แฮร์รี่ แม็กไกวร์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นนักเตะที่มีประโยชน์สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมีคุณค่าอย่างมากกับสโมสรนับตั้งแต่ย้ายจาก เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2019
ปราการหลังหัวแตงโม ทำหน้าที่ได้อย่างแข็งแกร่งในเกมรับ โดยสามารถรับมือกับแนวรุกของ "หงส์แดง" ได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันยังขึ้นไปสวมบทฮีโร่โขกประตูชัยให้กับต้นสังกัดด้วย
สำหรับประตูที่ แม็กไกวร์ ทำได้ในแอนฟิลด์ ตอนนี้ทำให้เขาสะสมจำนวนประตูที่ยิงให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้ว 17 ลูกจากการเล่นในทุกรายการ
ตอนนี้ลองมาพิจารณาว่า แม็กไกวร์ อยู่ในอันดับใดเมื่อเทียบกับกองหลังที่ทำประตูได้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ฤดูกาล 1992/93
1. เดนิส เออร์วิน
หนึ่งในกองหลังที่ทำประตูได้เก่งที่สุดในยุครุ่งเรืองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คือ เออร์วิน โดยเขาทำสถิติเอาไว้ถึง 33 ประตูในช่วงระหว่างที่ค้าแข้งกับ "ผีแดง" พร้อมกับคว้าแชมป์มากมายเกือบ 20 ถ้วย ที่จำนวน 33 ลูกที่ทำได้มีถึง 29 ประตูเกิดขึ้นหลังปี 1992 ซึ่งนั่นทำให้เขารั้งอันดับ 1 ในช่วงเวลานั้นได้อย่างเหนือชั้น
2. เนมานย่า วิดิช
หนึ่งในเซนเตอร์แบ็กสุดแกร่งที่เป็นคู่หูกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ในช่วงปลายยุครุ่งเรืองของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นก็คือ วิดิช ที่ถูกยกให้เป็นตำนานยุคใหม่ของสโมสร นอกจากการเข้าปะทะที่หนักแน่นแล้ว ความสามารถในการทำประตูของเขายังช่วยเพิ่มชื่อเสียงและความนิยมในหมู่แฟนผีโปรเจกต์อีกด้วย โดยแนวรับชาวเซอร์เบีย ทำไป 21 ประต และในจำนวนมีถึง 5 ประตูที่เกิดขึ้นในฤดูกาล 2010/11 ซึ่งทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
3. คริส สมอลลิ่ง
หลายคนอาจลืมไปแล้วถึงผลงานที่ สมอลลิ่ง เคยสร้างไว้ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเซ็นเตอร์แบ็กรายนี้ซึ่งติดทีมชาติอังกฤษไป 31 นัด ลงเล่นให้ "ปีศาจแดง" มากกว่า 300 เกม ตลอดช่วงเวลานั้นนักเตะทำได้ทั้งหมด 18 ประตู โดยหนึ่งในผลงานเด่นคือการยิงคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ต้นสังกัดเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 เมื่อปี 2015
4. สตีฟ บรูซ
อาจถือเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็กที่มีทักษะและเทคนิคดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาของแมนฯ ยูฯ โดย บรูซ ทำได้ถึง 50 ประตูในช่วงที่เขาเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมากกว่าครึ่งหนึ่งของประตูเหล่านั้นเกิดขึ้นก่อนฤดูกาล 1992 แต่เขาก็ยังยิงเพิ่มอีก 17 ประตูหลังจากนั้น
=4 แฮร์รี่ แม็กไกวร์
ประตูชัยของ แม็กไกวร์ ในเกมกับ ลิเวอร์พูล ทำให้เขามีสถิติเท่ากับ บรูซ ตั้งแต่ปี 1992 อยู่ที่ 17 ประตู เขามักจะอยู่ในกรอบเขตโทษของคู่แข่งเมื่อต้องการประตู และในเกมยูโรปา ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง ฤดูกาล 2024/25 นักเตะทั้งทำประตูและแอสซิสต์ในชัยชนะ 5-4 หลังต่อเวลา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประตูสำคัญที่สุดของเขาเทียบเท่ากับประตูที่ยิงให้ ลิเวอร์พูล
6. จอห์น โอเช
โอเช มีความคล้ายคลึงกับ แม็กไกวร์ ตรงที่เขาถูกปรับตำแหน่งเมื่อทีมต้องการประตู เจ้าตัวมักทำประตูสวยๆ ได้หลายลูกจากทั้งหมด 15 ประตู รวมถึงการชิพบอลข้ามผู้รักษาประตูในเกมกับ อาร์เซน่อล ซึ่งเขาเคยบอกว่านั่นคือประตูโปรดของเขาในสีเสื้อยูไนเต็ด
7. แกรี่ พัลลิสเตอร์
หนึ่งในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กแมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง พัลลิสเตอร์ ทำได้ 15 ประตูในช่วงเวลาที่อยู่กับสโมสร จากจำนวนประตูเหล่านั้น มี 10 ประตูเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นฤดูกาล 1992 รวมถึงผลงานเด่นที่สุดที่ยิงได้ 4 ประตูในฤดูกาล 1994/95
=7. มิกาแอล ซิลแวสตร์
ซิลแวสตร์ ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งหมด 361 เกม นักเตะเล่นทั้งตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กและแบ็กซ้าย สถิติประตูและแอสซิสต์ของเขาสะท้อนถึงบทบาทนั้น โดย ดาวเตะชาวฝรั่งเศส ทำแอสซิสต์ได้ 23 ครั้งตลอดเวลาที่อยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และยิงประตู 10 ลูก
=7. ปาทริซ เอวร่า
อดีตแบ็กซ้ายของ แมนฯ ยูฯ อีกคนอย่าง เอวร่า ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกสำหรับตำแหน่งนี้ โดยในยุครุ่งเรืองของสโมสร ฟูลแบ็กเลือดเฟร้นช์ ยิงได้ 10 ประตู โดยมีเพียง 3 ประตูใน 5 ฤดูกาลแรก จากนั้นเขาทำได้ 4 ประตูในฤดูกาล 2013/14 และอีก 3 ประตูในฤดูกาลถัดมา
10. รอนนี่ ยอห์นเซ่น
กองหลังชาวนอร์เวย์ อย่าง ยอห์นเซ่น ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งหมด 150 เกม และยิงได้ 9 ประตู โดยผลงานที่ดีที่สุดของเขาคือการทำ 3 ประตูในฤดูกาล 1998/99 จากการลงเล่นเพียง 22 เกมในพรีเมียร์ลีก
=10. ดีโอโก้ ดาโลต์
มีความเป็นไปได้สูงที่ ดาโลต์ จะขึ้นอันดับสูงกว่านี้เมื่อจบอาชีพกับยูไนเต็ด โดยฟูลแบ็กสารพัดประโยชน์ชาวโปรตุกีส ปัจจุบันทำได้เท่ากับ ยอห์นเซ่น ที่ 9 ประตู แต่ 3 ประตูเกิดขึ้นในฤดูกาล 2024/25 ชี้ให้เห็นว่าเขาน่าจะยิงเพิ่มได้อีกในทีมของ รูเบน อโมริม