เป็นที่รู้กันดีว่า พรีเมียร์ลีก จัดเป็นลีกลูกหนังที่ลงทุนเซ็นสัญญากับพ่อค้าแข้งด้วยเม็ดเงินที่สูงที่สุดมาแต่ไหนแต่ไร
สำหรับช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดียังครองแชมป์ในด้านการใช้จ่ายรวมเป็นเงินทั้งสิ้นสูงเกินกว่า 3 พันล้านปอนด์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลิเวอร์พูล แชมป์ พรีเมียร์ลีก ทุ่มเงินเซ็นสัญญากับสตาร์ใหม่ค่าตัวแพงหลายรายทั้ง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ , อเล็กซานเดอร์ อิซัก และ อูโก้ เอกิติเก้
ว่าแต่ว่าสามนักเตะใหม่ของ หงส์แดง ติดโผท็อป 5 การเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดหลังการฟาดแข้งผ่านมาได้ 7 นัดหรือไม่ เราจะไปดูการจัดอันดับของ FootballTransfers กัน
1. นิค โวลเทอมาเดอ (75 ล้านยูโร) สตุ๊ตการ์ท สู่ นิวคาสเซิ่ล
หลังพยายามยื้อ อิซัก อยู่นานสองนาน แต่ไม่อาจรั้งตัวหัวหอกทีมชาติ สวีเดน เอาไว้ได้ เดอะ แม็กพายส์ ก็หันไปคว้ากองหน้าทีมชาติ เยอรมนี มาเสียบแทนโดยเขาเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในอันดับท็อปไฟฟ์นี้
ถูกเพ่งเล็งไม่น้อยเนื่องจากกองหน้าวัย 23 ปีเป็นการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดของทีม เดอะ แม็กพายส์ แถมการเป็นตัวแทนของ อิซัก ย่อมทำให้หัวหอกร่างโย่ง 199 ซม.กดดันไม่ใช่เล่น
อย่างไรก็ดี โวลเทอมาเดอ โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจเกินคาดเนื่องจากเขาสอยตาข่ายได้ 4 ประตูแล้ว แม้ลีลาการเล่นจะไม่ได้งามสง่า และไม่ได้พลิ้วไหวเหมือนฮีโร่คนเก่าของถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค หากแต่เขาตอบแทนทีมอีสานได้ด้วยประตูซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
2. มาร์ติน ซูบิเมนดี้ (70 ล้านยูโร) เรอัล โซเซียดาด สู่ อาร์เซน่อล
เคยตกเป็นเป้าหมายของ ลิเวอร์พูล แต่สุดท้ายเมินย้ายสังกัด ทว่ามันไม่เป็นปัญหาสำหรับ หงส์แดง เนื่องจาก อาร์เน่อ สล็อต ปรับให้ ไรอัน กราเฟนแบร์ก หันมาเล่นเป็นกองกลางตัวรับพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างยอดเยี่ยม
กระทั่งล่าสุด ดาวเตะทีมชาติ สเปน ทนความเย้ายวนของ พรีเมียร์ลีก ไม่ไหว และเลือกย้ายมาค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล โดยถึงขณะนี้ทีม ปืนใหญ่ ขยับเป็นจ่าฝูงแล้ว และอาจสมหวังได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครองก็เป็นได้
และที่สำคัญ การย้ายสู่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของสมาชิกแชมป์ ยูโร 2024 เปิดโอกาสให้ เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ ขยับไปเล่นในแดนบนมากขึ้น และส่งผลบวกต่อ เดอะ กันเนอร์ส อย่างเห็นได้ชัด
ถึงขณะนี้ พ่อค้าแข้งวัย 26 ปีทำให้แดนกลางของ อาร์เซน่อล มีความลงตัวมากขึ้น แถมช่วยแก้ปัญหาให้กุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ได้เช่นกันโดยเฉพาะการล้มเจ็บบ่อยครั้งของ มาร์ติน โอเดอการ์ด
3. โมฮัมเหม็ด กูดุส (63.8 ล้านยูโร) เวสต์แฮม สู่ สเปอร์ส
เห็นได้ชัดว่าการอำลา เวสต์แฮม ของสตาร์ทีมชาติ กาน่า ทำให้สโมสรตกต่ำดำดิ่งกระทั่ง แกรม พ็อตเตอร์ โดนปลดโดยมี นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ได้รับงานแทน
ในทางกลับกัน สเปอร์ส ของกุนซือ โธมัส แฟร้งค์ ฟอร์มพุ่งทันตาเห็นหลังได้ตัวดาวเตะวัย 25 ปีมาร่วมทีมโดยถึงตอนนี้ ไก่เดือยทอง รั้งอันดับสามของตารางคะแนนกับการมีแต้มตามหลัง อาร์เซน่อล แค่ 2 แต้มเท่านั้น
หลังสร้างผลงานกับ เดอะ แฮมเมอร์ส ได้อย่างยอดเยี่ยมในซีซั่นแรก กูดุส ฟอร์มตกลงไปเล็กน้อยในซีซั่นต่อมา แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ความสนใจตัวเขาจากสโมสรอื่นลดลงไปแต่อย่างใด
จนในที่สุด สเปอร์ส ตกลงจ่ายค่าฉีกสัญญา 63.8 ล้านปอนด์คว้าเขามาร่วมทีมโดย กูดุส ซัดประตูแรกในสีเสื้อของ ไก่เดือยทอง ได้แล้วในเกมล่าสุดที่พวกเขาบุกไปสยบ ลีดส์ 2-1 หลังครองตำแหน่งจอมแอสซิสต์สูงสุดร่วมของลีกอยู่ในเวลานี้
4. ชูเอา เปโดร (63.7 ล้านยูโร) ไบรท์ตัน สู่ เชลซี
เคยค้าแข้งกับ วัตฟอร์ด และกระหายกลับสู่ลอนดอนจึงเลือกย้ายจาก ไบรท์ตัน มาค้าแข้งกับ เชลซี
พาทีม สิงห์บลูส์ คว้าแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ได้ทันทีจากการยิงสามประตูจากสามเกมในรายการดังกล่าว
ไม่เพียงเท่านั้น กองหน้าทีมชาติ บราซิล สานต่อผลงานของตัวเองในศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ด้วยการคลำเป้าให้ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปแล้ว 2 ประตู และ 3 แอสซิสต์
5.แจ็ค กรีลิช (ยืม) แมนฯ ซิตี้ สู่ เอฟเวอร์ตัน
เรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้อีกรอบกับ เอฟเวอร์ตัน หลังล้มเหลวกับ แมนฯ ซิตี้ ทั้งๆที่ถูกดึงตัวไปจาก แอสตัน วิลล่า ในราคา 100 ล้านปอนด์
กลายเป็นนักเตะคนโปรดของสาวก ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน อย่างรวดเร็วจากการจัดแอสซิสต์ได้สูงสุด 4 ประตูร่วมกับ กูดุส ก่อนยิงประตูแรกของตัวเองกับทีม ลูกอม ได้สำเร็จในช่วงทดเวลานัดเปิดบ้านสยบ คริสตัล พาเลซ 2-1 หยุดสถิติไร้พ่ายในทุกรายการของ ดิ อีเกิ้ลส์ เอาไว้ที่ 19 นัด