นำแล้วรับมักโดนดี! เสียดาย แมนยู ไม่ชนะตีเจ๊า สเปอร์ส นาทีบาป

และต่อไปคือสิ่งที่ผมอยากจะบอก

1. ฟอร์มโดยรวมของ 'ปีศาจแดง' ไม่ถือว่าแย่อะไรนะครับ ขณะเดียวกัน 'พญาโต้ง' ก็ไม่ได้เล่นดีอะไรมากมาย

ครึ่งแรก ทีมเยือนเล่นเกมรับได้กระชับดีนักแล เข้าถึงตัวเร็ว และไม่เปิดโอกาสให้เจ้าถิ่นสักเท่าไหร่

เกมตรงกลางก็ไม่ถึงกับเป็นรอง แถมยังหาจังหวะเข้าทำอย่างได้น้ำได้เนื้อมากกว่า

ที่สำคัญคือสามารถทำประตูขึ้นนำก่อนได้อีกต่างหาก ภาพรวม 45 นาทีแรก โอเคย์โด่เลยทีเดียว

2. ปัญหาคือเมื่อนำแล้ว มักจะรักษาสกอร์นำของตัวเองไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง

ฤดูกาลนี้นำ ฟูแล่ม 1-0 ก็โดนตีเสมอ, นำ เบิร์นลี่ย์ ก็โดนตีเสมอ, นำ ลิเวอร์พูล ก็โดนตีเสมอ และนำ ฟอเรสต์ ก็โดนตีเสมอ

จุดหนึ่งคือเวลานำ 1-0 แล้ว มักจะเปลี่ยนไปเล่นเกมรับ เพื่อรักษาสกอร์มากเกินไป ทั้งๆ ที่เกมตัวเองก็ดีอยู่แล้ว

เกมล่าสุดก็เช่นกันที่อุตส่าห์บุกนำเจ้าถิ่น ก่อนจะเปลี่ยนมาเล่นเกมรับแทนที่จะเล่นเหมือนเดิมไปก่อน ประหนึ่งกวักมือเรียกพลางหันตูดเชิญชวนให้คู่แข่งโขยกเข้าใส่

3. สิ่งที่เห็นในครึ่งหลังคือ สเปอร์ส ทั้งเร่งและเน้นเกมรุกอย่างรวดเร็วมากขึ้น

แทนที่จะดึงจังหวะให้ช้าลง ไหนๆ จะตั้งรับแล้ว มันต้องดึงช้า แมนยูไนเต็ด กลับไปเร่งเกมเร็วตามเขาส่งผลให้เสียบอลง่ายขึ้น...ซะอย่างนั้น

จุดอ่อนของปีศาจแดงคือเกมรับนะครับ บทจะหละหลวมก็หละหลวมดื้อๆ บทจะเสียประตูก็เสียง่ายๆ ยิ่งไปเน้นเกมรับก็ยิ่งกลายเป็นการเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้มากขึ้น

4. จุดบกพร่องอีกประการคือตัวสำรองที่คุณภาพค่อนข้างห่างจากตัวจริงมากเกินไปหน่อย

เวลาลงมาพร้อมๆ กันแล้วมักจะทำให้ตัวเองเสียการทรงตัว และหัวใจเป็นประจำ

สังเกตได้เลยนะครับว่าแทบทุกครั้งที่ มานู อูการ์เต้ ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง เกมของ แมนยูไนเต็ด จะดร็อปลงไปในทันที

เกมล่าสุด รูเบน อโมริม รีบถอด กาเซมิโร่ ออกจากสนามอย่างรวดเร็วไปหน่อย 

เช่นเดียวกับ แพทริค ดอร์กู ที่ติดใบเหลือง แต่ก็ยังไม่โฉ่งฉ่างถึงขั้นล่อแหลมต่อการถูกไล่ออก พอเอา ดิโอโก้ ดาโลต์ ลงมาก็ยิ่งไปกันใหญ่

มิหนำยังเปลี่ยนพร้อมกันทีเดียวถึง 3 ตัว แล้วพอ เบนยามิน เชชโก้ บาดเจ็บทำให้ต้องเล่นแค่ 10 คนจนเสียประตู

5.อารมณ์หนึ่ง มันก็น่าดีใจที่สุดท้ายสามารถตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ เรียกว่ากลับมาจากป่าช้าพลางรอดพ้นจากความเดธห่าได้อย่างฝุดฝิด

แต่อีกอารมณ์หนึ่ง มันก็น่าเสียดายที่ถอนขนไก่ไม่สำเร็จ ทั้งๆ ที่มีโอกาสอันดีงามแล้วแท้ๆ แต่เพราะความคิดมากเกินไปของผู้เป็นกุนซือนี่แหละ

เฮ่อออออ..อ..อ..อ..อ