โฟลเรียน เวียร์ตซ์ ในมุมมองของ 'เด็กผี' อย่างผม
1. ก่อนอื่นขอบอกว่าเรื่องของสถิติ และตัวเลข มันคือข้อมูลที่นำมาประกอบการวิเคราะห์ เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ และมองเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
เพียงแต่มันก็ไม่ได้สะท้อนความจริงทั้งหมดเช่นกัน
ปัญหาคือในโลกลูกหนังยุคปัจจุบันดันให้ความสำคัญ และยึดติดในเรื่องของสถิตและตัวเลขต่างๆ มากเกินไป
นักเตะประเภทตัวรุกที่พิ่งย้ายทีมแล้วดันยิงประตู หรือแอสซิสต์ไม่ได้โดยเร็วจึงมักจะถูกจับมาล้อเลียนด้วยตัวเลข 007 008 009 อย่างสนุกสนาน
2. โฟลเรียน เวียร์ตซ์ ก็เช่นกัน
โทษฐานของดาวเตะระดับพระกาฬ ผู้เคยอาละวาดสร้างความเดือดร้อนให้คู่แข่งบนเวทีบุนเดสลีกา สังวาสกับค่าตัวที่กระฉูดแตกถึง 116 ล้านปอนด์ มันทำให้ความคาดหวังในตัวเขาสูงเป็นพิเศษระดับทะลุเพดานห้องน้ำ
ต่อเมื่อลงเล่นไปหลายเกมแล้วยังทำประตูด้วยตัวเอง หรือจ่ายบอลสวยๆ ให้เพื่อนกระทุ้งตาข่ายไม่ได้ เขาจึงถูกจ้องจับผิดในเรื่องนี้มากกว่ามองฟอร์มการเล่นโดยรวม
3. ฟอร์มการเล่นโดยรวมของดาวเตะวัย 22 กะรัตผู้นี้ นับตั้งแต่สับตีนมาสวมเครื่องนุ่งห่มหงส์แดงก็ไม่ถึงขนาดย่ำแย่ และน่าผิดหวังอะไรมากนะครับ ขอโทษ
การมีส่วนร่วมกับเกม การเคลื่อนที่ของเขา การสร้างสรรค์เกมรุก การผ่านบอลสั้นๆ การเปิดบอลยาว การแทงทะลุช่อง หรือการหาจังหวะสับไก มันสามารถคุกคาม และสร้างความลำบากให้คู่แข่งแบบมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
พูดง่ายๆ ว่าจัดเป็นตัวอันตรายคนหนึ่ง
ทว่าเพราะดันยิงประตูหรือทำแอสซิสต์ไม่ได้สักทีนี่แหละทำให้สิ่งที่เขาสำแดงออกมาบนฟลอร์หญ้าในแต่ละเกมนั้นถูกมองข้าม
บ่อยครั้งที่อุตส่าห์ผ่านบอลได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว แต่เพื่อนร่วมทีมดันจบไม่ลง ไม่เด็ดขาด หรือผิดพลาดซะอย่างนั้น
แอสซิสต์แรกจึงยังไม่มาสักที (ไม่นับเกมแรกที่ลงเล่นใน คอมมิวนิตี้ ชิลด์)
หรือบางครั้งอุตส่าห์พาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว เพื่อนกลับไม่ยอมส่งบอลให้ดั่งถูกนรกชังและสวรรค์แกล้ง (ว่าไปนั่น 555)
ถึงบอกว่าอย่าไปยึดติดกับสถิติและตัวเลขมากนัก เพราะมันไม่ได้สะท้อนความจริงทั้งหมด
4.ทีนี้มาว่ากันถึงจุดบกพร่องบ้าง
ด้วยความที่สมรภูมิแข้งพรีเมียร์ลีกมีอัตราความหนักหน่วงและรวดเร็วระดับ 80 ตีนถีบ เหมือนดาวเตะที่รูปร่างไม่ได้สูงใหญ่หรือบึกบึนมากนักผู้นี้จะมีปัญหาเรื่องแรงปะทะ
แล้วไหนจะเรื่องของการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่น และการผสมผสานให้เข้ากันของนักเตะหงส์แดงชุดปัจจุบันอีก
...ว่าแล้วผมก็นึกถึงอดีตดาวเตะของ แมนยูไนเต็ด คนหนึ่งอย่าง ชินจิ คางาวะ ที่ก่อนขายวิญญาณให้ปีศาจแดงเคยโดดเด่นเป็นสง่ามากในตำแหน่งเบอร์ 10 กับ ดอร์ทมุนด์ จากการทำงานของ เจอร์เก้น คล็อปป์
ต่อเมื่อมาอยู่ในทีมที่มีความเป็นพญายักษ์มากขึ้น และในฟุตบอลลีกที่ดิบเถื่อนถึงแก่นที่สุดแห่งเมืองมนุษย์
เพลย์เมคเกอร์ชาวอาทิตย์อุทัยผู้นี้ถูกอัดถูกชนจนกระเด้งกระดอนยิ่งกว่าลูกท้อของโมโมทาโร่จนต้องถูกถ่างออกไปยืนทางด้านกว้าง
แม้ว่าจะมีส่วนกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลอำลาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สุดท้ายก็ไปไม่รอดจนต้องซมซานกลับไปค้าแข้งที่ เยอรมัน เหมือนเดิม หลังย้ายมาได้แค่ 2 ซีซั่นเท่านั้น
5. กลับมาที่เรื่องของสถิติ และตัวเลขอีกครั้ง
เกมล่าสุด โฟลเรียน เวียร์ตซ์ ทำถึง 2 แอสซิสต์ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล บุกถล่ม แฟร้งค์เฟิร์ต 5-1 เมื่อบวกกับอีก 1 แอสซิสต์ ในศึกชิงโล่การกุศล รวมกันเป็นการทำ 3 แอสซิสต์
แต่หากมองลึกลงไปในรายละเอียด คุณจะพบว่า 2 ใน 3 แอสซิสต์ที่เขาทำได้คือการจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมใกล้ๆ แล้วเพื่อนเอาไปทำต่อเอง
ใน คอมมิวนิตี้ ชิลด์ จ่ายให้ อูโก้ เอกิติเก้ แถวริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่กองหน้าชาวฝรั่งเศสจะลากตัดเข้าไปหาเหลี่ยมสับไกเอง
ส่วนในเกมล่าสุดก็แค่แปะบอลใกล้ๆ ให้ ดอม โซโบ้ก่อนที่มิดฟิลด์ชาวฮังการี่จะเอาบอลไปตะบันจากริมเขตโทษตุงตาข่าย
เห็นไหมครับว่าไอ้ 3 แอสซิสต์ที่ทำได้ มันก็ไม่ได้สะท้อนความจริงออกมาทั้งหมด
เพราะหลายจังหวะที่ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ บรรจงเปิดบอลสวยๆ ด้วยความเฉียบคมระดับบาดหินขาด แต่เพื่อนดันเอาโอกาสไปยัดลงโถส้วม มันจัดเป็นการผ่านบอลที่มีคุณภาพมากกว่า 2 ใน 3 แอสซิสต์ที่เขาทำได้เสียอีก !!!