วิวัฒนาการของรองเท้าสตั๊ดพัฒนาไปไกลมาก โดยตอนนี้มีหลายยี่ห้อ และหลายรุ่นให้พิจารณา
แต่หลักๆ แล้วรองเท้าสตั๊ดจะแบ่งออกเป็นสองแบบคือแบบหุ้มข้อสั้น (Low-Cut Cleats) กับแบบหุ้มข้อกลาง (Mid-Cut Cleats)
แล้วแบบไหนดีกว่า และเหมาะกับนักฟุตบอลที่มีสไตล์การเล่นแบบไหน ? ลองไปพิจารณากันได้เลย
เพื่อความเร็วและความคล่องตัว
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อสั้น
ข้อดี: น้ำหนักเบาช่วยเพิ่มความเร็วและการเร่งความเร็ว ให้การเคลื่อนไหวเต็มรูปแบบสำหรับการเคลื่อนไหวซับซ้อน
ข้อเสีย: ให้การรองรับข้อเท้าน้อยมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการพลิกข้อเท้าหรือบาดเจ็บ
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อกลาง
ข้อดี: รองรับข้อเท้ามากกว่ารองเท้าหุ้มข้อสั้น อนุญาตให้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและทรงพลัง ป้องกันเศษวัสดุเช่นหญ้าเทียมเข้ารองเท้า
ข้อเสีย: อาจจำกัดความคล่องตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแบบหุ้มข้อสั้น วัสดุที่เพิ่มขึ้นทำให้รู้สึกหนักขึ้น
เพื่อการรองรับและป้องกันการบาดเจ็บ
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อสั้น
ข้อดี: น้ำหนักเบาและให้ช่วงการเคลื่อนไหวที่กว้าง เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเปลี่ยนทิศทางและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
ข้อเสีย: รองรับข้อเท้าน้อยมากหรือแทบไม่มี ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ข้อเท้า
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อกลาง
ข้อดี: รองรับข้อเท้า ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ ให้ความรู้สึกเหมือนมีการ "ล็อกข้อเท้า" ทำให้รองเท้ารู้สึกกระชับและมั่นคงบนเท้า
ข้อเสีย: ยืดหยุ่นน้อยกว่ารองเท้าสตั๊ดแบบหุ้มข้อสั้น
ประเภทผู้เล่นและตำแหน่งเหมาะกับสตั๊ดแบบไหน
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อสั้น : เหมาะกับผู้เล่นในตำแหน่งปีก, กองหน้า, กองกลางตัวรุก, ฟูลแบ็ก โดยนักเตะเหล่านี้ให้ความสำคัญกับความเร็ว, ความคล่องตัว และการควบคุมบอลใกล้เท้า ที่สำคัญพวกเขาชื่นชอบรองเท้าที่เรียบง่าย และต้องการความยืดหยุ่นของข้อเท้ามากที่สุด
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อกลาง : เหมาะกับนักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง, กองกลางตัวรับ, เซนเตอร์แบ็ก หรือผู้เล่นที่ต้องการความกระชับพิเศษและให้ความรู้สึกเหมือนใส่ “ถุงเท้า” สมัยใหม่ นอกจากนี้นักเตะที่เพิ่งฟื้นตัวจากปัญหาบาดเจ็บข้อเท้าเล็กน้อยและต้องการการรองรับบางส่วนโดยไม่ต้องใช้เฝือกข้อเท้า
ความแตกต่างด้านการออกแบบและวัสดุ
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อสั้น : มักใช้หนังแท้/หนังสังเคราะห์ หรือผ้าตาข่าย (mesh) แบบบาง เน้นน้ำหนักเบาและสัมผัสบอลที่ดี
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อกลาง : มักใช้ขอบถัก (เช่น Flyknit, Primeknit) หรือขอบนีโอพรีน มีความเชื่อมต่อระหว่างขอบรองเท้ากับตัวรองเท้าส่งผลต่อความกระชับและความสบาย
- โครงปุ่มรองเท้าสตั๊ด : ความแข็งของพื้นรองเท้า และ การรองรับแรงกระแทก เป็นองค์ประกอบที่แยกออกจากกัน และสามารถพบได้ในรองเท้าทั้งแบบหุ้มข้อสั้นและหุ้มข้อกลาง
บทสรุป
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อสั้น : ให้การเคลื่อนไหวที่คล่องตัวสูงสุด น้ำหนักเบา และสัมผัสบอลที่เป็นธรรมชาติที่สุด
- สตั๊ดแบบหุ้มข้อกลาง : ให้การกระชับและความมั่นคงที่รู้สึกได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยแทบไม่เพิ่มน้ำหนักในรองเท้ารุ่นใหม่ ๆ
ดังนั้น สิ่งสำคัญในการเลือกรองเท้าสตั๊ดต้องดูตามลักษณะการเคลื่อนไหวของผู้ใช้, ตำแหน่งที่เล่น, ประวัติอาการบาดเจ็บข้อเท้า และความพอดีของรองเท้า โดยเฉพาะการล็อกส้นเท้าและความสบายในการสวมใส่
ส่วนรุ่นหรือแบรนด์ไหนที่อยากซื้อ ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลของผู้ใช้เท่านั้น !!!
✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄