ลิเวอร์พูล vs อาร์เซน่อล เทียบโปรแกรม 5 นัดหน้า ใครเจองานหนักกว่ากัน

ลิเวอร์พูล vs อาร์เซน่อล เทียบโปรแกรม 5 นัดหน้า ใครเจองานหนักกว่ากัน
พรีเมียร์ลีกเดือด! ลิเวอร์พูล ต้องชนทั้ง เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด และ แมนฯ ซิตี้ ใน 5 นัดหน้า ส่วน อาร์เซน่อล ได้เปรียบลงเตะก่อน 4 จาก 5 เกม มีโอกาสโกยแต้มแซงขึ้นจ่าฝูง กดดันหงส์แดงเต็มที่

ความเคลื่อนไหวศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงเข้มข้น โดยโปรแกรม 5 นัดถัดไปของทั้ง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ถูกจับตามองอย่างมาก เนื่องจากทั้ง 2 ทีมกำลังเบียดแย่งตำแหน่งจ่าฝูง

จุดสำคัญอยู่ที่วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมนี้ อาร์เซน่อล จะลงสนามก่อน โดยเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หากเก็บชัยชนะได้จะมีแต้มแซงขึ้นจ่าฝูงทันที ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะบุกเยือน เชลซีใ นคู่ดึก ซึ่งถือเป็นงานหนักเพราะ “หงส์แดง” ไม่เคยชนะที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมลีกมาตั้งแต่ปี 2020

นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังได้ลงสนามก่อนถึง 4 จาก 5 เกมถัดไป ยกเว้นเพียงวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม ที่ ลิเวอร์พูล ต้องบุก เบรนท์ฟอร์ด ในคู่ดึก ก่อนที่ “ปืนใหญ่” จะเปิดบ้านพบ คริสตัล พาเลซ ในวันอาทิตย์

โปรแกรม 5 นัดถัดไปของลิเวอร์พูล

เสาร์ 4 ต.ค. : เชลซี (เยือน) 23.30 น.

อาทิตย์ 19 ต.ค. : แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า) 22.30 น.

เสาร์ 25 ต.ค. : เบรนท์ฟอร์ด (เยือน) 02.00 น.

เสาร์ 1 พ.ย. : แอสตัน วิลล่า (เหย้า) 03.00 น.

อาทิตย์ 9 พ.ย. : แมนฯ ซิตี้ (เยือน) 23.30 น.

โปรแกรม 5 นัดถัดไปของอาร์เซน่อล

เสาร์ 4 ต.ค. : เวสต์แฮม (เหย้า) 21.00 น.

เสาร์ 18 ต.ค. : ฟูแล่ม (เยือน) 23.30 น.

อาทิตย์ 26 ต.ค. : คริสตัล พาเลซ (เหย้า) 21.00 น.

เสาร์ 1 พ.ย. : เบิร์นลี่ย์ (เยือน) 22.00 น.

เสาร์ 8 พ.ย. : ซันเดอร์แลนด์ (เยือน) 00.30 น.

วิเคราะห์ความหนัก-เบาโปรแกรม

ลิเวอร์พูล เจอโปรแกรมโหดต่อเนื่อง โดยต้องพบทั้ง เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด และ แมนฯ ซิตี้ ภายใน 5 เกม ถือเป็นงานหนักในการรักษาตำแหน่งลุ้นแชมป์ โดยถึงแม้ทีม "ปีศาจแดง" ฟอร์มไม่ดี แต่ยี่ห้อศึกศักดิ์ศรี "แดงเดือด" ย่อมไม่ยอมกันง่าย ๆ

อาร์เซน่อล ได้เปรียบจากโปรแกรมที่เบากว่า คู่แข่งส่วนใหญ่อยู่ระดับกลางตารางหรือกลุ่มหนีตกชั้น ทำให้มีโอกาสเก็บแต้มได้ต่อเนื่อง จะมีงานหนักสุดก็เจอ พาเลซ ที่เพิ่งหักปีกหงส์แดงมาหมาด ๆ แต่กระนั้นก็ยังได้เปรียบลงเล่นในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

สรุปได้ว่า ในช่วง 5 เกมถัดไป อาร์เซน่อล มีโอกาสโกยแต้มและสร้างแรงกดดันให้ ลิเวอร์พูล เต็มที่ โดยเฉพาะการได้ลงสนามก่อนถึง 4 เกม ซึ่งอาจเป็นตัวแปรสำคัญในการชี้ชะตาการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้



ที่มาของภาพ : reuters
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport