเวียนที่ผมหลงทาง สรุปแล้วจาก 27 ไมล์ กลายเป็น 29 ไมล์ (ราว 47 กม.)"

"ผมไม่ได้คิดเลยว่า -บางทีผมควรหยุด- แต่ผมแค่คิดว่า -นี่มันโหดสุดๆ ไปเลย- ผมเคยต้องเดินยาวสิบไมล์ (ราว 16 กม.) บนถนนคู่ขนาน เพราะหลายพื้นที่ในประเทศนี้แทบไม่มีทางเดินเท้าเลย"

ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร เพราะหลังจากนั้นทุกอย่างกลับคุ้มค่าเมื่อ วิกกิ้นส์ ได้เห็นปฏิกิริยาของผู้คนจำนวนมาก "ผมกำลังเดินผ่านเมืองวูล์ฟแฮมป์ตันประมาณสิบโมงเช้า แล้วมีผู้ชายคนหนึ่งตะโกนใส่ผม ผมฟังไม่ทันเข้าใจว่าเขาพูดอะไร แต่ปรากฏว่าเขาบอกว่าพึ่งเห็นผมทางทีวี"

"จากนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมไม่เคยพบมาก่อน จองโรงแรมให้ผมสี่คืน แม่ของเธอทำแซนด์วิชและออกมาสนับสนุนพวกเราขณะเดิน บางช่วงระหว่างทาง ผมมีคนมากกว่า 40 คนมาร่วมเดินกับผมด้วย"

การเดินครั้งนี้ยังได้รับการตอบรับในแง่บวกจากชุมชนฟุตบอลด้วย โดย วิกกิ้นส์ เผยว่า "ผมได้พบกับ ฟรานซิส เบนาลี่ ที่เซาแธมป์ตัน และ กาย บัตเตอร์ส ที่ไบรท์ตัน

นักเตะคนแรกที่ผมพบคือ เทย์เลอร์ มัวร์ ของบริสตอล โรเวอร์ส ซึ่งทราบว่ามารดาของเขาพยายามฆ่าตัวตาย ดังนั้นเขาบอกผมว่าเขาตั้งใจใช้สถานะนักฟุตบอลของตัวเอง เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับสุขภาพจิต"

สำหรับการเดินไปเยี่ยมสนามฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก และอีเอฟแอลจำนวน 92 แห่งนอกจากจะทำให้เขาได้เห็นโครงการการกุศลมากมายที่ทำเพื่อชุมชนของพวกเขาแล้ว ยังส่งผลดีกับร่างกายของ วิกกิ้นส์ เพราะน้ำหนักตัวลดลงถึง 22 กิโลกรัม และร่างกายปรับตัวได้เร็ว

"ในช่วงสองสามสัปดาห์แรก คุณจะรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังหลุดออกจากร่างกาย ผมมีอาการข้อเท้าแพลง และเท้าเริ่มไม่รู้สึก แต่ผมเดิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และจากนั้นมันก็เริ่มชิน" วิกกิ้นส์ กล่าวทิ้งท้าย 

ทั้งภารกิจสุดท้าทายของ วิกกิ้นส์ และพองเพื่อนจบลงเมื่อเดินทางไปที่สนามเหย้าของพลีมัธ อาร์ไกล์ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน หลังจากเริ่มต้นโครงสุดหฤโหดตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ สวอนซี



ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport