ดับมั่นอูไน! สิ่งที่อยากบอกหลัง ลิเวอร์พูล ขย่ม วิลล่า

และต่อไปคือสิ่งที่อยากจะบอก

1. พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง ว่าแล้วพลพรรคหงส์แดงที่ตกอยู่ในสถานการณ์ 'หลังกระแทกฝา' ก็เลยต้องเน้นกันเป็นพิเศษ

เรียกว่ากระเหี้ยนเลยดีกว่า แม้ช่วงแรกจะดูเกร็งๆ จนเกือบถูกทีมเยือนสอยประตูได้ก็ตาม เพราะหลังจากตั้งหลักได้ก็เดินหน้าบุกขย่มอยู่ข้างเดียว

2. นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะรูปแบบการเล่นของผู้มาเยือนด้วยแหละที่ดันมา 'เข้าทาง' ของหงส์แดง

ลิเวอร์พูล จากการทำงานเป็นซีซั่นที่ 2 ของ อาร์เน่อ ชล๊อต ไม่ชอบคู่แข่งที่ชวนทะเลาะด้วย 'บอลยาว'

แถมยังมีจุดอ่อนในการป้องกันลูกเซ็ตพีซ

ทว่า แอสตัน วิลล่า ไม่ใช่ทีมที่ใช้บอลยาวสักเท่าไหร่ มิซ้ำยังชอบเซ็ตเกมขึ้นมาจากในกรอบเขตโทษอีกตะหาก

แบบนี้ก็ 'หวานเจี๊ยบ' สิครับ

3. เรียนตามตรง อูไน เอเมรี่ เหมือนไม่ศึกษาคู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล

แทนที่จะเลียนแบบทีมที่เคยเอาชนะแชมป์เก่ามาก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาใช้วิธีไหนในการกำราบ กลับมั่นใจในสไตล์การเล่นของตัวเองมากเกินไป ทั้งๆ ที่ผูกปีแพ้ 'หงส์แดง' มาตลอด

ประตูแรกที่เสียเกิดจากความผิดพลาดของ เอมี่ มาร์ติเนซ ที่พยายามเซ็ตบอลในกรอบเขตโทษ แล้วดันจ่ายบอลให้ โม ซาล่าห์ ยิงจังหวะเดียวแบบดื้อๆ ซะอย่างนั้น !!!

4. หลังจากนำ 1-0 ในครึ่งแรก พลพรรคหงส์แดงก็เล่นแบบสบายๆ และผ่อนคลายขึ้นเยอะ

ว่าแล้วก็เน้นการครองบอลพลางหาจังหวะจู่โจมแบบรัดกุมจนมาได้ประตูขึ้นนำ 2-0

ทุกอย่างจบสิ้นลงตั้งแต่ตอนนั้น เพราะ แอสตัน วิลล่า ไม่สามารถครองบอลกดดันเจ้าบ้านได้เลย

5. กุญแจสำคัญสู่ชัยชนะอีกดอกหนึ่งของพวกพรี่ๆ คือการปรับทีมของท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยหงส์แดง

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในวันที่โรยรายังเหมาะกับตำแหน่งแบ็คซ้ายมากกว่า มิลอช เคอร์เคซ

อีกจุดหนึ่งคือการให้ โดมินิค โซบอสไล ในตำแหน่งเบอร์ 10 แทนที่ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ 

เกมนี้ 'โซโบ้' โดดเด่นมากในการขับเคลื่อน แถมการกลับมาของ ไรอัน กราเฟนแบร์ค ยังทำให้แดนกลางแน่นขึ้น และมีความสมดุลย์ขึ้นอย่างชัดเจน

ทันใดก็ขอบอกว่าดาวเตะเยอรมัน ค่าตัว 116 ล้านปอนด์ ตกที่นั่งลำบากแล้วล่ะ !!!