เจอร์เก้น คล็อปป์ มองทีม แมนยูไนเต็ด ชุดสุดท้ายภายใต้การคุมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อปี 2013 ไม่มีอนาคตตั้งแต่แรก แม้จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ก็ตาม พร้อมยืนยันยังไม่คิดกลับมารับงานคุมทีม แม้ตามทฤษฎีอาจรีเทิร์น ลิเวอร์พูล ได้ในอนาคตก็ตาม
เจอร์เก้น คล็อปป์ กล่าวว่าทีมชุดสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นชุดที่ดูไม่มีอนาคตว่าจะประสบความสำเร็จได้เลย
เฟอร์กูสัน วางมือจากการคุมทีมตอนจบฤดูกาล 2012-13 ซึ่งซีซั่นนั้นเขาพา แมนยูไนเต็ด คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองได้ด้วย แต่หลังจากนั้น "ปีศาจแดง" ก็ไม่เคยได้แชมป์ลีกอีกเลย
ทั้งนี้ ล่าสุด คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์หลายประเด็นกับรายการพ็อดแคสต์ชื่อ Diary of a CEO ซึ่งช่วงหนึ่งเขาพูดว่า "ทีมชุดสุดท้ายที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมและนำแชมป์ลีกมาครองได้ในปี 2013 มันมีชะตากรรมที่ต้องล้มเหลวในอนาคต มันไม่ใช่ทีมที่คุณจะสร้างอนาคตกับมันได้"
คล็อปป์ บอกด้วยว่าตามทฤษฎีแล้วตนอาจจะกลับไปรับงานคุม ลิเวอร์พูล ก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีความคิดที่จะหวนทำงานกุนซือเลยหลังกำลังมีความสุขกับตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาฟุตบอลทั่วโลกของ เรด บูลล์ "ผมเคยพูดว่าผมจะไม่มีทางรับงานคุมทีมไหนอีกแล้วใน อังกฤษ ดังนั้นนั่นหมายความว่าถ้าผมจะกลับไปทำงานในประเทศนั้นมันก็จะเป็นกับ ลิเวอร์พูล ใช่ ตามทฤษฎีแล้วมันเป็นไปได้"
"อย่างไรก็ตาม ผมชอบสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ในตอนนี้ ผมไม่ได้คิดถึงการคุมทีมเลย ผมหมายถึงทุกวันนี้ผมก็ยังทำหน้าที่แบบโค้ชอยู่แหละ เพียงแต่ไม่ได้เป็นการฝึกสอนนักเตะก็เท่านั้น และตอนนี้ผมก็ไม่ได้คิดถึงอดีตแบบนั้นเลย"
"ผมไม่ได้คิดถึงการต้องยืนจากฝนเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งหรือ 3 ชั่วโมง, ไม่ได้คิดถึงการต้องร่วมงานแถลงข่าวถึง 3 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์ หรือการต้องให้สัมภาษณ์ 10-12 ครั้งภายในสัปดาห์เดียวกัน ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องพรรค์นั้นสักนิด"
"ผมไม่ได้คิดถึงบรรยากาศของห้องแต่งตัวมากเท่าไหร่ ผมเคยคุมทีมมาประมาณ 1,080 เกมเห็นจะได้ ดังนั้นก็ต้องบอกว่าที่ผ่านมาผมได้อยู่ในห้องแต่งตัวมาบ่อยแล้ว ตอนนี้ผมอายุ 58 ปี ซึ่งจากมุมหนึ่งผมอาจจะดูแก่แล้ว แต่อีกมุมหนึ่งก็สามารถมองได้ว่ายังไม่แก่เหมือนกัน ถ้าคุณถามว่าผมอาจจะทำการตัดสินใจ (เรื่องการกลับไปคุมทีม) ในช่วงไม่กี่ปีต่อจากนี้รึเปล่าแล้วน่ะผมก็ตอบได้เพียงว่าผมไม่รู้ เอาเป็นว่าถ้าต้องตัดสินใจในวันนี้น่ะผมจะไม่กลับไปทำงานโค้ชอีกแล้ว แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ผมยังได้ถูกบีบให้ต้องรีบตัดสินใจแบบนั้น ผมสามารถรอดูได้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง"