ผลบอล เชลซี 2-1 ลิเวอร์พูล : หงส์ โดนนาทีบาปแพ้อีกเสียจ่าฝูง-เกมหน้าเจอ แมนยู

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าฟอร์มดร็อปแพ้สองนัดติดทุกรายการ แถมตอนนี้โดน อาร์เซน่อล แซงยึดหัวฝูงไปแล้ว บุกเยือน "สิงห์บลูส์" เชลซี ที่ฟอร์มเอาแน่นอนไม่ได้

เริ่มเกม 14 นาที มาโล กุสโต้ แตะบอลเร็วไปที่ มอยเซส ไกเซโด้ กระชากขึ้นหน้าระยะ 25 หลาส่องไกลบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมมุมบนฝั่งซ้ายพา เจ้าถิ่น นำ 1-0

เวลาล่วงเลยนาที 40 อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลากบอลเจอ โดมินิค โซโบซไล ตามประกบเหนี่ยวล้มในเขตโทษ กรรมการเช็ควีเออาร์เมินมอบจุดโทษให้ สิงห์บลูส์

ท้ายครึ่งแรกนาที 44 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดีดไซต์ก้อย อเล็กซานเดอร์ อิซัค เทคตัวโหม่งบอลข้ามคานออกหลังน่าเสียดาย

หมด 45 นาที เชลซี ออกนำ ลิเวอร์พูล 1-0

ต้นครึ่งหลังนาที 46 โคดี้ กัคโป ลากบอลทางกราบซ้ายปาดเรียดมาที่ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ลงสำรองหมุนตัวไขว้จ่ายหลุดถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงออกหลังด้านเสาขวาเหลือเชื่อ

จากนั้นนาที 62 โดมินิค โซโบซไล โยนบอลทางขวา อเล็กซานเดอร์ อิซัค หันหลังเกี่ยวบอลกระฉอกกลายเป็น โคดี้ กัคโป ตะบันตีคืน 1-1 

ท้ายเกมนาที 83 เอสเตเวา ลงสำรองปั่นบอลเลี้ยวจากขวา จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ เหินตัวปัดป้องกันพ้นอันตรายได้ยอดเยี่ยม

สิงห์บลูส์หวิดนำอีกนาที 89 มอยเซส ไกเซโด้ บรรจงซัดไกลติดเซฟปลายมือนายด่านหงส์แดง แถมทดเจ็บ 90+1 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ โหม่งบอลชนเสาเหลี่ยมนอกชวดโอกาสเฮอีกครา 

แต่แล้วนาที 90+6 เอสเตเวา สไลด์บอลจ่ายของ มาร์ก กูกูเรย่า พังสกอร์ จบเกม เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 "หงส์แดง" แพ้สามนัดติดทุกรายการ เสียจ่าฝูงให้ อาร์เซน่อล โดยหลังเบรกทีมชาติ จะเปิด แอนฟิลด์ดวล แมนยู ศึกแดงเดือด วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เชลซี (4-2-3-1): โรเบิร์ต ซานเชซ,รีซ เจมส์,จอช อาเชียมปง (จาร์เรลล์ ฮาโต้ น.68),เบอนัวต์ บาเดียชิล (โรมิโอ ลาเวีย น.55),มาร์ก กูกูเรย่า,มาโล กุสโต้,มอยเซส ไกเซโด้,เปโดร เนโต้ (เอสเตเวา น.75),เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ,อเลฮานโดร การ์นาโช่ (เจมี่ ไบโน-กิตเท่นส์ น.75),ชูเอา เปโดร (มาร์ก กิว น.75)

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่,คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ (ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ น.46),อิบราฮิมา โกนาเต้ (เคอร์ติส โจนส์ น.56),เฟอร์จิล ฟาน ไดค์,มิลอช เคอร์เคซ (แอนดี้ โรเบิร์ตสัน น.55),ไรอัน กราเฟนแบร์ค,อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (วาตารุ เอ็นโด น.86),โมฮาเหม็ด ซาลาห์,โดมินิค โซโบซไล,โคดี้ กัคโป,อเล็กซานเดอร์ อิซัค (อูโก้ เอกิติเก้ น.74)