อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของมิเกล อาร์เตต้า กำลังพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด และมีศักยภาพมากพอที่จะลุ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างไรก็ตามมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้ "ปืนใหญ่" ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้งก็ได้
ทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" เคยโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในช่วงต้นซีซั่นจาก 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่บทสรุปสุดท้ายพวกเขาต้องพบกับความผิดหวังกลายเป็นรองแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน
ดังนั้นมีปัจจัยหลายประการที่ทำให้ อาร์เซน่อล ต้องพบกับความเจ็บปวด และอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ ยอดทีมแห่งถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไม่สามารถก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ลีกได้อย่างที่ปรารถนาในฤดูกาลนี้
1. ขาดขุมกำลังเชิงลึกทดแทนแข้งคีย์แมนเจ็บ
แม้ว่า 11 ผู้เล่นตัวจริงของ อาร์เซน่อล จะมีคุณภาพสูง แต่สิ่งที่น่ากังวลคือคุณภาพของทีมที่ลดลงทันทีเมื่อขาดผู้เล่นหลัก สวนทางกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถหมุนเวียนนักเตะได้อย่างราบรื่นแทบไม่กระทบกับประสิทธิภาพของทีมเลย
จะเห็นได้ว่าลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า มักประสบปัญหาเมื่อจำเป็นต้องพักหรือเปลี่ยนผู้เล่นแกนหลัก หาก บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดอการ์ด หรือ เดแคลน ไรซ์ ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการล้าในช่วงฤดูกาลอันยาวนาน ความไหลลื่นในเกมรุกและการควบคุมแดนกลางของ "ปืนใหญ่" อาจลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งสถานการณ์อาจจะน่าเป็นห่วงถ้าหากแนวรับตัวหลักอย่าง กาเบรียล มากัลเญส หรือ วิลเลียม ซาลิบา มีปัญหาบาดเจ็บ และต้องพักยาว ทีมจะขาดตัวสำรองที่ไว้ใจได้ทันที แม้ คริสเตียน มอสเกร่า จะทำผลงานได้ดี แต่ก็ยังไม่สามารถพึงพาได้
2. การรักษาสมดุลในเกมลีกกับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
สำหรับฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล ต้องบริหารจัดการโปรแกม พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งมีระดับความเข้มข้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
ช่วงกลางสัปดาห์ "ปืนใหญ่" มีโปรแกรมลงเล่นเกมฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรป ซึ่งจะเป็นบททดสอบในเรื่องสภาพร่างกายและจิตใจของขุมกำลังอาร์เซน่อลอย่างแท้จริงว่าจะมีความทนทานมากแค่ไหน
อาร์เตต้า สร้างทีมคนหนุ่ม เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น แต่การรักษาระดับพลังงานอย่างต่อเนื่องในหลายรายการถือเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก ความเหนื่อยล้า, การเดินทาง และความแน่นของโปรแกรม อาจทำให้พวกเขาพลาดแต้มในลีกได้ โดยเฉพาะหลังจากลงเล่นในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่หนักหน่วง
3. รับแรงกดดันช่วงท้ายซีซั่นไม่ได้
ความล้มเหลวของ อาร์เซน่อล ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาลที่แล้วแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทีมยังขาดประสบการณ์ในการรับมือกับความกดดันของการลุ้นแชมป์
แม้ว่า "เดอะ กันเนอร์ส" จะเรียนรู้จากบทเรียนดังกล่าว แต่การจัดการกับความคาดหวังตลอด 38 นัดในเกมลีกตลอดทั้งซีซั่น ต้องใช้ความเยือกเย็น, วุฒิภาวะ และความแข็งแกร่งทางจิตใจ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาในทีมนี้
สโมสรอย่างแมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ผ่านสถานการณ์แบบนี้มาหลายครั้ง จึงรู้ว่าต้องตอบสนองอย่างไรเมื่อผลการแข่งขันไม่เป็นไปตามที่หวัง ส่วนแกนหลักของอาร์เซน่อล ที่ยังหนุ่ม อาจต้องยกระดับด้านจิตวิทยาเมื่อเจอกับแรงกดดันในการลุ้นแชมป์
4. ความคงเส้นคงวาสำคัญมาก
การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ไม่ใช่แค่ทำผลงานให้ดี แต่คุณต้องสร้างผลงานในระดับเพอร์เฟกต์เท่านั้น ลองพิจารณาฟอร์มของ แมนเชสเตอร์ ซิ ตี้ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเห็นได้ว่าพวกเขาประสบความสำเร็จเพราะการเล่นที่สม่ำเสมอ และคงเส้นคงวา
ก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่าทัพ "เรือใบสีฟ้า" สามารถรักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ แม้จะอยู่ในช่วงที่เจอกับแรงกดดันจากการโดนคู่แข่งไล่บี้ในการลุ้นแชมป์ แต่พวกเขาไม่เคยแสดงอาการเป๋ให้เห็น
อาร์เซน่อล อาจเริ่มต้นฤดูกาลนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง แต่การเทียบฟอร์มปลายฤดูกาลกับ แมนฯ ซิตี้ ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง แม้เพียงเสมอสองสามนัดหรือฟอร์มตกชั่วคราว ก็อาจทำให้ความหวังในการลุ้นแชมป์ของพวกเขาสั่นคลอนได้ หาก "เรือใบสีฟ้า" สามารถรักษาจังหวะฟอร์มได้อย่างต่อเนื่อง
5. บริหารสภาพจิตใจและความคาดหวัง
สามฤดูกาลที่ผ่านมา อาร์เซน่อล มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ลีกในช่วงท้ายฤดูกาล แต่เมื่อแรงกดดันและความคาดหวังในการลุ้นแชมป์ทวีความเข้มข้นมากขึ้น มันส่งผลกระทบกับสภาพจิตใจของนักเตะ "เดอะ กันเนอร์ส" และนำไปสู่ความผิดหวังเมื่อจบซีซั่น
ในทุกๆ เกมมีความหมายอย่างมาก และถ้าหากทีมได้แค่ผลเสมอ หรือแพ้มันยิ่งส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของนักเตะมากกขึ้น และกัดกร่อนความเชื่อมั่นจนทำให้ฟอร์มการเล่นของทีมย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง
การรักษาความมั่นใจและสมาธิท่ามกลางเสียงรบกวนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะสำหรับทีมชุดนี้ที่เต็มไปด้วยแข้งพลังหนุ่ม หากผลการแข่งขันเริ่มสะดุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ภาวะทางจิตใจจากความคาดหวังก็อาจกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจที่นำไปสู่ความผิดพลาดอีกครั้ง
✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄