แสงสีแดง, สเต๊กชิ้นโต, นมดิบ และความรัก! เคล็ดลับความแกร่ง เออร์ลิง ฮาลันด์

ฮาลันด์ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก ไม่ว่าจะเรื่องโภชนาการ, การพักผ่อน, การฝึกซ้อม หรือแม้แต่ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว เขาทำทุกอย่างด้วยความรับผิดชอบเพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการลงสนามอยู่เสมอ 

ผลงานในช่วงที่ผ่านมาของนักเตะถือเป็นบทพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับฤดูกาลนี้ ฮาลันด์ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่ฟิตมากกว่าเดิมหลายเท่า และมันนำไปสู่ฟอร์มกระซวกตาข่ายที่ร้อนแรงเกินห้ามใจ

หลายคนอยากรู้มากๆ ว่า ฮาลันด์ มีเคล็ดลับยังไงถึงได้เก่งขนาดนี้ และด้วยเหตุนี้เขาก็เลยเปิดโอกาสให้แฟน ๆ ได้เห็นวิถีชีวิตเบื้องหลังพลังการทำประตูแบบเจาะลึกทุกแง่มุม ผ่านภาพยนตร์สารคดีที่เปิดตัวช่องยูทูบใหม่ของเจ้าตัวแล้ว 

สำหรับวีดิโอดังกล่าว ฮาลันด์ ได้พาบรรดาแฟนคลับของเขาชมกิจวัตรประจำวันซึ่งรวมถึงความพิถีพิถันอย่างน่าทึ่งในการทำอาหาร, การทำกายภาพบำบัดส่วนตัว และพฤติกรรมแปลกแต่ได้ผลที่ช่วยให้ร่างกายของเขาทำงานได้สูงสุด

วิธีคิด, ความมีวินัย และรายละเอียดเล็กๆ อะไรบ้างที่ทำให้ ฮาลันด์ กลายเป็นเครื่องจักรทำประตูของวงการฟุตบอลยุคนี้ 

1. เริ่มต้นวันด้วยความเรียบง่าย

เริ่มต้นวันใหม่ของ ฮาลันด์ ที่บ้านพักสุดหรู ในอัลเดอร์ลี่ย์ เอดจ์ เมืองเชสเชียร์ เขาจะเปิดฉากด้วยมื้อเช้าที่แสนเรียบง่ายแต่พิถีพิถัน ไข่บนขนมปังซาวโดว์ และกาแฟใส่น้ำเชื่อมเมเปิ้ล

"กาแฟคือซูเปอร์ฟู้ด ถ้าดื่มให้ถูกวิธี" ฮาลันด์ กล่าว "ขึ้นอยู่กับคุณภาพ, เวลา และวิธีดื่ม ผมใส่นมดิบลงไปนิดหน่อย มันก็เป็นซูเปอร์ฟู้ดเหมือนกัน"

นอกจากนั้น เจ้าตัวยังแนะนำให้ "ออกไปรับแสงแดดยามเช้า" เพื่อกระตุ้นร่างกายก่อนเริ่มวันใหม่ พร้อมเพลิดเพลินกับขนมปังซาวโดว์อบใหม่ทุกเช้า

2. ฟื้นฟูและรักษาความยืดหยุ่น

ช่วงสายๆ มาริโอ ปาฟุนดี นักกายภาพของแมนฯ ซิตี้ เดินทางมาทำกายภาพให้ถึงบ้าน ซึ่ง ฮาลันด์ เรียกเขาเล่นๆ ว่า "อิตาเลียนตัวแสบ"

สตาร์ทีมชาตินอร์เวย์ เผยว่า ความยืดหยุ่นบริเวณขาหนีบและสะโพกคือ "กุญแจสำคัญ" ที่ช่วยให้ยิงประตูในจังหวะยากๆ ได้ "คุณต้องมีความคล่องตัวและยืดหยุ่น ถึงจะทำประตูแบบนั้นได้ เราจึงต้องรักษามันไว้"

นอกจากนี้ ยังมีการใช้ การบำบัดด้วยแสงสีแดง (Red Light Therapy) เพื่อช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อ, ลดการอักเสบ และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต "ตอนนี้ไม่มีแดด ผมเลยใช้เครื่องนี้แทน เพื่อให้ร่างกายได้รับแสงสีแดงเหมือนจากดวงอาทิตย์บริเวณแผ่นหลังและทั่วร่าง"

3. โภชนาการจากฟาร์ม

ระหว่างเดินทางไปซ้อม ฮาลันด์ จะแวะซื้อ นมดิบ, สเต๊ก และน้ำผึ้งแท้ จากฟาร์มกรีนโอ๊คในเชสเชียร์ ขณะที่มื้อกลางวันของเขาคือ ปลากะพงขาว, หน่อไม้ฝรั่ง และข้าวผัดไข่ ก่อนลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม

หลังกลับถึงบ้าน เขาทำอาหารเย็นร่วมกับ อิซาเบล เฮาเซ็งจ์ โยแฮนเซ่น แฟนสาว โดยเมนูหลักมักจะเป็นสเต๊กโทมาฮอว์กชิ้นยักษ์ ย่างบนเตาถ่าน พร้อมกับมันฝรั่ง, สลัดมะเขือ และหัวหอม ซึ่งทั้งสองคนใช้มือเปิบกันแบบสบายๆ 

4. ฟื้นตัวทุกวันด้วย "น้ำแข็งและความอุ่น"

กิจวัตรหลังอาหารเย็นคือการแช่ตัวในอ่างน้ำเย็น (Ice Bath) และ ซาวน่า "ผมพยายามทำทั้งสองอย่างแทบทุกวัน อย่างน้อยห้าครั้งต่อสัปดาห์" ฮาลันด์ กล่าว โดยขั้นตอนนี้ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วและรักษาสมดุลของร่างกายก่อนวันใหม่

5. ความรักกับแฟนสาวผู้เข้าใจ

การซ้อมที่ดี, โภชนาการที่เหมาะสม และการพักผ่อนที่เพียงพอ อาจจะช่วยเรื่องสภาพร่างกาย แต่ถ้าสภาพจิตใจดียิ่งส่งเสริมทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดย ฮาลันด์ เปิดเผยให้เห็นถึงความรักที่อบอุ่นกับสาวโยแฮนเซ่น ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่พวกเขายังเป็นนักเตะในอะคาเดมี่สโมสร ไบรน์

ฮาลันด์ กล่าวแบบติดตลกว่า "เธอเป็นนักฟุตบอลที่เก่งใช้ได้เลย เธอเล่นฟุตบอลคล้ายๆ กับ ไรอัน กิ๊กส์ เล่นปีกซ้ายเลี้ยงแล้วก็เปิดบอลเข้าไปที่หน้าประตู" โดยทั้งคู่เริ่มคบกันตอนที่ฝ่ายชายย้ายไปอยู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และตอนนี้ก็มีพยานรัก 1 คนแล้ว 

6. ความทรงจำและความขี้เล่น

ฮาลันด์ พูดถึงช่วงที่เคยทำเพลงกับเพื่อนๆ ได้แก่ เอริค แซนด์เบิร์ก กับ เอริค โบเธม ในนามวง "ฟลอว์ คิงส์" (Flow Kingz)  ซึ่งเป็นแนวแร็พพร้อมหัวเราะเมื่อแฟนสาวเผยว่า "ตอนแรกฉันชอบเพื่อนของคุณ แต่เปลี่ยนใจมาชอบคุณแทน... ฉันเชื่อว่ามันคือพรหมลิขิต"

✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄