กุนซือที่ดีคือกุนซือใหม่! 6 เหตุผล แมนยู ต้องปลด อโมริม ทันที

เท่าที่ผ่านมา อดีตโค้ชทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ย้ายมาปู้ยี่ปู้ยำ ผีแดง จนไม่มีชิ้นดีเนื่องจากเขาพาทีมชนะแค่ 9 นัด และแพ้มากถึง 17 นัดจากการคุมทีมลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 33 นัด

จากผลงานดังกล่าวทำให้ผู้จัดการทีมโปรตุกีสเป็นนายใหญ่ของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่พาทีมชนะเกมลีกด้วยเปอร์เซนต์ที่ต่ำต้อยที่สุดหลังพ้นยุคสงครามโลกครั้งที่สอง

อย่างไรก็ดี บีบีซี ยืนยันว่าบอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ด ยังพร้อมสนับสนุนให้ อโมริม ทำงานต่อไปจนจบซีซั่นทั้งๆที่ใครต่อใครพากันมองว่านายใหญ่วัย 40 ปีสมควรโดนปลดได้แล้วเนื่องจากไม่มีวี่แววเลยว่าเขาจะพาทีมคว้าผลลัพธ์ได้

เพื่อแสดงให้เห็นว่าบอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ด นิ่งนอนใจเกินไป หรือมั่นใจในตัวกุนซือมากเกินเหตุ หรืออาจขี้ตืดไม่คิดจ่ายเงินชดเชยในการปลด อโมริม ก็ตามแต่ นี่คือ 6 เหตุผลที่ชี้ให้เห็นว่า ผีแดง สมควรเปลี่ยนผู้จัดการทีมได้แล้ว

1. ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแผนการเล่น

เป็นที่รู้กันว่ากุนซือยอดฝีมือทั้งหลายมีวิสัยทัศน์ และมีปรัชญาที่พร้อมปรับเปลี่ยนระบบการเล่นเพื่อดึงความสามารถสูงสุดของนักเตะออกมา แต่ไม่ใช่สำหรับ อโมริม

ทั้งๆที่พาทีมร่วงลงสู่หุบเหว แต่กุนซือชาวเมืองฝอยทองปฏิเสธที่จะละทิ้งระบบ 3-4-3 ซึ่งแสดงให้เห็นมานานแล้วว่าไม่ได้ผลกับนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เขามีให้เลือกใช้สอย

"ไม่มีแผนสอง" อโมริม ยืนยันกับสื่อแม้ผลงานการคุมทีมของเขาจะเหลวแหลกชวนให้น่าอับอาย

"แม้แต่โป๊ปก็ไม่สามารถโน้มน้าวให้ผมเปลี่ยนแนวทางการเล่นของทีมได้" กุนซือจอมโอหังเสริมต่อเมื่อไม่นานมานี้

2. หมางเมินดาวรุ่งที่มีอนาคต

หลัง กาเซมีโร่ ติดโทษแบนจากการโดนไล่ออกในเกมชนะ เชลซี อโมริม มีทางเลือกในการใช้งานระหว่าง มานูเอล อูการ์เต้ กับ ค็อบบี้ เมนู นัดบู๊กับ เบรนท์ฟอร์ด

และเป็นอีกครั้งที่เขาละทิ้งมิดฟิลด์เด็กปั้นของสโมสรโดยเลือกส่งดาวเตะทีมชาติ อุรุกวัย ลงสนามกระทั่งทีมมีฟอร์มเลวร้ายอย่างที่เห็น

ว่ากันตามจริง อดีตมิดฟิลด์ทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งเคยร่วมงานกับ อโมริม ในทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไม่เคยมีเกมที่น่าประทับใจเลยนับตั้งแต่ย้ายมาหากินในเมืองผู้ดี แต่กุนซือจอมรั้นยังไม่คิดส่ง เมนู ลงบู๊เป็นตัวจริงเกมแรกของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

แน่นอน เขาอาจมองว่า เมนู มีฝีเท้าไม่ดีพอ หรืออาจไม่เข้ากับระบบของเขาซึ่งทำให้นักเตะร้องขอย้ายทีมแบบยืมตัวในช่วงซัมเมอร์ แต่ถูกปฏิเสธ

ก่อนจะถึงคิว เมนู อโมริม เคยขึ้นบัญชีดำ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อันโตนี่ มาแล้ว แต่หลังย้ายทีมปรากฏว่าทั้งสองมีผลงานที่ยอดเยี่ยมซึ่งสะท้อนให้เห็นได้เช่นกันว่าผู้จัดการทีมโปรตุกีสไม่ดีพอที่จะดึงความสามารถที่แท้จริงของนักเตะออกมา

3. วนลูปสามวันดีสี่วันไข้

แม้จะพาทีมเฝ้าบ้านเฉือนชนะ เชลซี ได้แบบหืดจับ 2-1 แต่เกมต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด ออกทะเลอีกตามเคยด้วยการออกไปโดน เบรนท์ฟอร์ด กำราบ 3-1 ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทีมไม่มีพัฒนาการเลยแม้แต่น้อย

นับเป็นความน่าอับอายของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างยิ่งเพราะถึงขณะนี้ อโมริม ยังคุมทีมชนะเกมลีกสองนัดติดต่อกันไม่ได้เลยนับตั้งแต่เขาเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนพ.ย.2024

หลังพ่ายต่อ เดอะ บีส์ อโมริม ชี้ว่านักเตะของทีมเล่นตามเกมของเจ้าบ้านก่อนตบท้ายด้วยมุกเดิมๆว่า ผีแดง ต้องมองถึงเกมหน้า

"แน่นอนว่าเราต้องการชนะ เราไม่ได้เป็นฝ่ายคอนโทรลเกม เราเล่นตามเกมของ เบรนท์ฟอร์ด ทั้งบอลจังหวะแรก จังหวะสอง และลูกเซ็ตพีซ ทุกจังหวะที่สำคัญไม่เป็นใจให้กับเรา มันแย่ที่แพ้อีกนัด แต่เราต้องคิดถึงนัดหน้า" 

ทำไปทำมา แมนฯ ยูไนเต็ด จึงยังมีปัญหาเต็มไปหมดซึ่งถึงขณะนี้ อโมริม ยังไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยทั้งๆที่เขาไม่ต้องคุมทีมลงเล่นนัดกลางสัปดาห์เนื่องจากคว้าโควต้าฟุตบอลยุโรปไม่สำเร็จ

4. ก่อความผิดพลาดซ้ำซาก

อ็องเดร โอนาน่า ถูกบีบให้ย้ายไปเฝ้าเสากับ แทรบซอนสปอร์ ภายใต้สัญญายืมตัวเนื่องจากขยันก่อความผิดพลาดอย่างไม่รู้จบ

อย่างไรก็ดี อัลตาย บายินดีร์ ก็เล่นพลาดไม่แพ้กัน รวมถึง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ทีมพ่ายต่อ เบรนท์ฟอร์ด

ไม่เพียงเท่านั้น ในเกมที่ว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็สังหารลูกโทษพลาดจนเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้ทีมปราชัยจนคล้ายกับว่าขุนพล เร้ด เดวิลส์ พร้อมเล่นพลาดกันทั้งนั้นอันนำมาซึ่งความตกต่ำของสโมสร

5. ผลลัพธ์ไม่โกหก

นับตั้งแต่รับตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด อโมริม พาทีมเก็บได้แค่ 34 แต้มจากการคุมทีมลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 33 นัด

ถ้าไม่ช็อกก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วเนื่องจาก อโมริม พาทีมเก็บแต้มได้เฉลี่ยเกมละ 1.03 แต้มเท่านั้นซึ่งเท่ากับว่าหากจบซีซั่น 38 นัด ผีแดง จะมีแต้มทั้งหมดแค่ 39 แต้ม และเสี่ยงต่อการตกชั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรเสีย อโมริม รอดพ้นจากสถานการณ์ที่ว่าแม้ซีซั่นก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด จะคว้าอันดับ 15 เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา ระดับชั้นของ พรีเมียร์ลีก ถีบตัวห่างจาก แชมเปี้ยนชิพ มากขึ้นทุกทีอันทำให้สามทีมน้องใหม่มักนัดกันจองศาลากลับบ้านเก่าแม้ ผีแดง จะมีผลงานเลวร้ายขนาดไหนก็ยังได้อยู่ในลีกสูงสุดต่อไป

6. ปากไม่มีหูรูด

ทั้งๆที่คุมทีมมีผลงานเลวร้ายสุดขั้ว อโมริม ยังไม่วายให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อด้วยคำพูดที่แสลงหูตลอดเวลา

หลังพาทีมพ่ายต่อ ไบรท์ตัน เมื่อเดือนม.ค.เขาระบุว่า  แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้เป็นทีมที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรซึ่งถือเป็นประโยคที่สร้างความเจ็บปวดให้กับสาวก เร้ด อาร์มี่ รวมถึงตัวนักเตะเองด้วย

แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริงเนื่องจากซีซั่นนี้ ผีแดง ยังเพิ่มเติมความหดหู่ได้อีกถึงขนาดแพ้ กริมสบี้ จนกระเด็นตกรอบสองถ้วย คาราบาว คัพ ซึ่งหากทีมงานของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ไม่ได้เข้ามาบริหารสโมสรก็เชื่อว่าตระกูล เกลเซอร์ ไม่น่าจะเก็บกุนซือโปรตุกีสเอาไว้ทำยานานขนาดนี้

ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะอย่าลืมว่าการปลดกุนซือหัวแข็งคนเดียวสามารถแก้ปัญหาได้ทันทีแทนที่จะเปลี่ยนนักเตะทั้ง 22 รายเพื่อให้เล่นตามระบบหลังสามของเขาได้อย่างลงล็อก