ทำไม โม ซาล่าห์ ไม่เคยได้บัลลงดอร์-ติดท็อป3ทั้งที่ฟอร์มดีต่อเนื่อง

1. นับตั้งแต่ย้ายมาสวมเครื่องนุ่งห่มหงส์แดง เมื่อ 2017 กระทั่งบัดเดี๋ยวนี้ เขาคือผู้เล่นที่สำแดงอิทธิเดชบรรลัยกัลป์ออกมาอย่างสม่ำเสมอมากที่สุด

คิดง่ายๆ ว่าไม่เคยมีฤดูกาลไหนที่ยิงรวมกันได้ต่ำกว่า 20 ประตู

ขนาดฤดูกาล 2022/23 ที่ถูกวิจารณ์ว่าฟอร์มตก ยังอุตส่าห์กดไป 30 ประตูในทุกรายการ

2. เรื่องที่แปลกประหลาด คือนอกจากไม่เคยได้รับรางวัลนี้ 'พี่โม' ยังไม่เคยติด 3 อันดับแรกเลยสักครั้ง

ผลงานในปี 2025 เขามีส่วนร่วมกับการถล่มตาข่ายแทบไม่เป็นรองใครในเวทียุโรป แถมยังเป็นกุญแจสำคัญช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

คะแนนโหวตกลับได้แค่อันดับ 4 บางทีมันก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน ทั้งๆ ที่พรีเมียร์ลีก คือสมรภูมิแข้งที่มีอัตราความยากมากที่สุดในเมืองมนุษย์

3. เข้าใจว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของ 'จังหวะ' และ 'เวลา' ซะมากกว่า

ยกตัวอย่าง ฤดูกาล 2017/18 ที่ โม ซาล่าห์ เพิ่งย้ายตูดมา ลิเวอร์พูล ใหม่ๆ แล้วอาละวาดสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวช่องเขา ด้วยการยิงกระหน่ำไป 44 ประตู ในทุกรายการ 'หงส์แดง' ทะยานถึงนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก

มันดันเป็นปีที่มี 'ฟุตบอลโลก 2018' พอดี แล้ว ลูก้า โมดริช ดันระเบิดฟอร์มพา โครเอเชีย เข้าชิง แถมคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรป โดยมีชัยเหนือ ลิเวอร์พูล ซะด้วย

รางวัลบัลลงดอร์เลยตกเป็นของดาวเตะตัวเก๋าผู้นี้แบบไม่มีทางหลีกเลี่ยง

นี่แหละคือเรื่องของ 'จังหวะ' และ 'เวลา' ที่ผมหมายถึง

4. เช่นเดียวกับฤดูกาลต่อๆ มาที่แม้น 'พี่โม' จะยังคงโชว์ฟอร์มได้ไฉไลสม่ำเสมอ ทว่ามักจะมีดาวเตะที่โดดเด่นกว่าในสายตาของนักข่าวผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสมอ

เฉพาะอย่างยิ่ง ลีโอเนล เมสซี่ ที่เสมือนหนึ่งขวัญใจนักข่าวและช่างภาพที่กวาดรางวัลลูกบอลทองคำไปอีกถึง 3 ครั้งในปี 2019, 2021 และ 2023

ส่วนในปี 2020 ที่ ลิเวอร์พูล พุ่งเข้าชนตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบสิบล้อเบรคแตกเมายาบ้า โดย โม ซาล่าห์ อุตส่าห์ซัดไป 23 ประตู ก็ดันสู้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่คว้า 'ทริปเปิ้ลแชมป์' กับ บาเยิร์น มิวนิค ไม่ได้ แถมปีนั้นยังติด 'โควิด' จนไม่มีการมอบรางวัลอีกตะหาก

5.ตัดกลับมาที่ปีนี้อีกครั้ง

นี่คือปีที่ 'ราชันแห่ง แอนฟิลด์' ระเบิดความสยดสยองออกมามากที่สุดฤดูกาลหนึ่ง (ยิงน้อยกว่าฤดูกาล 2017/18 แค่ฤดูกาลเดียว) จนดลบันดาลให้พลพรรคหงส์แดงคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ยี่หมิบได้สำมะเร็จ

แต่ ลิเวอร์พูล กลับพลาดท่าเสียทีให้ เปแอสเช ของ อุสมาน เดมเบเล่ ในรอบ 16 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซะอย่างนั้น !!!

ที่สำคัญ เปแอสเช ก็ไปไกลถึง 4 แชมป์ โดยที่มี 'เดมบูซ' เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน แล้วไหนจะฟอร์มการเล่นอันมหัศจรรย์ของ ลามีน ยามาล อีก

คือถ้าดูจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละปี มันมักจะมีอะไรบางอย่างที่มาขัดขวางการได้ชิงรางวัลบัลลงดอร์ ของ โม ซาล่าห์ มาตลอด

แต่ 'เด็กหงส์' ส่วนใหญ่คงไม่ซีเรียสอะไรที่ดาวเตะขวัญใจของตัวเองพลาดโทรฟี่นี้...ชิมิคะ ???

โบนัส แทร็ค: ไม่รู้ผมคิดมากไปเองหรือเปล่า คือไม่เคยมีนักเตะจากทวีปแอฟริกา คว้าบัลลงดอร์ มาตั้งแต่ปี 1995 ที่ จอร์จ เวอาห์ คือคนสุดท้าย