ลิเวอร์พูล อาจมีโชคบ้าง แต่ชัยชนะดราม่าบ่อยครั้ง มาจากแนวคิดบวกของ อาร์เน่อ สล็อต เป็นหลัก
นักข่าว, คนเขียนเกม หรือใครที่ต้องโพสต์ผลการแข่งขันต้องเจอฝันร้ายบนหน้ากระดาษแบบเดิม ๆ อยู่เสมอ
ไม่ใช่เพราะพวกเขาเขียนพลาด แต่เพราะ ลิเวอร์พูล บังคับให้ต้องลบย่อหน้าเก่าแล้วเริ่มต้นใหม่ในช่วงท้ายเกมทุกครั้ง
พาดหัวที่เตรียมไว้ถูกฉีกทิ้งเพราะสกอร์บอร์ดมีการเปลี่ยนแปลง และเมื่อคืนวันพุธที่เพิ่งผ่านมาก็เป็นอีกครั้งที่เกิดเหตุการณ์นั้น
เดวิด ลินช์ คอลัมนิสต์ของ This is Anfield บอกไว้ว่า เมื่อเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น แฟนบอลเจ้าถิ่นที่เดินออกจากสนามยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีหนึ่งในนั้นหันไปยกมือทักสื่อมวลชนบนบ็อกซ์ พร้อมตะโกนลั่นว่า
"Make sure you call us the devil’s club!"
"อย่าลืมเรียกพวกเราว่า สโมสรปีศาจล่ะ!”
คำพูดนั้นกลายเป็นพาดหัวที่สรุปทุกอย่างได้ครบถ้วน เพราะ ลิเวอร์พูล ชนะ แอตเลติโก มาดริด 3-2
อีกหนึ่งค่ำคืนที่พวกเขาทำให้ผู้คนต้องเชื่อว่า ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเป็นช่วงเวลาของ ลิเวอร์พูล จริง ๆ
...
ถ้ามองเผิน ๆ หลายคนอาจบอกว่ามันคือโชค หรือเป็นเพราะสัญญากับปีศาจ
แต่เมื่อมองลึกลงไป จะเห็นว่านี่คือการผสมผสานระหว่างแท็กติกที่เฉียบคมกับความเชื่อมั่นของคนทำทีม
โปรแกรมเปิดซีซั่นของ ลิเวอร์พูล จริง ๆ มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลยนะครับ
บอร์นมัธ ที่แพ้ ลิเวอร์พูล นัดเปิดซีซั่น แต่หลังจากนั้นมาก็กำชัย 3 เกมรวด
นิวคาสเซิ่ล ที่เสียสามประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งสามประตูนั้นก็เกิดขึ้นในเกมเจอ ลิเวอร์พูล
เช่นเดียวกับ อาร์เซน่อล ที่คลีนชีต 3 จาก 4 เกม นัดเดียวที่โดนเจาะได้คือเกมบุกเยือน แอนฟิลด์
ส่วน เบิร์นลี่ย์ ไม่แพ้ใน เทิร์ฟ มัวร์ ตั้งแต่ 19 พฤษภาคมปี 2024 แล้วก็มาแพ้เมื่อ 14 กันยายนที่ผ่านมา
แม้แต่ แอต.มาดริด ของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ก็แทบไม่สามารถทำให้เกมดูสูสีได้เลย
เรื่องสำคัญอีกอย่างคือ ลิเวอร์พูล ไม่เคยตกเป็นฝ่ายตามในเกมเหล่านี้สักครั้ง นั่นทำให้พวกเขามีหนทางมากพอที่จะหาชัยชนะช่วงท้ายเสมอ
...
สไตล์ของเฮดโค้ชอาร์เน่อ ชัดเจนว่าเขาไม่ยอมจบเกมแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ตัวสำรองมักถูกส่งลงมาเพื่อเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันทุกครั้ง
เกมกับ บอร์นมัธ และ นิวคาสเซิ่ล ได้ประตูชัยจาก เฟเดริโก้ เคียซ่า และ ริโอ เอ็นกูโมฮา
เกมกับ อาร์เซน่อล และ เบิร์นลี่ย์ เป็น เคอร์ติส โจนส์ และ เจเรมี่ ฟริมปง ที่สร้างจังหวะได้จุดโทษและฟรีคิกจนทีมคว้าสามแต้ม
แม้กระทั่งเกมกับ แอต.มาดริด แม้ไม่ได้มีตัวสำรองยิงประตูโดยตรง แต่การเลือกเปลี่ยน มิลอส เคอร์เคซ ลงแทน แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ก็สะท้อนชัดถึงแนวคิดเพิ่มพลังบุกช่วงท้าย และมันก็ได้ผล
"โชค" อาจมีส่วน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ อาร์เน่อ ไม่เคยปล่อยให้ทีมย่ำอยู่กับความลังเล เขาเชื่อมั่นในสภาพร่างกายและจิตใจของนักเตะเสมอ
ความคิดเชิงลบหรือความลังเล ไม่เคยนำพาผลลัพธ์ที่ดีมาให้ และ อาร์เน่อ ก็ไม่เคยถูกมองว่าเป็นโค้ชที่ติดอยู่กับสิ่งเหล่านั้น
เฮดโค้ชดัตช์ พยายามอธิบายว่า ทำไมทีมของเขาถึงเชี่ยวชาญในการคว้าชัยจากสถานการณ์กดดันเช่นนี้
"คุณไม่มีวันมั่นใจได้ 100% หรอกว่าจะได้ประตูชัย แต่สิ่งที่ผมรู้คือเราฟิตพอที่จะวิ่งบุกอีกครั้งเสมอ"
"จะมีบางเกมที่เรายิงนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 6 และปิดงานง่าย ๆ แต่ก็มีบางเกมที่เราต้องลุ้นประตูท้ายเกมจนถึงวินาทีสุดท้าย สิ่งเดียวที่ยืนยันได้คือ เราจะพยายามบุกเพื่อคว้าชัยชนะเสมอ"
แฟนบอลอาจจะอยากให้ทีมรักเลิกทำให้หัวใจแทบวายทุกนัดเพื่อสุขภาพของตัวเอง
แต่พวกเขาก็มั่นใจได้เลยว่า หากเกมยังเสมอเมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลา เฮดโค้ชของพวกเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้การนั่งเชียร์จนจบเกมนั้นคุ้มค่าที่สุด
เพราะตราบใดที่เสียงนกหวีดยังไม่ดัง คุณก็ยังไม่รู้ว่าหน้ากระดาษของนักข่าวจะถูกลบและเขียนใหม่อีกกี่ครั้ง
#HOSSALONSO