เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า
1. เวย์น รูนี่ย์ ออกมาพูดถึงการขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2011-12 ที่ต้องตัดสินกันในนัดสุดท้าย
'เสี่ยหมู' แอบสงสัยว่า ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส เหมือนจะแกล้งปล่อยให้ แมนซิตี้ ยิงแซงเป็น 3-2 จนคว้าแชมป์ ด้วยผลต่างประตูได้เสียเหนือกว่า แมนยูไนเต็ด ที่บุกเฉือน ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ในวันเดียวกัน
ด้วยกังขาว่า 2 ประตูสุดท้ายที่เสีย แพ็ดดี้ เคนนี่ นายทวารของ คิวพีอาร์ น่าจะทำได้ดีกว่านี้หรือเปล่า ???
และสงสัยต่อมาว่าทำไม โจอี้ บาร์ตัน ของทีมทหารเสือราชีถึงออกลูกเกเรจนโดนใบแดงแบบโง่ๆ
คนหมูเดือดเกิดอาการพ่อไม่ตุ้มว่าทำไม ควีนส์ พาร์ค ถึงหลับหูหลับตาเตะบอลสาดไปให้ แมนซิตี้ ตอนที่โดนตีเสมอ 2-2 จนโดนบุกกลับมาแล้วเสียประตู ทั้งที่น่าจะเก็บบอลไว้กับตัวจนหมดเวลาซะมากกว่า
แต่ที่เคืองที่สุดคือเขาทำไมอดีตดาวเตะหงส์แดงของคู่แข่งอย่าง ฌิบริล ซิสเซ่ ถึงไปฉลองกับนักเตะตราเรือสำเภาหลังจบเกม ???
เวย์น รูนี่ย์ ตั้งข้อสังเกตว่า คิวพีอาร์ คงอยากให้ แมนซิตี้ คว้าแชมป์แบบเต็มประดา เพราะพวกเขามีอดีตนักเตะของทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์ในทีมอีกหลายคน นอกจาก โจอี้ บาร์ตัน แล้ว ยังมี ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ กับ เนดุม โอนูโอฮา
2. เมื่อไม่กี่วันก่อน ฌิบริล ซิสเซ่ เพิ่งออกมาตอบโต้ในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร โฟร์ โฟร์ ทู
อดีตหัวหอก ลิเวอร์พูล เผยว่าไอ้ที่ตัวเขาไปฉลองชัยกับนักเตะ แมนซิตี้ จริงๆ แล้ว นั่นคือการไปดีใจกับ ซามีร์ นาสรี่ ซึ่งเป็นเพื่อนรัก และเป็นชาวฝรั่งเศสต่างหากเล่าโว้ยยยย !!!
แล้วไอ้ที่เห็นว่าหน้าระรื่น เจ้าตัวเผยว่าเป็นเพราะทีมคิวพีอาร์ของเขา รอดตกชั้นแน่นอนแล้ว เพราะผลการแข่งขันของคู่อื่นๆ เป็นใจให้
ฤาษีลูกหนังยังเผยอีกว่า ถ้าทีมของเขาตั้งใจช่วยให้สำเภาสีฟ้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกจริงๆ ก็คงไม่ส่งทีมชุดใหญ่ลงสนามพลางปล่อยให้โดนยิงขาดตั้งแต่แรก ไม่ใช่รอจนช่วงนาทีบาปแบบนั้น
3. ล่าสุด โจอี้ บาร์ตัน ก็เป็นอีกคนที่ออกมาเอาปังตอสับสุกรโลกันตร์
เขายอมรับว่าสะใจชิบหายเลยครับที่ แมนยูไนเต็ด ว่าวแชมป์ เนื่องเพราะเกลียดผีเข้าไส้
ส่วนเรื่องที่อดีตดาวเตะปีศาจแดงพยายามบอกว่า คิวพีอาร์ แกล้งไม่เอา โจอี้ บาร์ตัน ยืนยันหนักแน่าว่า 'ไม่จริง'
"พวกเราตั้งใจให้ คิวพีอาร์ อยู่รอด การมาบอกว่ากู, ฌิบริล ซิสเซ่, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, เนดุม โอนูโอฮา หรือ แพ็ดดี้ เคนนี้ ตั้งใจจัดฉากเพื่อให้แน่ใจว่าพวกมึงจะไม่ได้แชมป์ลีก มันบ้าบอสิ้นดี"
ก่อนสวนไปอีกว่าดาวยิงพันธุ์หมูเดือดเคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาหลายสมัยแท้ๆ น่าจะทำให้ทีมตัวเองมีแต้มมากกว่า แมนซิตี้ แต่เนิ่นๆ ไม่ใช่มัวแต่โทษคนอื่นเมื่อวืดแชมป์ในวันสุดท้าย
4. ในฐานะของเด็กผีที่มีอาการทางจิตเล็กน้อย
ผมก็แอบคิดเหมือน เวย์น รูนี่ย์ นะครับว่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2011-12 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม มันแปลกๆ
จริงอยู่ที่ ควีนส์พาร์ค ต้องพยายามเอาชนะให้ได้เพราะกำลังลุ้นหนีตกชั้นกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส
นั่นคือเหตุผลให้ คิวพีอาร์ เล่นเต็มที่จนบุกไปนำ แมนซิตี้ ถึงถิ่นแบบเซอร์ไพรส์
แต่พอรู้ผลอีกสนามว่า 'โบตั๋น' ทำได้แค่เสมอ สโต๊ค 2-2 แถมเกมจบก่อนสนามตัวเอง นั่นหมายความว่า คิวพีอาร์ รอดตกชั้นแน่นอนแล้ว
บวกกับบรรยากาศช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ 'อิสต์แลนด์ส' มันกดดันสุดๆ เพราะเมื่อรู้ว่า แมนยูไนเต็ด บุกชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ขืนทะลึ่งกับเจ้าถิ่น เรื่องมันอาจไม่จบง่ายๆ
หลังจากที่ เอดิน เชโก้ โหม่งตีเสมอให้ แมนซิตี้ 2-2 แทนที่จะดึงเวลา เพื่อปิดเกม กลับเตะบอลทิ้งไปข้างหน้าจนเจ้าบ้านได้บุกกลับมาครั้งสุดท้าย
ซะอย่างนั้น !!!
5. ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011-12 คือครั้งเดียวเท่านั้นที่การตัดสินแชมป์ต้องวัดกันด้วยผลต่างประตูได้-เสีย แล้วต้องลุ้นกันจนถึงวินาทีสุดท้าย
ประตูชัยของ เซร์คิโอ อเกวโร่ พร้อมภาพฉลองประตูถอดเสื้อขึ้นมาควง กลายเป็นโมเมนต์ที่คลาสสิคที่สุดครั้งหนึ่งในพงศาวดารลูกหนัง
แต่ แมนยูไนเต็ด ต้องโทษตัวเองจริงๆ นั่นแหละ เพราะตอนฤดูกาลนั้น เหลือแค่ 6 นัดสุดท้าย
ปีศาจแดงทิ้งห่าง แมนซิตี้ ถึง 8 แต้ม
ฟาคคคคคคกิ้ง เฮ้ว !!!